เลือกตั้งและการเมือง
เขาจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ! "เท้ง" ประกาศดองงูเห่า หลัง "สส.กฤษฎิ์" ขอแยกทาง ปชน.
13 พ.ค. 2568
290 views
การเมืองวันนี้ คือ การแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ ที่ขอยุติบทบาททางการเมืองกับพรรคประชาชน โดยให้เหตุผลว่าอุดมการณ์ไม่ตรงกัน และประกาศชัดเจนว่าจะไปร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม ขอให้พรรคขับออก เพราะไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้งซ่อมให้เสียงบประมาณ บอก เดินหาเสียงเอง ไม่มีแกนนำมาช่วย มีแค่ธนาธร มาช่วยหาเสียงครึ่งชั่วโมง
สส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน เริ่มการแถลงข่าว ด้วยการบอกว่า ลำบากใจที่จะมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน แต่ไม่อยากที่จะไปทำงานร่วมกับพรรคอื่นแล้วสังกัดอยู่ในพรรคเดิม เพราะอย่างนั้นคือ "งูเห่า" ชัดเจน วันนี้ที่ทำงานกับพรรคประชาชนไม่ได้เพราะอุดมการณ์และแนวทางการทำงานต่างกัน
และขอให้พรรคขับตนเองออก โดยบอกว่าได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว แต่เลือกมาแถลงหลังวันเลือกตั้งเทศบาล คือวันที่ 11 พ.ค.68 เพราะไม่อยากให้มีผลกระทบ เพราะตนก็สนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล
และบอกว่าสาเหตุที่ยุติบทบาทกับพรรคประชาชน เนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน พรรคสนใจสร้างกระแส สร้างความนิยมให้กับพรรคเป็นหลัก โดยไม่ได้มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน
สส.กฤษฎิ์ ระบุว่า จุดแตกหักที่ทำให้ขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน คือ
-ตนเองเป็น สส.เขตเป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร
-มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศ
-มีการปล่อยข่าวเรื่อย ๆ ว่าตนเองเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรค หรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่า ตนเองเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าตนเองไม่ได้เป็นเช่นนั้น
ช่วงนั้น ประชาชนกลุ่มด้อมส้มที่มาร่วมรับฟังแถลงข่าว ได้แทรกขึ้นมาว่า "แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า"
สำหรับประเด็นแตกหัก นอกจากปัญหาการทำงานในส่วนจังหวัดที่มีปัญหามาโดยตลอดแล้ว ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ตนเองร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอน การทำงานในสภาฯ การยื่นประเด็นไม่ได้รับการตอบรับให้ตั้งเป็นประเด็นในคณะกรรมาธิการฯ สุดท้ายที่เป็นประเด็นแตกหักคือ ตนเองอภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จฯ ไปทรงสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ทั้งนี้ตนเองได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้า และขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำจากเกาะสีชังเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่เมื่อตนเองหารือจบก็มี สส.ท่านหนึ่งมาต่อว่าว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พูดเช่นนี้
ตนเองจึงยืนยันว่าเหมาะสม เรื่องนี้เป็นผลกระทบกับตนเองตลอดมา พรรคมีการต่อว่าเนื่องจากเป็นเพื่อน สส.ส่วนมากไม่พอใจกับการที่ตนเองหารือในวันนั้น เพื่อน สส.ไม่กล้าคุยด้วยนาน ๆ เพราะกลัวว่าจะเป็นการวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัครในครั้งต่อไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบาย
ส่วนที่บอกว่าตนเองจะเข้ามากอบโกย นางสาวกฤษฎิ์ ถามว่าตนเองกอบโกยอะไร ตั้งแต่เลือกตั้งว่าในจังหวัดชลบุรีมีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็ก ๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่โอนให้กับพรรค ตนเองไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่
ทั้งนี้เรื่องความหวังของพี่น้องประชาชน ตนเองเข้าใจ เพราะตนเองเคยมีความหวังว่า พรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้นความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้ตนเองทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค
หลังจากนั้นพรรคได้เรียกตนเองปคุยว่าจะมีการแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ตนเองจึงบอกว่าการแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไรเพราะเลยเวลาที่จะแก้ไปแล้ว จึงเรียกร้องให้พรรคขับตนเองออกเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ปวงชน จะได้ไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแท้จริง
นางสาวกฤษฎิ์ กล่าวถึงประเด็นที่เลือกพรรคกล้าธรรม โดยระบุว่าหากติดตามการทำงานผ่านเพจ เฟซบุ๊ก ตนเองทำงานประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งได้รับการตอบรับจากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดถึง2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่ชลบุรีมองว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดอ่างเก็บน้ำ การจะเลือกพรรคไหนต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง
ทำให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังการแถลงข่าวเกิดความไม่พอใจ นางสาวกฤษฎิ์ จึงกล่าวว่าพวกคุณที่พูดอยู่รู้จักศรีราชามากแค่ไหน ได้ติดตามเพจตนเองหรือไม่ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้แย้งกัน ตนเองมีจุดยืนแน่นอน ขอให้พรรคขับออก ส่วนเรื่องประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อว่าชาวศรีราชาเข้าใจตนเอง ตนเองไม่เคยคิดว่าตนเองสำคัญ แค่อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน ยังมี สส.หลายคนที่ไม่มีความพร้อมและทำงาน แต่ตนเองอยู่ในสถานะที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนถึงได้ลงสมัครในวันนั้น เรื่องที่ตนเองผลักดันก็ผลักดันมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนเป็น สส.
ในช่วงถามตอบมีประชาชนถามถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนช่วยเช็ดรองเท้าในช่วงหาเสียง นางสาวกฤษฎิ์ ระบุว่า ครั้งนั้นนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ช่วยหาเสียงเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น นอกนั้นตนเองเดินทุกบ้าน จนเจอพี่คนที่เช็ดรองเท้ามาพูดคุยว่าไปพบชาวบ้านให้ทำความสะอาดรองเท้าบ้าง ที่ตนเองซาบซึ้งร้องไห้ เพราะเดินหาเสียงมาคนเดียว ไม่มีแกนนำมาคนเดียว
สำหรับการร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น วันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมไว้ก่อน เพื่อรอการขับออกจากพรรคประชาชน ขณะที่กระแสข่าวที่มีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาทและรถตู้หรูนั้น ตนเองขอให้ไปถามคนที่พูดออกมา ซึ่งจะมีการไปแถลงที่รายการหนึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเสนอให้ร่วมงานกับพรรค ย้ำว่าตนเองใช้เวลานานในการตัดสินใจ ต้องเข้าโรงพยาบาลกว่า 2 รอบ
ส่วนเรื่องการถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะออกจากพรรคประชาชน แต่เป็นเหตุด่วน จึงไม่ได้มีการสอบถามความเห็นประชาชน แต่อยากบอกว่ามันมีเหตุจะต้องออก
นางสาวกฤษฎิ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องอุดมการการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 บอกว่าไม่อยากพูดถึง เพราะตนเองไม่ได้มุ่งไปในประเด็นนี้ ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการจบชีวิตทางการเมืองหรือไม่ ความจริงตนเองตั้งใจจะลาออก แต่เมื่อดูสถานการณ์หลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะยุบสภาในวันสองวันนี้หรือไม่ ตนเองก็ไม่รู้ว่าจะลาออกให้เสียงบเลือกตั้งใหม่ทำไม ซึ่งตนเองก็ยังยืนยันว่าตอนนี้จะทำงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้า เดี๋ยวเอาไว้ว่ากัน
ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า การขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม ได้ปรึกษา กกต.หรือไม่ นาวสาวกฤษฎิ์ ระบุสั้น ๆ ว่า "ขอเอาไว้เฉย ๆ " จากนั้นเดินออกจากเวทีแถลงข่าว ผ่านประตูด้านข้างของห้องแถลงข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงประชาชนที่มาประท้วง
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Yl3-aA2QbLw
แท็กที่เกี่ยวข้อง