เลือกตั้งและการเมือง
จะลวงโลกถึงไหน! เขมรพาทูตทหารดูความเสียหาย ปั้นเรื่องเล่าเป็นฉากๆ อ้างฝีมือทัพไทย
30 ก.ค. 2568
147 views
เมื่อเวลาประมาณ 11 นาฬิกาที่ผ่านมา กัมพูชาได้นำทูต ผู้ช่วยทูตทหารจากต่างประเทศ และสื่อลงพื้นที่ไปดูความเสียหายจากการสู้รบกับไทยที่จังหวัดพระวิหาร พร้อมสังเกตการณ์การหยุดยิงระหว่างกองทัพของทั้งสองประเทศ
สำหรับทูตและผู้ช่วยทูตทหารที่กัมพูชาพาลงพื้นที่ไปมีทั้งหมด 13 ประเทศ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ลาว เวียดนาม และเมียนมา
สื่อของกัมพูชารายงานว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบความเสียหายจากการโจมตีของไทย ที่สร้างความเสียหายให้กับอนุสาวรีย์ ตลาด และถนนหนทางอื่นๆ ซึ่งในการนี้ ผู้บัญาชาการทหารของกัมพูชาได้กล่าวกับคณะทูตถึงความหน้าไหว้หลังหลอกอันชั่วร้ายของกองทัพไทยที่เล่นตุกติกกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม
พลตรีจันทน์ โสภักตรา ผู้บัญชาการกองกำลังประจำพื้นที่ปราสาทพระวิหารได้บอกกับคณะทูตว่า วันนี้ เขาพาคณะทูตและทูตทหารจากต่างประเทศทุกคนลงพื้นที่แห่งนี้เพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นจากการสู้รบกับไทยในช่วง 5 วันที่ผ่านมา
เขากล่าวว่าตั้งแต่วันที่ 24 – 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทหารของกัมพูชาได้พยายามตั้งรับการโจมตีของฝ่ายไทยมาโดยตลอด กัมพูชามีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างสันติ แต่ฝ่ายไทยกลับไม่ยอม และเอาแต่โจมตีฝ่ายกัมพูชา
พลตรีจันทน์ยืนยันกับคณะทูตว่า สิ่งที่เขาพูดไปนั้น เขาไม่ได้พูดในฐานะของพลเมืองกัมพูชา แต่พูดตามความจริงที่ทุกคนได้เห็น เขายืนยันว่ากองทัพกัมพูชาปฏิบัติตามคำสั่งของผู้นำอย่างเคร่งครัด และนับตั้งแต่มีข้อตกลงหยุดยิง ทหารของกัมพูชาก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
พลตรีจันทน์อ้างว่า เมื่อเวลา 05.18 น. ของวันที่ 29 กรกฎาคม กองทัพกัมพูชาถูกกองทัพไทยโจมตี ซึ่งฝ่ายไทยมาพร้อมกับรถถังและทหารอีกประมาณ 15 ถึง 13 นาย แถมยังใช้อาวุธหนักยิงใส่ทหารกัมพูชา 2 นัดด้วย ทั้งๆ ที่พวกเขาประจำการอยู่ในดินแดนของตัวเอง เขาพยายามที่จะขอการอนุญาตจากผู้บังคับบัญชาให้โจมตีตอบโต้ แต่ถูกผู้บังคับบัญชาสั่งห้าม และให้ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ดังนั้น กองกำลังของเขาในตอนนั้นจึงต้องหลบอยู่ในบังเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตี
จากนั้นกองกำลังไทยก็เข้ายึดบังเกอร์ของทหารกัมพูชา หลังจากถูกทหารไทยยึดบังเกอร์ได้ พวกเขาก็โบกมือและเรียกทหารกัมพูชากลับไป เมื่อทหารของกัมพูชาเห็นทหารไทยโบกมือและเรียกกลับ ทหารกัมพูชาก็เลยกลับไป ตอนที่ไปพบกับทหารไทย มีเพียง 5 หรือ 6 คนจากฝ่ายกัมพูชาเท่านั้นที่เข้าไปกับฝ่ายทหารไทยโดยตรง
ตอนแรก ทหารไทยแสดงท่าทีที่ดีมากต่อทหารกัมพูชา พวกเขายิ้มและจับมืออย่างเป็นมิตร จากนั้นพวกเขาก็ได้คุยกันเรื่องการหยุดยิง หลังจากนั้นทหารไทยก็เรียกทหารกัมพูชาไปถ่ายรูปหมู่ ซึ่งพลตรีจันทน์ยืนยันว่า ภาพถ่ายดังกล่าวสามาถใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงการหยุดยิงได้
และประเด็นสำคัญที่พลตรีจันทน์ได้บอกกับคณะทูตต่างประเทศคือ ขณะที่ทหารกัมพูชากำลังถ่ายรูป ทหารไทยก็ย่องมาจากด้านหลังและใช้ปืนจ่อทหารกัมพูชา ในระหว่างนั้น พวกเขาก็ได้จับกุมทหารกัมพูชาไป 20 นาย แต่มี 1 นายหลบหนีมาได้ และกลับมารายงานให้เขารับทราบ และในระหว่างการรายงาน นายทหารที่หนีมาได้บอกว่าอาจมีทหารอีก 2 นายถูกสังหารไปแล้วในตอนนั้น
พลตรีจันทน์ก็พูดถึงภาพรวมของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 วันที่ผ่านมา และขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นายกรัฐมนตรีอันวาร์อิบราฮิม ของมาเลเซีย และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ที่ช่วยเป็นตัวกล่างในการทำข้อตกลงหยุดยิง
หลังจากนั้น นายทหารอีกรายหนึ่งก็ได้พูดเป็นภาษาอังกฤษยืนยันกับคณะทูตว่า กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด คือ ไม่มีการยิง ไม่มีการเคลื่อนกำลังพลหรือการลาดตระเวน และแน่นอนคือ ไม่มีการเสริมกำลังพลหรือเคลื่อนกำลังพลบริเวณชายแดน แต่เมื่อวานนี้ เมื่อเวลา 8 นาฬิกา มีทหารไทยเดินเข้ามาในดินแดนของกัมพูชาประมาณ 6 – 7 นาย
นายทหารคนดังกล่าวบอกว่าทหารไทยเดินเข้ามานั่งและขอให้ทหารกัมพูชาออกไป ฝ่ายกัมพูชาก็ขอให้ทหารไทยออกไป แต่พวกเขาก็ไม่ยอมออกไป จนถึงกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. พวกเขาจึงยอมกลับไป ซึ่งเขายืนยันว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
และในช่วงท้าย นายทหารคนนี้ บอกกับคณะทูตว่า ทางกัมพูชากำลังดำเนินการเรื่องการปล่อยตัวทหารที่ถูกจับกุม และกำลังทำงานร่วมกับฝ่ายไทย ซึ่งฝ่ายไทยก็ได้ส่งภาพให้กับฝ่ายกัมพูชา ที่แสดงให้เห็นว่าทหารของกัมพูชายังมีสุขภาพดีทุกคน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/KOOiJMbi1DI
แท็กที่เกี่ยวข้อง