"จักรภพ" เชื่อ "ทักษิณ" ออกนอกประเทศครั้งนี้เป็นการทดสอบ ใช้ตัวเองเป็นบทพิสูจน์ว่ามีใครเข้าใจแค่ไหน

นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตที่ปรึกษาของเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับเรื่องเด่นเย็นนี้ ระบุว่า ตัวเขาคิดว่าการเดินทางออกนอกประเทศของคุณทักษิณ ในครั้งนี้ "เป็นการทดสอบ" เพราะ เคยคุยกันว่าการเมืองยังเดินหน้าไปอย่างปกติหรือไม่



ถ้าเราเป็นผู้นำทางการเมืองคนหนึ่ง เราไม่มีคนจะให้ถามว่าเกิดอะไรขึ้นในบ้านเมือง เราก็อาจจำเป็นต้องใช้ตัวเองเป็นบทพิสูจน์ คำว่า ทดสอบ จึงหมายถึงการทดสอบตัวเองว่า หากขยับอะไรทางการเมืองหรือทางส่วนตัว จะมีใครเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เหตุการณ์ที่สนามบิน เป็นตัวที่บอกว่า มันยังไม่ใช่เหตุการณ์ที่ปกติทั้งหมด มีความเห็นที่ไม่ตรงกันอยู่ด้วย บางคนมองว่าเป็นกิจกรรมส่วนตัว เดินทางได้ตามเสรีภาพ บางคนเห็นว่า เพื่อป้องกันปัญหาทางการเมืองก็บอกว่าไม่ควรเดินทาง เหตุการณ์เดียวบอกได้เลยว่า มีการแข่งขันด้านอำนาจ มองไม่เหมือนกัน



เมื่อถามว่าแล้วผลการทดสอบครั้งนี้คืออะไร คุณจักรภพ ย้ำว่า บ้านเมืองไม่ปกติ จำเป็นต้องมีการคุยกันนอกรอบกัน เมื่อถามว่า ใครต้องคุยกับใคร คุณจักรภพ บอกว่า ใครก็ได้ ซึ่งไม่ควรจะมาวางแผนกันตรงนี้ เมื่อถามว่าแล้วสิ่งที่ควรคุยกันคืออะไร คุณจักรภพ บอกว่า เราอนุญาตให้รัฐธรรมนูญทำตามกลไกของมันก่อนดีไหม เราพยายามใช้การบริหารร่วมด้วยดีไหม เรื่องบางเรื่องไม่ควรจะมีการดำเนินคดีความกันทุกขั้นตอน ไม่ใช่จะมีคดีใหม่กันทุก 3 วัน ตอนนี้ไม่ต้องมีอะไรดีวิเศษหรอกครับ ขอให้มันกลับสู่ภาวะปกติก็พอ



ส่วนการนัดฟังคำสั่งบังคับโทษคดีชั้น 14 วันพรุ่งนี้ คุณจักรภพ มองว่า คุณทักษิณคงไปด้วยอารมณ์เดิม คือ ที่ทำทั้งหมดเพราะอยากให้ประเทศชาติดีขึ้น คิดง่ายๆ แบบนี้ เพียงแต่เมืองไทยมันไม่ง่าย



นอกจากนี้ คุณจักรภพ ยังบอกว่า ตอนที่อยู่ต่างประเทศด้วยกัน คุณทักษิณเคยพูดว่า ถ้าผมเดินไปติดคุก แล้วผมมีความปลอดภัยตามสิทธิ์ของผม แล้วประเทศหยุดทะเลาะกัน ผมจะเดินเข้าไปพรุ่งนี้เลย ปัญหาคือ มันหยุดไหม คนเกิดเป็นผู้นำ ก็จะมีชะตากรรมแบบนี้ คือต้องตัดสินใจมากกว่าที่ชาวบ้านเขาทำกันเพื่อให้ผลเป็นประโยชน์ต่อคนอื่น



แต่หากผลพรุ่งนี้เป็นบวก จะเดินหน้าอย่างไรต่อ คุณจักรภพ บอกว่า หากผลเป็นสัญญาณที่ดีต่อการเมือง พรรคเพื่อไทยจะเป็นพรรคแรกที่ทำงานตามกลไกทุกอย่างที่รัฐธรรมนูญกำหนด เราจะก้มหน้าก้มตาทำงานเพราะไม่อยากเห็นสงครามกีฬาสี

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pdFjU8EzwV0