"ฉัตรวรรษ" แลบลิ้นโชว์ลั่น "ผมไม่ใช่พวกลิ้นดำ" หลัง "บุญส่ง" บุกด่า คดีฮั้วสว.

การเข้ารับทราบ ข้อกล่าวหา คดี ฮั้วเลือก สว. ที่ กกต. วันนี้เป็นวันที่ 3 มี สว.ทยอยมารับทราบข้อกล่าวหา อย่างต่อเนื่อง แต่ที่เป็นประเด็น กลุ่ม สว. ที่รับทราบข้อกล่าวหาไปแล้ว วันนี้กลับมาอีกครั้ง มายื่นเรื่องขอความเป็นธรรม กับ ประธาน กกต. จากการกล่าวหาในคดีที่เกิดขึ้น



ที่สำนักงาน กกต. วันนี้ สว. ที่มายื่นเรื่อง มี 3 ท่าน คือ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร / สว. อลงกต วรกี และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย ยื่นหนังสือถึงขอความเป็นธรรม ถึงยังประธาน กกต. เพื่อร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26



มีการอ้างว่า การแจ้งข้อกล่าวหาครั้งนี้ มีการละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ ปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลางและเลือกปฏิบัติทำให้เกิดความเข้าใจได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกและรับทราบข้อกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิด โดย ขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 เพิกถอนกระบวนการที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหมด และเรียกร้องให้ สว.ที่ถูกกล่าวหาให้มีโอกาสได้ตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ในการตั้งข้อกล่าวหา ด้วย



ซึ่งช่วงหนึ่ง ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังซักถาม พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ปรากฏว่า นายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการ ซึ่งยืนอยู่ในกลุ่มสื่อมวลชน ได้สอบถามว่า การฮั้ว สว. เกิดจากการชี้นำของสื่อ



ทาง พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ถือว่าสื่อเป็นกระจกเงาสะท้อนสังคม แต่ไม่ใช่เลนส์ เมื่อก่อนเคยคิดว่า โลกนี้กว้างใหญ่มหาศาล แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว



นายบุญส่ง กล่าวอีกว่า ท่านมาจาก สว. ย่อมรู้ว่ามีการฮั้วหรือไม่ ท่านควรยอมรับความจริง ผู้มีอำนาจเที่ยวปัด อ้างนู่นอ้างนี่ โกหกจนเคยตัว โกหกกันจนลิ้นดำ"



พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ก็โต้กลับว่า "ท่านก็ต้องไปกล่าวโทษผู้มีอำนาจ และผมไม่ได้ลิ้นดำ" แล้วก็แลบลิ้น โชว์



สว. ตัวตึง คุณอลงกต วรกี วันนี้ พูดภาษาไทยได้แล้ว หลังจากสองวันก่อน พูดภาษาฝรั่งเศส และภาษาจีน และปิดวาจาภาษาไทยมาหลายวันหลังจากวันปิดหมายหน้าบ้าน



วันนี้ สว. อลงกต มาแถลง ในมาดจริงจัง ถึงปัญหา การส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ที่ไปปิดเอกสารถึงหน้าบ้าน ของเจ้าหน้าที่ ว่า ไม่เป็นตามระเบียบงานสารบัญและชั้นความลับทางราชการ ตามระเบียบต้องปิดทึบ แต่ เจ้าหน้าที่กลับ ใส่ซองใส โชว์ไว้ หน้าบ้าน ทำให้ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม เดี๋ยวจะดำเนินการ ตาม ม.157 ตั้งแต่ผู้สั่งการ ไปจนถึง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง



หลังพูดจบ ปรากฎว่า ไม่มีนักข่าวถาม สว.อลงกต ถึงกับ ต้องถามนักข่าวว่า จะถามอะไรมั้ยครับ นักข่าวก็แซวว่า พูดภาษาฝรั่งเศษ ได้มั้ย คราวนี้ ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษ แทน Thank you Very Much จากนั้นนายอลงกต ได้เดินออกไปจากวงสัมภาษณ์ ก่อนหันกลับมาพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า It’s very important and very deep details. It’s personal. ซึ่งแปลว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมาก มีรายละเอียดเชิงลึก และเป็นเรื่องส่วนบุคคล



จากนั้น นักข่าวพยายาม ถาม ล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ถึงประเด็นที่มีการแฉว่า สว.หลายคนเดินทางไปที่โรงแรมพลูแมนพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ บอกว่า ​ บางคนมีตังก็ไปกินข้าว



ด้าน สว. อลงกต แทรกมาถามสื่อมวลชนเป็นภาษษอังกฤษ ว่า What is Pullman?, Like a pool ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า "โรงแรมพูลแมน" นายอลงกต กล่าวว่า Where is hotel Pullman ? ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับไปว่า "ซอยรางน้ำ" นายอลงกต จึงตอบว่า "Where is Soi Rangnam" ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับอีกว่าแสดงว่าไม่เคยไปใช่หรือไม่ นายณรงค์กดตอบว่า "I know only Rattanakosin Hotel"

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/s5BOwnASn8s