เลือกตั้งและการเมือง

'ชวน' ฟาด 'เศรษฐา' กลางศึกซักฟอก นินทา-ทวงบุญคุณ

โดย panwilai_c

4 เม.ย. 2567

176 views

ชวน กรีด เศรษฐา เอามาจากไหนว่าเคยพูด “เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้” ยืดอกไม่ใช่คนพูดพล่อย-บ้าน้ำลายไปวันๆ เตือนลงภูเก็ตนิดเดียว อย่าไปทวงบุญคุณ เป็นหน้าที่นายกฯอยู่แล้ว เหน็บชื่อนายกฯ ภาษาใต้เรียก “เสดสา” แปลว่าลำบาก ถามปมนักโทษจะจัดการยังไงต่อ มองหายป่วยเป็นเรื่องดี จะได้เป็นขวัญใจลูกหลาน-รับกรรมที่ทำไม่ดี พร้อมย้ำจากประสบการณ์ลูกชาวสวนยาง สถานการณ์มีขึ้นลง ฝากประชาชนอย่าชะล่าใจราคายาง ถามรัฐบาลจะคุมราคาอย่างไร



4 เม.ย.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม วาระพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายกว่า 30 นาที ถึงนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการล้มเหลวหลายเรื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้



นายชวน เริ่มต้นด้วยการ อ่านบทบาทหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีให้ฝ่ายรัฐบาลฟังว่า ต้องทำตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภา ปฎิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ มีความรอบคอบ ระมัดระวังในการดำเนินกิจการต่างๆ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม รักษาวินัยที่เกี่ยวกับการเงินแผ่นดิน ตามกฎหมายว่าด้วยการเงินการคลัง เสริมสร้างให้บ้านเมืองอยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขเป็นธรรม ถือเป็นพื้นฐานของการใช้สิทธิในการตรวจสอบของสภาผู้แทนราษฎร พร้อมขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ให้ตนมาร่วมอภิปราย ลำพังพรรคประชาธิปัตย์ มี 25 เสียง อย่าว่าแต่เปิดอภิปรายตามมาตรา 151 เลยตามมาตรา 152 ก็ไม่สามารถทำได้ จึงขอขอบคุณผู้นำฝ่ายค้านและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เข้าชื่อร่วมกัน



จากนั้น นายชวน เล่าเรื่องราวชีวิตตัวเองว่า ในฐานะที่เป็นเด็กสวนยาง เกิดในสวนยาง ตอนเด็กเด็กเป็นนักเรียนก็ต้องเก็บยางพารา ตนดีใจที่เรายากลำบากมากับยางพารามาก เพราะราคาตกไปหลายปี ตนเป็นหนึ่งในคนที่ดิ้นรนเรื่องนี้มากกว่าใครหลายคนมาก จะเห็นได้จากหนังสือร้องเรียนรัฐบาลทุกชุด เพราะในขณะนี้พี่น้องชาวสวนยางของเราไม่ได้มีเฉพาะจังหวัดภาคใต้ ภาคตะวันออกเท่านั้น แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน เป็นเรื่องผลผลิต เมื่อผลผลิตน้อย ความต้องการสูง ราคาก็ขึ้น



เมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้ เราก็อยากให้ราคายางเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พี่น้องชาวสวนยางอย่าประมาทว่าราคายางจะดีตลอด เพราะอีกในอนาคตข้างหน้ามันจะปรากฏผลออกมา เช่น ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคายางเคยขึ้นถึง 120 บาท เวลาขึ้นมันไม่ได้ขึ้น เพราะเราหรอก แต่มันทุกประเทศ ตนไม่อยากให้หลงทาง แล้วภายภาคหน้ารัฐบาลจะโดนตำหนิว่าหลอกชาวบ้าน



ตนอยากให้รัฐบาลทำงานถี่ถ้วน ได้อ่านรัฐธรรมนูญเมื่อสักครู่แล้ว อยากให้รัฐบาลทำงานรอบคอบ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนส่วนรวม ตนคิดว่าความรอบคอบจะช่วยได้ เพราะมีเหตุร้ายหลายรอบที่เกิดจากความไม่รอบคอบ ซึ่งหากเกิดแล้วยากที่จะแก้ไข ตนจึงอยากถามรัฐบาลว่าท่านคิดว่า ราคายางจะดีแบบนี้ต่อไปหรือไม่ และ โดยความเชื่อส่วนตัวใน เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น เมื่ออุปสงค์อุปทานเปลี่ยนแปลง ทำให้ความต้องการตกลง รัฐบาลมีแนวการดำเนินการให้ชาวบ้านอยู่ได้ด้วยราคาเท่าไหร่



ต่อมา นายชวน ยังกล่าวต่อถึงปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ตนเคยกล่าวไว้แล้วว่ารัฐบาลไม่ได้เขียนนโยบายเกี่ยวกับภาคใต้ไว้เลย ซึ่งเราต้องเอาชีวิตคนเป็นหลัก ความผิดพลาดจากนโยบายในอดีต ทำให้เราสูญเสียชีวิตคนไปจำนวนมาก เราต้องห่วงใยพี่น้องทุกคน ทั้งพุทธ มุสลิม เราอยากรู้ว่า เหตุการณ์นี้รุนแรงแค่ไหน ให้ไปดูข่าวในพระราชสำนัก จะเห็นผู้ว่าฯจังหวัดต่างๆ เป็นตัวแทนพระองค์ไปมอบสิ่งของ วางพวงมาลาตลอด เราจะมีมาตรการป้องกันความเสียหายพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร พื้นที่นี้เป็นด้ามขวาน ถ้าไม่มีเรื่องความไม่สงบ จะกลายเป็นด้ามทอง อุดมไปด้วยธรรมชาติ แต่ความไม่สงบทำให้มีคนตาย



เมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกว่า 50 ครั้ง นายกรัฐมนตรีก็ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ดีขึ้น และได้กล่าวต่อว่าได้โทรไปหานายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงขอกราบเรียนถามท่านว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น เ ป็นเหตุในประเทศหรือระหว่างประเทศ นายกฯมาเลเซีย แนะนำหรือเสนอว่าอย่างไรบ้าง



“เรื่องปัญหาความไม่สงบ ถ้าไม่แน่ใจอย่าไปทดลอง เพราะถ้ามันพลาดแล้วเอาคืนยากมาก เหมือนอย่างวันนี้ก็ขอให้กำลังใจคนแก้ปัญหา… บางเรื่องต้องให้เกียรติคนที่หวังดี” นายชวน กล่าว



ตนขอชื่นชมคนนอกหลายคน เช่น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่ได้ท้วงติงนโยบายแจกเงิน ท่านไม่ได้เป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้น ความคิดท่านไม่ได้เกี่ยวกับคะแนนเสียง แต่เป็นความคิดที่หวังดีต่อชาติ เหมือนกับแม่ทัพภาค 4 ที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่เขาอยู่ในพื้นที มันเป็นภาพที่เสียใจมาก พระบิณฑบาตต้องมีทหารเดินนำหน้า ครั้งหนึ่งต้องตายทั้งคู่



นายชวน กล่าวถึงนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้ไปพูด แล้วมีคนส่งให้มาบอกว่านายกรัฐมนตรีนินทาตน ตนไม่ได้โกรธหรืออะไร แต่อยากจะทำความเข้าใจคือนายกรัฐมนตรีไปบรรยายกับนักธุรกิจรุ่นใหม่ เรื่องอสังหาริมทรัพย์ โดยนายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ลงพื้นที่ภาคใต้ 3 วัน 2 คืน ไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะหรือทหารตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนารมณ์ที่ดี ไปด้วยความตั้งใจจริงของพรรคเพื่อไทย ไม่มี สส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทะกรรมที่ท่านผู้นำบางท่านพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบินจังหวัดภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มี สส. แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท



นายชวน ย้ำว่า เพราะประโยคนี้ ตนมีเรื่องต้องอธิบาย ขอฝากไว้ด้วยความเคารพ เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรีอย่าไปคิดว่ามี สส. เพื่อไทยอยู่หรือไม่ หน้าที่ต้องไป ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ



“นั่นคือหน้าที่อยู่แล้ว ท่านลงพื้นที่ภูเก็ต เข้าใจครับ ความจริงท่านไปก่อนแล้ว เพราะมีบริษัทของท่านไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นั่น แต่สิ่งที่อยากกราบเรียนก็คือว่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของต่างจังหวัด รองจากกรุงเทพ เราต้องช่วยเขา พัฒนาเขา เพราะรายได้นั้นคือภาษีที่จะมาเลี้ยงประเทศเรา นายกฯเศรษฐา วันนี้เรียกชื่อไม่ผิดนะครับ ท่านไม่ใช่นายกฯอีแอบนะครับ ท่านเป็นนายกฯ มาครึ่งปีแล้ว ผมก็ติดภาษาใต้ ขออภัยด้วยครับ ภาษาใต้เขาเรียกว่า เสดสา แปลว่าลำบาก แม่บอกว่ากรีดยางทั้งวันได้นิดเดียว เหนื่อย ชีวิตเสดสา ชีวิตเสดสา คือชีวิตลำบาก” นายชวน กล่าว



“กราบเรียนท่านนายกฯ ด้วยว่าที่ท่านบอกว่าผู้นำบางท่านพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ ท่านไปเอามาจากไหน ผมไม่เคยพูด ผมพูดในวันแถลงนโยบายว่า ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติเขาไม่ได้ทำโดยแอบทำ เป็นอีแอบหรืออะไรก็ตาม เขาก็พูดตรงไปตรงมาว่า เมื่อเราได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน ขอพูดตรงๆ เราพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน คือจังหวัดพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง นายกรัฐมนตรีไม่ทราบว่าคุณพูดคือใคร ผมจะบอกให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนพูด ซึ่งก็ไม่ได้แอบพูด แต่ประกาศกับประชาชนตรงๆ” นายชวน กล่าว



ช่วงนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ขอประท้วง ในฐานะ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่า อย่าเอ่ยถึงคนนอก ที่เขาไม่มีสิทธิ์มาชี้แจง เพราะเรื่องพวกนี้กระทบกับบุคคลภายนอก เมื่อสักครู่ได้พูดถึงอดีตนายก ว่าเลือกปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งไม่เป็นความจริง พาไปดูในเรื่องงบประมาณที่ลงไปในช่วงที่นายกรัฐมนตรีแต่ละท่านได้ดำรงตำแหน่งจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเกิดขึ้นในช่วงใด ขอความกรุณาอภิปรายอยู่ในกรอบพิจารณา และละเว้นการเอ่ยชื่อคนนอก



ทำให้นายชวน สวนกลับไปว่า “ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม” พร้อมกล่าวต่อว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีกลับไปบอกกับนักธุรกิจที่พูดในวันนั้นว่าไม่เป็นความจริง นายชวนไม่เคยพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ นายชวนพูดว่า ถูกเลือกปฏิบัติ และขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ โดยชดเชยให้ ย้ำว่าตนไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ แบบบ้านน้ำลายรายวัน



ก่อนจะเข้าเรื่องกระบวนยุติธรรม โดยนายชวน กล่าวว่า รัฐบาลจะฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพโปร่งใสและเป็นที่ยอมรับต่อนานาประเทศ ซึ่งไม่มีใครไม่เห็นด้วย แต่ในทางปฏิบัติจริงๆ 6 เดือนกว่า นโยบายบางอย่างอาจต้องใช้เวลา แต่เรื่องโกงเรื่องทุจริต นอกหลักนิติธรรม ไม่มีความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญสามารถอภิปรายได้ วันนี้นโยบายชุดนี้รัฐบาลสามารถสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องรอเวลา คือยึดหลักนิติธรรม แต่กรณีที่เกิดขึ้นกับนักโทษ ขอไม่เอ่ยชื่อ จะบอกว่าการที่คนป่วยหายป่วยเป็นเรื่องที่ดี เพราะเขาจะได้มีชีวิตเป็นขวัญใจให้กับลูกหลานต่อไป และรับกรรมกับสิ่งที่ทำไม่ดีเอาไว้ แต่ปัญหาคือได้มีการปฏิบัติตามกฎกระทรวงหรือไม่ และรัฐบาลก็จะเป็นตัวหลัก ได้ปล่อยปะละเลยหรือไม่ จึงต้องมีคำถามต่อไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดรัฐบาลรัฐบาลจะดำเนินการกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร หากเจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์รัฐบาลเป็นผู้บังคับใช้เจ้าหน้าที่ จะจัดดำเนินการอย่างไร หากจะให้ประชาธิปไตยไปได้ดีไม่ว่าจะฝ่ายไหนต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง



“ที่ผมพูดเรื่องนี้ เพราะมีสิ่งที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนต้องยอมรับในเรื่องนี้ คือถ้าเราต้องการให้ประชาชนของเรามีความสุข เราต้องทำให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น ถ้าเราไม่รักษาความยุติธรรม ความสุขของประชาชนจะไม่เกิดขึ้น คำกล่าวนี้เป็นคำ กล่าวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รับสั่ง ดังนั้นผมหวังอย่างยิ่งว่า เราทุกคนที่มีภารกิจแตกต่างกันออกไป ก็ทรงยุติต้องยึดหลักของความชอบธรรมถูกต้อง” นายชวน กล่าว



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/U-nlHnGj4LA

คุณอาจสนใจ

Related News