'วิโรจน์' อัดรบ.ไร้ปฏิรูปกองทัพ-ปูดจ้องตบทรัพย์งบเรือฟริเกต นายกฯ ลุกโต้ ลั่นผิดหวัง มีแต่น้ำ

วันสุดท้ายในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ไฮไลต์ช่วงเช้าที่ดุเดือด คือ คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.พรรคก้าวไกล ชำแหละนโยบายกองทัพ นอกจากเหน็บว่า ไม่ใช่การคิดใหม่ ทำเป็น แต่เป็นทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อจากพลเอกประยุทธ์ ไม่มีนโยบายใหม่ๆ เลย ช่วงนึงมีการแฉเบื้องหลังการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต ว่ามีคนในรัฐบาล พยายามตบทรัพย์ แต่กองทัพเรือปฏิเสธ และยอมถูกตัดงบ



คุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายนโยบายของกองทัพ ก็พุ่งเป้าไปที่ตัวท่านนายกฯ และ คุณสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้อนถึงการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ทั้งที่เคยบอก ว่า จะเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ลดจำนวนนายพลลง ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอาวุธยุทโธปกรณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ การจะนำพื้นที่ไม่จำเป็นของกองทัพมาให้ประชาชนใช้ประโยชน์



แต่สุดท้าย เป็นแค่การสมยอมกับกองทัพในการปรุงแต่งตบตาประชาชน แล้วใช้คำให้ประชาชนหลงเชื่อว่า นี่คือการปฏิรูป



ก็ย้ำว่า การปฏิรูปกองทัพ ไม่ใช่การด้อยค่า ทำลายกองทัพ แต่หากไม่ทำอย่างจริงจัง ทุกการกระทำของกองทัพจะถูกประชาชนตั้งแง่ทันที และถ้ายังปล่อยให้เป็นเช่นนี้เรื่อยๆ จะทำให้ภาพลักษณ์กองทัพตกต่ำลง



จึงตั้งคำถามว่า การดำรงอยู่ของกองทัพ เพื่อความมั่นคงของประเทศ และประชาชน หรือเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง ของผู้ที่มีอำนาจ ในการเสพสุขจากงบของกองทัพ



คุณวิโรจน์ ระบุว่า นโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลในการบริหารกองทัพ ไม่ได้มีนโยบายใดใหม่ นี่ไม่ใช่การคิดใหม่ ทำเป็น แต่เป็นการทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ของพล.อ.ประยุทธ์ ก็บอกว่า "พอกันทีกับการเล่นละครตั้งชื่อซีรีส์ว่า การพัฒนาร่วมกัน ละครแบบนี้หวังมาให้ได้ซึ่งคะแนนเสียงการเลือกตั้งไม่ได้อีกแล้ว ประชาชนเขากินข้าว เขาเลิกกินช็อกมินต์แล้ว"



ช่วงนึงที่น่าสนใจ ในการอภิปรายของ คุณวิโรจน์ ได้แฉข้อมูลเบื้องหลังการตัดงบประมาณจัดซื้อเรือฟริเกต ว่า มีกลุ่มก้อนการเมือง ฉวยอคติประชาชน ไปตบทรัพย์งบประมาณของกองทัพ



ก็บอก "ผมมีสายข่าวในกองทัพเรือ ถึงการจัดซื้อเรือฟริเกต วงเงิน 1,700 ล้านบาท มีคนของรัฐบาล พยายามต่อสายจะคุยกับกองทัพเรือด้วย แต่กองทัพฯ ปฏิเสธ



คุณวิโรจน์ ระบุว่า ในอีก 2 ปี เรือฟริเกตไทยต้องจะต้องปลดระวางลงอีก 1 ลำ ทำให้เหลือเรือฟริเกต ไทยเพียง 3 ลำ อาจทำให้ไม่เพียงพอ ทั้งที่มีความจำเป็น ดังนั้น การตัดงบประมาณครั้งนี้ จึงเป็นการตัดโอกาสประเทศ และอาจจะต้องรอถึงปี 2569 กองทัพเรือ ถึงจะสามารถของบประมาณใหม่ได้



นอกจากนี้ คุณวิโรจน์ ยังได้เปิดคลิป คุณสุทิน ไปร่วมงานสัมมนาทิศทางอุตสาหกรรมเพื่อความมั่นคง เรื่องการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ในประเทศ หรือหากซื้อไม่ได้ ก็ขอให้มีเงื่อนไขในการซื้อชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ หรือถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ด้วย



ทั้งที่เป็นรัฐมนตรีกลาโหม ใช้คำพูดว่าขอ แต่ที่จะใช้อำนาจสั่งการให้กองทัพดำเนินการ

จึงทำให้รู้สึกสิ้นหวัง และยืนยันได้ว่า หากคุณสุทิน เป็นรัฐมนตรีอยู่ จะทำให้ธุรกิจอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ มีแต่ความมืดมน



หลังคุณวิโรจน์อภิปรายจบ นายกฯ ลุกขึ้นมาชี้แจงและโต้กลับทันที บอก เรื่องที่อภิปรายเป็นเรื่องเดิม ๆ มีแต่น้ำ แถมบอก เป็นฝ่ายค้านที่งง ก่อนนี้เคยค้านซื้อเรือรบ วันนี้มาหนุน



โดยนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ลุกขึ้นมาพูดสั้น ๆ เพียงประมาณ 4 นาที โดยเริ่มต้นด้วยการบอกว่า วันนี้อุส่าห์มาฟังฝ่ายค้านอภิปรายเรื่องกระทรวงกลาโหม เรื่องกองทัพ แต่ก็มีแต่เรื่องเดิมๆ ทำให้ผิดหวังนิดหน่อย เพราะ เป็นแต่อะไรที่มีแต่น้ำ ๆ ยืนยัน กองทัพมีไว้เพื่อความมั่นคงของประเทศไม่ใช่ความมั่งคั่งของใครคนใดคนหนึ่ง เรื่องวาทะกรรมด้อยค่า เรื่องที่บอกว่าภาพลักษณ์ตกต่ำ ใช้ IO ดำมืดล้ำลึกเหล่านี้ ให้เวลารัฐบาลได้บริหารครบ 4 ปีประชาชนก็จะตระหนักดีตอนจบว่า คนที่ใช้ไอโอ คนที่พยายามครอบงำให้คนหน้ามืดตามัวจริงๆแล้ว คือใคร



ส่วนที่นายวิโรจน์พูดเรื่องเงินทอนในการซื้อเรือฟริเกต นายกฯ บอกว่า "ถ้าหากมีเงินทอนก็ให้นำหลักฐานมา เรื่องเรือฟริเกต ที่ท่านเชียร์เหลือเกิน หากผมพูดกลับไปว่าพวกท่านมีเงินทอนท่านก็คงไม่พอใจเหมือนกัน เรื่องนี้ควรจะเอาหลักฐานมาพูดกันดีกว่า"



และ ช่วงท้าย นายกฯ ก็บอกอีกว่า "พยายามฟังมา 40 นาที ก็ยังเข้าใจว่าเป็นฝ่ายค้านที่งงอยู่เหมือนกัน เพราะพวกท่านเคยพูดว่า เอาเรือประมงมารบแทนเรือรบ แต่วันนี้ก็จะมาสนับสนุนให้ซื้อเรือรบอีก งุนงงมาก แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ เรื่องการใช้วาทะกรรม ผมว่าเรามาพูดกันเรื่องเนื้องานดีกว่า เราพยายามที่จะพัฒนากองทัพต่อไป เรื่องการซื้ออาวุธก็จะให้มีความโปร่งใส ซื่อสัตย์ สุจริต..."

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vHfDV634Lic