ต้องกลับเข้าเรือนจำ? หลายฝ่ายวิเคราะห์ 'ทักษิณ' ถูกสั่งฟ้อง ม.112 กระทบการพักโทษหรือไม่

หลายฝ่ายวิเคราะห์ ปม ทักษิณ ถูกอสส.สั่งฟ้อง คดี ม.112 นั้นจะทำให้มีผลต่อการพักโทษหรือไม่ โดยมีความเห็นจากทั้งสองฝ่าย ทั้งมีผล และต้องกลับเข้าเรือนจำ และอีกฟากบอกไม่มีผล



29 พ.ค. 2567 นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ ข้อความต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวาน (28 พ.ค.)ภายหลังมีข่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งอัยการสูงสุดคดี 112 จนถึงหลังจากอัยการแถลงสั่งฟ้อง



นายสมชาย เริ่มโพสต์เรื่องนี้ด้วยการแชร์ข่าวเกี่ยวกับการขอเลื่อนนัดอัยการเนื่องจากติดโควิดของทักษิณ ที่มีการะบุว่า หากนายทักษิณ ปล่อยไปถึงขั้นมาฟังคำสั่งแล้ว อาจมีปัญหาเรื่องประกันตัวตามมา ถ้าไม่อนุญาตให้ประกัน ก็ต้องถูกส่งเข้าเรือนจำ เนื่องจากจังหวะนี้เป็นจังหวะไม่ค่อยดี กลุ่มสามนิ้วและ สส.ก้าวไกลที่โดนคดี 112 โดนศาล ตัดสินจำคุกถ้วนหน้า และยังมีกรณีการเสียชีวิตของ “บุ้ง เนติพร" ดังนั้นหากปล่อยให้ฝ่าย "อดีตนายกฯ" สบายตัว รอดคดีแบบค้านสายตา อาจกลายเป็นการจุดกระแสความไม่เท่าเทียมให้ บานปลายได้เหมือนกัน



จากนั้น นายสมชาย ได้โพสต์ข้อความอีกหลายข้อความ ข้อความแรกคือ ขอทำหน้าที่เฉลยข้อสอบนิติศาสตร์ภาคประชาชน #รู้ทัน ว่าเหตุใด จำเลยจึงป่วยติดโควิด ไม่ไปฟังคำสั่งอัยการสูงสุดได้หรือไม่ เหตุเพราะถ้าอัยการสูงสุดอาจจะยืนสั่งฟ้อง และต้องนำส่งไปฝากขังทันที จำเลยจะขอประกันตัว แต่น่าจะไม่ได้รับการประกันตัวด้วย เหตุอยู่ในระหว่างพักโทษ ดังตัวอย่างคำตอบที่อาจารย์นัก กฎหมายผู้ใหญ่ฝากเฉลยดังนี้ ครับ



Ex.นาย ธ. ถูกจำคุกคดีถึงที่สุด นาย ธ.อยู่ระหว่างรับโทษ เมื่อ ถูกฟ้องอีกคดีหนึ่ง อัยการโจทก์ฟ้องโดยขออายัดตัวอีกคดีหนึ่ง เมื่อฟ้องแล้วศาลในคดีที่ 2 จะอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไม่ได้ เพราะหาก นาย ธ.หลบหนี ศาลหรือผู้พิพากษาคดีที่ 2 ต้องรับผิด ชอบ สรุป มีหน้าที่อายัดตัวเท่านั้น ไม่เคยปรากฏว่าใครจะ อนุญาตให้ปล่อยคดีที่ 2 ไม่มีอำนาจและหน้าที่โดฯที่จะปล่อยตัว ชั่วคราว



ข้อความต่อมา ได้แก่ รู้ทัน ถ้าพรุ่งนี้ อสส.สั่งฟ้องคดี112 นช. ที่อยู่ระหว่างพักโทษ ต้อง ถูกนำตัวไปศาล น่าจะไม่มีโอกาสปล่อยตัวชั่วคราว ด้วยเหตุยังมี โทษและต้องรับโทษในคดีเดิมอยู่ หากให้ประกัน จำเลยหลบหนี ผู้พิพากษาต้องรับผิด จึงต้องสั่งอายัดตัวเท่านั้น



“นึกโรคโควิดเชื้ออ่อนลงกลายเป็น โรคประจำถิ่น แล้ว แต่ทำไมถึงรุนแรงกับบางคน ขนาดปอดแหกเลยนิ 555 กรรม เริ่มทำงาน"



และข้อความล่าสุด #รู้ทัน #โควิด รัฐมนตรี สส. นักการเมือง แฟนคลับ ข้าราชการ ที่แห่ต้อนรับร่วมงานเลี้ยงนักโทษติดโควิด ที่โคราช #กักตัวด่วน



อีกด้าน ทีมข่าวอาชญากรรม ช่อง 3 ได้พูดคุยกับนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ถึงกรณีดังกล่าว เนื่องจากมีประเด็นว่า ขณะนี้นายทักษิณอยู่ในระหว่างการพักโทษจำคุกในคดีอื่น การที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายทักษิณวันนี้ จะมีผลกระทบต่อเงื่อนไขการพักโทษอย่างไรหรือไม่ นายปรเมศวร์กล่าวว่า การห้ามกระทำความผิดทางอาญาคดีใหม่คือหนึ่งในเงื่อนไขการพักโทษของนายทักษิณ ซึ่งหมายความว่า นับตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่นายทักษิณได้รับการพักโทษจนสิ้นสุดโทษจำคุกนั้น นายทักษิณต้องห้ามก่อคดีอาญาใหม่ในระหว่างการพักโทษ มิเช่นนั้น การพักโทษจะสิ้นสุดและนายทักษิณจะถูกนำตัวเข้ารับโทษในเรือนจำตามเดิม



ดังนั้น การที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้องนายทักษิณในวันนี้เป็นคดีเก่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ก่อนการที่นายทักษิณถูกพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกและได้รับการพักโทษในคดีอื่น จึงไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อเงื่อนไขการพักโทษของนายทักษิณ อีกทั้งกระบวนการพักโทษเป็นกระบวนการของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสั่งฟ้องคดีของอัยการสูงสุดในวันนี้ ส่วนการต่อสู้คดีของนายทักษิณจะได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหรือรอลงอาญาหรือได้รับการตัดสินโทษอย่างไร เป็นเรื่องกระบวนการของศาลภายหลังจากการส่งฟ้องแล้ว หน้าที่ของอัยการสูงสุดคือการสั่งฟ้องและนำตัวนายทักษิณส่งฟ้องต่อศาลก็ถือว่าสิ้นสุดหน้าที่ จึงกล่าวได้ว่า นายทักษิณยังอยู่ในระหว่างการพักโทษจำคุกต่อไปในช่วงการต่อสู้คดีนี้ที่ชั้นศาล



ส่วนกรณีที่ว่า นายทักษิณมีสิทธิจะยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุดได้อีกหรือไม่ นายปรเมศวร์กล่าวว่า นายทักษิณไม่มีสิทธิที่จะร้องขอความเป็นธรรมได้อีกแล้ว เนื่องจากตามระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด สามารถยื่นร้องได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก่อนที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องคดี อีกทั้งคำสั่งฟ้องคดีโดยอัยการสูงสุดถือว่าเป็นคำสั่งถึงที่สุดแล้ว การยื่นร้องขอความเป็นธรรมอีกจะเป็นเหตุทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องใหม่ ซึ่งโดยกฎระเบียบแล้วไม่สามารถทำได้ เพราะเคยมีประวัติอดีตอัยการสูงสุดที่ถูกดำเนินคดีเนื่องจากเปลี่ยนแปลงคำสั่งฟ้องคดี อีกทั้งการร้องขอความเป็นธรรมอีกครั้งจะส่งผลให้เป็นการประวิงคดี จึงไม่สามารถทำได้อีก ทั้งนี้ หากฝั่งนายทักษิณมีพยานหลักฐานใหม่ก็ต้องนำไปต่อสู้ในชั้นศาลเท่านั้น



ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามว่า หากวันที่ 18 มิถุนายน นายทักษิณจะเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องและส่งตัวฟ้องอีก จะมีผลกระทบอย่างไร นายปรเมศวร์กล่าวว่า หากนายทักษิณขอเลื่อนอีกครั้ง แต่ถ้าพนักงานอัยการไม่เห็นควรเลื่อนหรือมีเหตุผลเพื่อการประวิงคดี อาจจะขอให้ศาลออกหมายจับได้ภายในอายุความของคดีนี้ จึงมองว่า ถ้านายทักษิณยืนยันความบริสุทธ์ที่จะต่อสู้คดี ก็ควรจะเข้าพบพนักงานอัยการเพื่อส่งตัวฟ้องแล้วค่อยต่อสู้คดีกับประกันตัวในชั้นศาลตามสิทธิแห่งรัฐธรรมนูญ หากจะเลื่อนนัดเพราะอ้างว่าป่วยอีก พนักงานอัยการมีอำนาจส่งแพทย์ไปตรวจอาการเองได้หากยังมีข้อสงสัยว่าควรเชื่อหรือไม่



ส่วนการสั่งฟ้องนายทักษิณครั้งนี้ ถือเป็นการลดกระแสสังคมหรือไม่ นายปรเมศวร์กล่าวว่า พนักงานอัยการถูกสอนมาว่า ห้ามทดลองฟ้องเด็ดขาด หากเห็นว่าผิดก็ส่งฟ้อง ถ้าเห็นว่าไม่ผิดก็ไม่ส่งฟ้อง ส่วนที่เหลือก็ขึ้นกับศาลว่าจะเห็นตามพนักงานอัยการหรือไม่ นายปรเมศวร์จึงมองว่า การใช้ดุลพินิจสั่งฟ้องของอัยการสูงสุดมีเหตุผลเพียงพอและรอบคอบแล้ว เพราะในคดี ม.112 จะต้องมีคณะทำงานที่เป็นอธิบดีอัยการคดีอาญาในกรุงเทพหลายสิบท่านมาร่วมกันพิจารณาทำความเห็นต่ออัยการสูงสุดว่าสั่งฟ้องหรือไม่ ก่อนที่อัยการสูงสุดจะพิจารณาตัดสินใจเป็นขั้นสุดท้าย ไม่ใช่เป็นผู้ตัดสินใจฟ้องเพียงผู้เดียว เชื่อว่าคณะทำงานก็น่าจะมีความเห็นในทิศทางเดียวกัน

https://youtu.be/lZVKFy-0K5Q