เลือกตั้งและการเมือง
เปิด 13 ข้อตกลงประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้องหยุดยิง รักษาสันติภาพ
7 ส.ค. 2568
51 views
เสร็จสิ้นลงด้วยดี การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันนี้ ไทย และ กัมพูชา ลงนามข้อตกลงหยุดยิงร่วมกัน 13 ข้อ โดย มีเอกอัครราชทูต จีน และ สหรัฐอเมริการ่วมสังเกตการณ์
ซึ่งพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ยืนยันว่า การหารือเป็นไปอย่างฉันมิตร แต่ยังมี 2ประเด็นที่ ฝ่ายกัมพูชายังไม่ได้ตอบรับ คือ เรื่องความร่วมมือในการ เก็บกู้ทุ่นระเบิด กับเรื่องปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการ คณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC หลังเวลาหารือร่วมกับ พลเอก เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา กว่า 1 ชั่วโมง
เริ่มต้นการแถลง พลเอกณัฐพล ขอบคุณทางการมาเลเซีย ที่เป็นคนกลางและช่วยประสานงาน ให้การประชุมครั้งนี้ผ่านไปเรียบร้อย โดยมีสหรัฐอเมริกาและจีน ร่วมสังเกตการณ์เช่นเดียวกับการประชุมพิเศษเมื่อ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา
ประเด็นสำคัญการแถลง พลเอกณัฐพล เปิดเผยว่า ตนเองเน้นย้ำในที่ประชุม ว่า ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ฝ่ายไทยปฏิบัติตามสิ่งที่ผู้นำทั้งสองเห็นชอบร่วมกัน เรื่อการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด แต่พบว่า ฝ่ายกัมพูชาการ มีการละเมิดหยุดยิง หลังเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม ซึ่งไทยใช้ความอดทนอดกลั้นที่สุด และตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น แม้ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนมีความสงบ แต่ พบว่ากัมพูชายังเสริม
เสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่ และยังมีการใช้อากาศยานไร้คนขับ เข้ามาสอดแนมในพื้นที่ต่างๆของไทย ซึ่งเป็นการทำที่ยั่วยุและอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน
นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลและข่าวที่บิดเบือน ไม่สร้างสรรค์ ไม่ช่วยให้สร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการเจรจาและฟื้นฟูความสัมพันธ์
อย่างไรก็ตาม การประชุม GBC ครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชาระดับนโยบาย ได้แสดงให้เห็นความจริงใจต่อมาตรการหยุดยิงที่ได้ตกลงกันไว้ การกระทำที่ละเมิดการหยุดยิงที่กล่าวมาข้างต้น อาจเป็นการดำเนินการโดยพลการของหน่วยงานในพื้นที่
จากนั้น พลเอกณัฐพล ได้สรุปข้อตกลงร่วมกัน ทั้ง 13 ข้อ และเปิดเผยว่า หลังจากนี้จะมีการประชุม RBC ภายในสองสัปดาห์ เพื่อประสานงานการปฎิบัติตามสิ่งที่ได้ตกลงกันไว้
และ จะมีการประชุม GBC อีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้า เพื่อติดตามความคืบหน้าการผลประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม มีอีก 2 ประเด็นสำคัญ ที่ตนได้ยิบหยกขึ้นมาหารือ แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่ตอบรับ โดยขอให้มีการประชุมครั้งนี้เน้นเฉพาะการหยุดยิงก่อน และขอให้นำไปหารือการประชุม GBC ครั้งต่อไป
2 เรื่องที่ ฝ่ายกัมพูชา ยังไม่ได้ตอบรับคือ
1.ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความตึงเครียด จนนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน เรื่องนี้ฝ่ายไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับกัมพูชา ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ที่มีการปะทะ และพื้นที่อื่นๆตลอดแนวชายแดน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองฝ่าย
2.ความร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ หรือ ออนไลน์สแกรม ซึ่งส่งผลต่อประชาชนคนไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคอย่างกว้างขวาง
สำหรับเอกสาร ลงนาม 13 ข้อตกลง เป็นการลงนามร่วมกัน ระหว่าง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของไทย และ พลเอกเตีย เซรย-ฮา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
มี สาระสำคัญ ดังนี้
1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี
2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.68 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย
3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชา
4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน
เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.68 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน
5. ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี
6. การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ
7. กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์
8. เห็นชอบให้เพิ่มในเรื่องของการปฏิบัติดังนี้
8.1 ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่
8.2 จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค. 68
8.3 ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ
9. งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม
ส่วนที่ 2 กลไกตรวจสอบการหยุดยิง
10. ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค. 68 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย
11. เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีโดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย
12. ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซีย เป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำประเทศไทย และกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว
ส่วนที่ 3 การประชุม GBC
13. ให้จัดการประชุม GBC ในหนึ่งเดือนหลังจากวันนี้ 7 ส.ค.68 (สถานที่จะตกลงกันภายหลัง)
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/t3nAyj5IIko
แท็กที่เกี่ยวข้อง