นายกฯอุ๊งอิ๊ง แต่งดำไว้อาลัย ชี้ ทัศนศึกษา เป็นการเปิดโลก ไม่ได้ทำร้ายเด็ก

นายกฯแพทองธาร วันนี้แต่งชุดดำไว้อาลัย ความสูญเสียจากเหตุไฟไหม้รถบัสนักเรียน ซึ่งก่อนบินไปประชุมต่างประเทศครั้งแรก ที่ประเทศกาตาร์ ได้เชิญรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารายงานความคืบหน้า

วันนี้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สวมชุดดำ เพื่อไว้อาลัยให้กับเหตุการณ์ รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนเกิดเหตุไฟไหม้ ก็ใช้เวลาก่อนออกเดินทางไปประชุมระดับผู้นำกรอบความร่วมมือเอเชียครั้งที่ 3 ที่กรุงโดฮา การ์ตา

เชิญ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีสาธารณสุข และ บิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาหารือ ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เพื่อรายงานสถานการณ์ และความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ

หลังการประชุม นายกฯแพทองธาร ได้นำออกมาแถลง ก็ไล่เรียงภาพรวมความคืบหน้าแต่ละหน่วยงาน ทาง รักษาการผบ.ตร. รายงานการตรวจอัตลักษณ์บุคคล  และจะทยอยนำร่างกลับ จังหวัดอุทัยธานี ส่วนกระทรวงคมนาคม ได้รายงานเรื่องการเยียวยา การตรวจสอบ กฎเกณฑ์ระเบียบเรื่องรถโดยสาร ขณะที่กระทรวงสาธารณสุข ได้ส่งนักจิตแพทย์ลงไปในพื้นที่แล้ว

ช่วงนึง นักข่าวถาม มีข้อเสนอว่าให้มีการปรับรถบัสโดยสารนักเรียนเป็นรถบัสสีเหลืองที่มีประตูด้านหลังสามารถเปิดได้ง่ายและเป็นมาตรฐานเดียวกับยุโรปและสหรัฐอเมริกา

นายกฯแพองธาร บอกว่า กระทรวงคมนาคม ต้องมีการวางแผนในรายละเอียด แต่ย้ำว่าเรื่องการ "ทัศนศึกษา" เป็นการเปิดโลกให้เด็กๆ และไม่อยากแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะทัศนศึกษาไม่ได้ทำร้ายเด็ก แต่รถที่ไม่ได้ถูกดูแลหรือได้รับการตรวจสอบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เราจึงถือโอกาสนี้วางระบบให้ชัดเจน

จากนั้น รัฐมนตรีสุริยะ ได้เสริม มาตรการต่างๆของกระทรวงคมนาคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรียกว่าเป็นการ สังคายนาทั้งระบบ หลักๆ ให้กรมการขนส่งทางบก เรียกรถโดยสารสาธารณะประจำทางและไม่ประจำทางที่ใช้ เชื้อเพลิง CNG จำนวน 13,426 คัน มาเข้ารับการตรวจสภาพรถ ภายใน 60 วัน

นอกจากนี้ ยกระดับมาตรฐานการประกอบการขนส่ง รถโดยสารทั้งประจำและไม่ประจำทาง ต้องตรวจสภาพรถก่อนให้บริการ

ขณะเดียวกัน ให้กรมการขนส่งทางบก บูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการและสถานศึกษาทั่วประเทศ ในกรณีที่จะนำรถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทางไป ใช้บริการ ต้องให้ประสานงานกับสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง

และที่เพิ่มเติมขึ้นมา ระบุ พนักงานขับรถและผู้อยู่ประจำรถ จะต้องได้รับการอบรม และทดสอบ หลักสูตรการเผชิญเหตุ และการช่วยเหลือผู้โดยสาร

รวมถึง จะมีการออกกฎหมาย ระเบียบ เพื่อให้ผู้ประกอบการต้องมีการแนะนำข้อมูลและแนวทางเผชิญเหตุฉุกเฉินในการใช้บริการเช่นเดียวกับสายการบิน

นักข่าวถามกรณีรถคันเกิดเหตุ มีอายุการใช้งาน มากกว่า 50 ปี รัฐมนตรีสุริยะ บอกว่าจะใช้โอกาสนี้พิจารณาแก้ระเบียบ และย้ำชัด ว่า กรณีรถเก่า จะไม่ยอมให้มีการต่ออายุ

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. พูดถึงในทางคดี ว่า ดำเนินการไประยะหนึ่งแล้ว ก็ยืนยันว่า จะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ทั้งตัวบุคคลและบริษัทเจ้าของรถ

https://youtu.be/C_3pMhlrdLs