เลือกตั้งและการเมือง
"สส.ไอซ์" ซัด ครม. "ลูกอีช่างเกี่ยง" ผักชีโรยหน้าแก้แก๊งคอลฯ เกรงใจกลุ่มทุน นายกฯ เผยตัวเลขโต้ ยันปัญหาถูกแก้ไปเยอะ
โดย panwilai_c
25 มี.ค. 2568
151 views
"รักชนก" จัดหนัก "ครม.ลูกอีช่างเกี่ยง" จงใจปล่อยปละละเลยปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ "แพทองธาร" เกรงใจกลุ่มทุนเครือข่าย ปล่อยทุนเทาต่างชาติ-ทุนไทยเทาบ่อนทำลายประเทศแลกดีลปีศาจพาพ่อกลับบ้าน
"รักชนก" จัดหนัก "ครม.ลูกอีช่างเกี่ยง" จงใจปล่อยปละละเลยปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์ ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ "แพทองธาร" เกรงใจกลุ่มทุนเครือข่าย ปล่อยทุนเทาต่างชาติ-ทุนไทยเทาบ่อนทำลายประเทศแลกดีลปีศาจพาพ่อกลับบ้าน
น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และสแกมเมอร์ ระบุว่า ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ สแกมเมอร์ และแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เหมือนจะได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล แต่ก็เป็นเพียงภาพลวงตา ผักชีโรยหน้า ความเป็นจริงนายกฯ ยังมีพฤติกรรมที่ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เพราะขาดภาวะผู้นำ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ไม่ยอมตัดสินใจ ปล่อยให้เกิดสภาวะเกี่ยงกันทำงานหลายต่อหลายครั้ง
น.ส.รักชนก ยังบอกอีกว่า รัฐบาลน.ส.แพทองธาร เป็น "รัฐบาลลูกอีกช่างเกี่ยง" คือ หน่วยงานต่างๆเกี่ยงกันรับผิดชอบ ยกตัวอย่างเรื่อง "ท่าข้าม" ซึ่งเป็นท่าส่งของชั่วคราว น.ส.รักชนก บอกว่า เคยถามในที่ประชุม กมธ.ความมั่นคงฯ หลายครั้งว่าสรุปใครต้องเป็นคนปิดกันแน่ แต่ไม่มีเสียงตอบรับ มีแต่การโยนกันไปมาระหว่างศุลกากร ผู้ว่าฯ สมช. ดังนั้น ถ้าหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งแก้ไม่ได้ นายกฯ ต้องเป็นคนสั่งการ แต่เรื่องนี้คุยกันมาเป็นปีไม่จัดการ พอฝ่ายค้านตั้งท่าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงเพิ่งมาสั่งปิดไปท่าหนึ่ง แบบนี้ควรจะเพิ่มอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกสัปดาห์ นายกฯ จะได้ตั้งใจทุกวัน
ทั้งนี้การอภิปรายมีลักษณะไล่เรียงปัญหาแบ่งเป็นต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ไล่เรียงไปที่ละหน่วยงานรับผิดชอบ พร้อมระบุว่า นายกรัฐมนตรีนิ่งนอนใจเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะ คนที่ต้องกำกับดูแลและตัดสินใจการทำงานร่วมกันของหลายหน่วยงาน คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
อีกช่วงมีการพูดถึงซิมม้า ซึ่งมักมีการจ้างคนมาลงทะเบียน โดยบอกว่า ค่ายมือถือเองก็รู้ว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีวิธีการหาซิมม้าแบบไหน พร้อมตั้งคำถามว่า แม้จะมีข่าวจับซิมเถื่อนให้เห็นอยู่เนืองๆ แต่มีแนวโน้มจะลดลงหรือไม่ เพราะจับไปค่ายมือถือก็ออกซิมใหม่มาขาย จับไปเยอะๆ ก็ดี เขาจะได้ยิ่งขายซิมใหม่ ยิ่งมีกำไรเพิ่ม และพระราชกำหนดที่จะให้ค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบอยู่ที่ไหน ตอนนี้ค่ายมือถือเอง ยังมีการเพิ่มแพ็คเกจประกันภัยไซเบอร์แล้ว กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่เกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาลอย่างแท้จริง ตลอดจนกรณีบัญชีม้า ซึ่งยังไม่มีการสั่งขยายผลสาวไปถึงตัวใหญ่ และตรวจไปที่คริปโตแต่อย่างใด เนื่องจากเรารู้กันอยู่แล้วว่า การฟอกเงินส่วนใหญ่มักจะฟอกผ่าน P2P จึงทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าการที่ไม่จัดการปัญหานี้ นอกจากจะจงใจไม่ควบคุม ปล่อยให้อะไรเทาๆ อยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
จากปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมด "ท่านนายกฯ ลองสะกิดท่านประเสริฐหน่อยไหม นั่งแช่เก้าอี้เป็นรัฐมนตรีดีอีมา 2 ปี พรก.ยังไม่คลอด ถ้าพูดกันตามหลัก 2 ปีงานไม่คืบ ต้องปรับออกแล้ว แต่สุดท้ายคงไม่เกิดขึ้น เพราะท่านประเสริฐเป็น โควตาทุนกลุ่มไหน ใครก็รู้"
นส.รักชนก ย้ำว่า ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่แค่เรื่องไร้ประสิทธิภาพ แต่คือความจงใจปล่อยปละละเลยเพราะผลประโยชน์ทับซ้อนเบื้องหลังมหาศาล ความหน้าไหว้หลังหลอกของรัฐบาลแพทองธาร คือเขียนสิ่งเหล่านี้ไว้ในคำแถลงนโยบาย แต่พอดูไส้ใน ทุกกระบวนการกลับไม่ลงมือทำอะไรจริงจัง ปัญหาที่ดูเหมือนว่าจะคลี่คลายไป แต่แท้จริงแล้วพร้อมที่จะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลาเพราะรัฐบาลไม่เคยแก้ปัญหาที่ต้นตอแบบถอนรากถอนโคน
"ไม่กล้าแตะต้องผลประโยชน์ของกลุ่มทุน เพราะไม่ว่าจะทุนกลุ่มไหนก็เคยร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อนายกฯ ไม่กล้าจัดการไทยเทา การคอร์รัปชันมีในทุกระดับ แต่นายกฯ ทำเป็นมองไม่เห็น ทำให้ประเทศเรากลายเป็นสวรรค์ของมิจฉาชีพ การทำดีลแลกประเทศกับชนชั้นนำและกลุ่มทุนของรัฐบาลนี้ทำให้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่จบซักที"
"ครอบครัวชินวัตรเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติ เอาอนาคตของทุกชีวิต ไปแลกกับผลประโยชน์ของตระกูลตัวเองหรือไม่ ขโมยโอกาสและความฝันของคนไทยไปทำแลกกับการพาพ่อกลับบ้านแบบไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว ด้วยเหตุนี้ ไม่อาจไว้วางใจให้ แพทองธาร ชินวัตร ดำรงตำแหน่งต่อไปได้อีกแม้แต่วันเดียว"
สำหรับการอภิปรายของ นส.รักชนก ได้เวลาในการอภิปราย 80 นาที ช่วงหนึ่งเจ้าตัวบ่นว่า ช่วงที่ตนอภิปรายรู้สึกเงียบเหงา เนื่องจากไม่มีคนประท้วงเลย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_qNyzpP0gvM