เปิดเอกสารลับ "พบเห็นการฮั้ว สว." อ้างแจ้ง "เลขาฯแสวง" แล้วแต่เพิกเฉย ลั่น "แม้จะรู้ก็ทำอะไรไม่ได้"

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พ.ต.อ.มนัส เปิดใจบอกว่า ตอนที่ได้ข้อมูล รู้สึกดีใจได้ข้อมูลเชิงลึก และคาดหวังสูงกับข่าวครั้งนี้ จึงไปแจ้งนายแสวงให้ทราบ แต่ท่านกลับเฉย และบอกว่า "ถึงแม้จะรู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เขาก็คิดวางแผนทำกันมาแบบนี้แหละ "


ความรู้สึกตนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราก็คาดหวังทำเต็มที่ เราก็กระตือรือร้น ก็คิดว่าจะเอาข้อมูลอันมีค่านี่ ไปบริหารงานต่อ แต่ท่านกลับพูดชิวๆ เลย ไม่ยึด ไม่แก้ไขอะไรเลย ตนผิดหวังมากกับปฏิกิริยานี้


หลังจากนั้น ช่วงเที่ยงๆ ก็มีผู้สมัคร จากจังหวัดพิจิตร ไปโวยกกต. 2 ท่าน ว่ามีการนำโพยเข้าไปกา และ ให้เก็บ สว.3 เล่มแรก ทำให้เป็นที่มาที่ กกต. นำเรื่องนี้ประชฺมหารือ และสั่งเก็บ สว.3 แต่แทนที่จะทำเงียบๆ กลับประกาศจะทำให้บางคนก็มีการฉีกบ้าง ลอกบ้าง และเอาเข้าไป


ทั้งนี้ พ.ต.อ.มนัส เปิดข้อมูลสถิติบัตรเสียในรอบแรก กับ รอบไขว้วันนั้นให้ดู พบว่า ต่างกันมาก รอบแรก มีบัตรเสียกลุ่มละ 4 ใบ 6 ใบ ไม่ถึง 10 ใบ หรือบางกลุ่ม 0 ใบ


แต่เมื่อถึงรอบไขว้ที่มีการยึด สว.3 แล้ว จากผู้สมัครในแต่ละกลุ่ม 40 คน กับปรากฏบัตรเสียเพิ่มสูง บางกลุ่มมีบัตรเสียเกินครึ่ง โดยเฉพาะกลุ่มหก ที่ในรอบควายมีบัตรเสียถึง 23 ใบ จาก 40 ใบ


พ.ต.อ.มนัส บอกด้วยว่า ในฐานะที่ตนเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง มองว่า การกระทำของ เลขาฯ เป็นความผิดตาม มาตรา 32 ตาม พรป.การได้มาซึ่ง สว. จึงส่งเรื่องไปร้องเรียน จากนั้นพบว่ามีการตั้งลูกน้องนายแสสวง 3 คน มาสอบสวน จึงเสนอกกต. ว่าควรแต่งตั้งข้าราชการหน่วยงานอื่นของรัฐ แต่ท้ายสุดก็ไปไม่เปลี่ยน


นอกจากรายงานที่ตนทำไป ยังได้อ้างพยานไป 6 ปาก และร้องขอให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่สำคัญคือ ให้เปิดหีบบัตรนับคะแนน เพื่อพิสูจน์ ว่าสอดคล้องกับโพยใน สว.3 และสถิติบัตรเสียรอบแรก และรอบไขว้ หรือไม่ แต่เรื่องราวผ่านมา 8-9 เดือน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีเรียกพยานเลยสักปาก ส่วนอย่างอื่นก็น่าจะยังไม่ทำ


ส่วนตัวมองว่าควรดำเนินการให้โปร่งใสตามที่เคยประกาศเอาไว้เกี่ยวกับเรื่องเจตจำนงสุจริตในการบริหารงาน


ทั้งนี้ เมื่อถามว่ากังวลหรือกลัวหรือไม่ ท่านมนัสบอกว่า ครอบครัวกังวลมากกว่า ต้องระมัดระวังตัว แม้เราทำด้วยความสุจริตก็จริง แห่ต้องไม่ประมาท ต้องมีความกล้ามากกว่า เราทำเพื่อชาติบ้านเมือง


สำหรับปลายทางของเรื่องนี้ หากดูจากความจริงจังจริงใจของคณะกรรมการไต่สวน ยังไม่คืบเลย เพราะฉะนั้นปลายทางมันจะอีกกี่โมง คาดหวังไม่ได้เลย


กรณีที่ มีเอกสารลับ รายงานผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด ส่งถึงประธานกกต. ระบุว่า พบเห็นการฮั้วลงคะแนน และได้แจ้งต่อนายแสวง บุญมี เลขา กกต. แต่ปรากฎว่าไม่มีการดำเนินการใดใด ล่าสุด ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ ไปคุยกับ ทั้งคนร่างหนังสือรายงานฉบับนี้ คือ พ.ต.อ.มนัส (สงวนนามสกุล) ผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรปราการ และคนที่เปิดเอกสารฉบับนี้ คือ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สว.สำรอง ให้ข้อมูลว่า


ทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ สัมภาษณ์ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว สมาชิกวุฒิสภาสำรอง ยืนยันว่า ได้รับเอกสารชุดนี้มาจากมือของ พ.ต.อ.มนัส เอง ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่ตอนเป็นข้าราชการตำรวจ โดยสืบเนื่องจากท่านมนัส อัดอั้นตันใจ หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจการเลือกตั้ง และมีอำนาจเต็มตามที่ กกต. แต่งตั้ง และในวันที่ 26 มิถุนายน 67 ได้รับแจ้งจากผู้สมัครว่าจะมีคนเอาโพยการเลือกตั้ง ลอกมาใส่หลังสมุด สว.3 จึงนำเรื่องนี้ไปรายงานให้คุณแสวงในฐานะผู้อำนวยการเลือกระดับประเทศทราบ


พล.ต.ท.คำรบ บอกว่า พ.ต.อ. มนัส บอกว่า แทนที่ นายแสวงจะกระวีกระวาดหาวิธีการป้องกัน แต่กลับได้รับคำตอบที่น่าเสียใจ ที่ว่า เรารู้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ เพราะเค้าคิดวางแผนกันแบบนี้ ซึ่งคำพูดประมาณนี้พ.ต.อ. มนัส เลยบันทึกไปลายลักษณ์อักษร และส่งรายงานไปถึงประธานกรรมการเลือกตั้งเพื่อขอให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jfV5owLox5k