เลือกตั้งและการเมือง

'จักรภพ' เปิดใจหลังกลับไทยในรอบ 15 ปี ลั่นประเทศเปลี่ยนไปแล้ว พร้อมคัมแบ็กการเมืองรับใช้ชาติ

โดย panwilai_c

28 มี.ค. 2567

56 views

นายจักรภพ เพ็ญแข เดินทางกลับถึงไทยแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (28 มี.ค. 67) ก่อนถูกตำรวจกองปราบคุมตัวตามหมายจับปี 60 แต่ได้ประกันตัวในชั้นสอบสวน พร้อมยอมรับคุยกับอดีตนายกทักษิณก่อนกลับไทย



นาย จักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช พ.ศ.2551 และโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร พ.ศ.2546-2548 ผู้ลี้ภัยในต่างแดน ได้เผยผ่านเฟซบุ๊ก จักรภพ เพ็ญแข ระบุว่า "วันพฤหัสบดีที่ 28 มี.ค.2567 เวลา 07.35 น.จักรภพ เพ็ญแข กลับไปรับใช้ เมืองไทยครับ" ซึ่งเป็นการเดินทางกลับมาประเทศไทยครั้งแรกในรอบ 15 ปี



7 โมง 35 นาที นาย จักรภพ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตามกำหนด โดยมีตำรวจกองบังคับการปราบปรามมาควบคุมตัวนายจักรภพตามหมายจับข้อหาร่วมกันมีอาวุธ เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเป็นอั้งยี่ ซึ่งเป็นหมายจับเมื่อเดือนธันวาคม 2560 หลังพบความเชื่อมโยงกับอาวุธสงครามจำนวนมากซุกในบ่อน้ำพื้นที่ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา และคดีที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา



9 โมงตำรวจคุมตัวนาย จักรภพ มาถึงกองปราบ โดยเข้าทางด้านหลังของอาคาร ต่อมาญาติของนายจักรภพ ได้เดินทางมาถึงกองบังคับการปราบปราม และได้เปิดเผยว่า นายจักรภพเดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐเอมิเรตส์ เพื่อกลับมารับใช้ชาติ ทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย ส่วนกรณีที่ลี้ภัยไป 15 ปี นายจักรภพมีเหตุผล คือ ติดภารกิจที่ต่างประเทศ ทำให้ไม่สะดวกที่จะกลับมาในช่วงนั้น และยังเป็นช่วงที่ไม่ใช่รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยด้วย จึงมั่นใจว่าจะได้รับการประกันตัว หากได้รับประกันตัวแล้ว จะไปดำเนินการเรื่องไปทำเอกสาร ทำบัตรประชาชน เดินทางไปไหว้ศาลหลักเมือง และสถานที่เก็บอัฐิของคุณแม่ที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร



บ่ายโมงตรง นาย จักรภพ ลงมาจากอาคารกองบังคับการปราบปราม หลังได้รับการประกันตัว ทันทีที่ลงมานาย จักรภพ ได้เข้าไปถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า กลับมามอบตัวเพื่อสู้คดีที่เหลืออยู่ 2 คดี เป็นคดีอาวุธทั้ง 2 คดี ที่ศาลจังหวัดอยุธยา 1 คดี และที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก 1 คดี ส่วนตัวประทับใจตำรวจมาก เพราะอธิบายขั้นตอนต่างๆ ในวันนี้เป็นไปอย่างครบถ้วน ทำให้ทราบสิทธิของตนเอง และตอบคำถามได้อย่างมั่นใจ ถือเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นมาก ทำให้มีความมั่นใจว่าจะสู้คดีได้ ส่วนผลจะเป็นยังไงขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม



พร้อมบอกว่า รู้สึกเสียดายเวลา 15 ปี ที่ออกจากประเทศไทยไป ดังนั้นจากนี้ตั้งใจว่า จะกลับมารับใช้ประเทศไทยในบทบาทต่างๆ ที่ทำได้ ทั้งเรื่องการเมือง และงานด้านการต่างประเทศ แต่ต้องรอให้พ้นจากเรื่องคดีก่อน หากรัฐบาลมาทาบทามให้ไปช่วยงานก็ยินดี



เมื่อนักข่าวถามถึงดีลของการเดินทางกลับมาครั้งนี้ นาย จักรภพ ระบุว่า คำว่าดีล ฟังดูไม่ค่อยดี แต่ ยอมรับว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ ไม่มีอะไรที่ไม่ผ่านการพูดคุย แต่ไม่ใช่การคุยเพื่อเสนอข้อแลกเปลี่ยน เป็นการพูดคุยเพื่อหาจุดร่วม ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้กลับมา เป็นเพราะการเมืองในภาพใหญ่เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สิ่งที่เคยพูดคุยกันไม่ได้ ตอนนี้ก็สามารถพูดได้แล้ว



นายจักรภพ ยอมรับด้วยว่า ก่อนจะเดินทางกลับมาได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายทักษิณ ชินวัตร อยู่ครั้งหนึ่ง ก็ถามว่าท่านเป็นอย่างไรบ้าง บรรยากาศโดยรวมเป็นอย่างไร ซึ่งนายทักษิณ ได้พูดคำสำคัญอยู่คำหนึ่งว่า "ยุคนี้หลายอย่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น" และหลังจากนี้ จะเข้าไปพบนายทักษิณแน่นอน เพราะคิดถึง อยากจะแวะไปถามว่าท่านมีความสุขดีไหมตอนนี้



เมื่อถามถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ บอกว่า เท่าที่ทราบคือเหลือแค่คดีจำนำข้าว ซึ่งคิดว่าท่านก็อยากกลับบ้านเหมือนทุกคน แต่ระดับนั้น เขาคงไปช่วยไม่ได้ ขอช่วยแค่คนที่เขาช่วยได้ เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็ทราบว่าน่าจะกลับมาในอีกไม่นานนี้



หลังจากนี้ สิ่งแรกที่ทำก็คือ จะไปกราบร่างคุณแม่ที่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ ซึ่งเก็บร่างไว้ที่ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน และไปกราบคุณพ่อที่ฌาปนกิจไปแล้วที่บ้านน้องสาว จากนั้นจะไปสักการะศาลหลักเมืองต่อ



นาย โชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของนายจักรภพ เปิดเผยว่า นาย จักรภพ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ตำรวจให้ประกันตัวในชั้นสอบสวน โดยใช้หลักทรัพย์คดีละ 200,000 บาท 2 คดีเป็นเงิน 4 แสนบาท ซึ่งพนักงานสอบสวนอนุญาตให้ประกันตัวโดยไม่มีเงื่อนไขอะไร และนัดหมายมารายงานตัวอีกครั้งในวันที่ 22 และ 23 เมษายนนี้



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/x4Dr8Os5I6w

คุณอาจสนใจ

Related News