ปธ.กกต.ปัดไร้ใบสั่งยื่นยุบก้าวไกล 'ชัยธวัช' ลั่นพร้อมสู้ เตือนยุบพรรคยิ่งขยายความขัดแย้ง

ปธ.กกต. ยื่นยุบก้าวไกล ไร้ใบสั่ง ทำตามกฎหมาย ด้าน 'ชัยธวัช' ลั่นพร้อมสู้ เตือนยุบพรรค ไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่ยิ่งขยายความขัดแย้ง

หลัง กกต.ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล คดีล้มล้างการปกครอง วันนี้มี ท่าทีของคุณชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล บอกว่าพร้อมสู้คดีเต็มที่ และย้ำว่าการยุบพรรค ไม่ใช่เรื่องต้องทำใจ แต่ต้องยืนยันว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็เตือนว่า อาจนำไปสู่การขยายความขัดแย้ง และกลายเป็นการ "เซาะกร่อน" สถาบันเอง



คุณชัยธวัช ตุลาธน สส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงแผนรองรับ ภายหลังกกต. มีมติเอกฉันท์ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ให้พิจารณายุบพรคก้าวไกล กรณีเสนอแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ว่า ตอนนี้ก็เตรียมเรื่องการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และทำงานทุกวันให้ดีที่สุด ก็บอกว่า อย่างน้อยที่สุด ศาลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้อง อย่างพรรคก้าวไกล ได้แก้ข้อกล่าวหา และเปิดโอกาสให้ได้เสนอข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่



คุณชัยธวัช บอกว่า เรื่องนี้ "ผมคิดว่าบทเรียนที่สำคัญน่าจะเป็นบทเรียนสำหรับสังคมไทยและผู้มีอำนาจมากกว่า ว่าการยุบพรรคการเมืองไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาทางการเมือง แต่อาจนำไปสู่การขยายความขัดแย้งทางการเมืองได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด



ซ้ำร้าย การยุบพรรคการเมืองด้วยอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบัน ในด้านกลับ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน เพราะยิ่งดึงประเด็นเรื่องสถาบัน เข้ามาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองมากขึ้น เรื่องนี้ต้องระมัดระวัง"



คุณชัยธวัช บอกว่า ยังไม่คิดเรื่องการตั้งพรรคสำรอง และย้ำว่า เรื่องยุบพรรคไม่ใช่เรื่องที่ต้องทำใจ แต่ต้องยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องในทางการเมือง



ทีนี้ นักข่าว ยังถามถึงกระแสข่าวว่ามี สส.พรรคก้าวไกล เริ่มไปคุยกับพรรครัฐบาล จะต้องมีการตรวจสอบหรือไม่ คุณชัยธวัช บอกว่า ไม่ใช่หน้าที่ของพรรค เรามั่นใจว่าผู้แทนราษฎรที่ดี ก็คือผู้แทนราษฎรที่ดีเรื่องนี้ไม่สามารถมีใครไปบังคับใจกันได้ พรรคมีหน้าที่ต้องเตรียมทุกทางออกให้กับสมาชิก



ส่วนกระแสข่าวเรื่อง สส.ไปพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น ก็บอกสั้นๆ " ตนว่าต้องตรวจสอบรัฐบาล ไม่ว่าพรรคไหน"



และก็บอกว่า "ถ้าเรายังยอมรับวิธีการทำงานการเมืองแบบนี้ ผมคิดว่าไม่ใช่เป็นปัญหาของพรรคก้าวไกล แต่เป็นปัญหาของวิธีการการเมืองแบบเดิมๆ ซึ่งควรจะหมดไปได้แล้ว"



หลังจากที่ กกต. มีมติเอกฉันท์ ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคก้าวไกล กรณีกระทำการล้มล้างการปกครอง จากการเสนอแก้ไขมาตรา 112 เรื่องนี้ ประธาน กกต. ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ไม่ได้มีใบสั่ง



คุณอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวว่า มติดังกล่าว กกต.มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่า พรรคก้าวไกลกระทำการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ซึ่งหลักฐาน ดังกล่าว ก็คือ คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ที่มีรายละเอียด มีข้อกฎหมาย มีข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐาน มีคำไต่สวนต่างๆ ครบถ้วน



ส่วนที่มีการ กล่าวหา ว่า กกต. มีใบสั่งนั้น ประธาน กกต. ยืนยันว่า กกต.ทำงานตามกฎหมาย คนที่จะสั่งได้ ก็คือกฎหมายที่เขียนเอาไว้ เพราะมีที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ถ้าไม่ทำก็ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่



ทางด้าน อดีต กกต. อ.สมชัย ศรีสุทธิยากร ก็โพสต์เฟซบุ๊กบอกว่า คดีนี้ Worst case scenario ศาลอาจจะใช้เวลาวินิจฉัยไม่เกิน 2เดือน เนื่องจากแทบจะไม่ต้องไต่สวนใหม่แล้ว และบอกด้วยว่า การยุบพรรคที่เกิดจากการกระทำ ล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง กรรมการบริหารพรรคมีโทษถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตด้วย



เพราะกฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 92 ระบุว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองกระทำการตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น (ไม่ได้ระบุจำนวนปีไว้ ว่าจะต้องตัดสิทธิกี่ปี ในมุม ของ อ. สมชัย มองว่า เป็นการตัดสิทธิ ตลอดชีวิต)



และถ้าไปเทียบเคียงกับกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อปี 2562 ที่ถูกร้องในคดีกระทำการที่เข้าข้ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ตามมาตรา 92 (2) ของกำหมายพรรคการเมืองตอนนั้น ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดตัดสิทธิ กรรมการบริหารพรรค 10ปี



ซึ่งศาลได้มีความเห็นถึงการกำหนดจำนวนปี ในการตัดสิทธิทางการเมืองของกรรมการบริหารพรรคไทยรักษาชาติ ว่า การกระทำของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นเพียง อาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น

ประมุข ยังไม่ถึงขนาดมีเจตนาที่จะล้มล้างการปกครอง ยังมิได้ก่อให้เกิดความเสียหาย

ร้ายแรงต่อระบอบการปกครองของประเทศชาติ



จึงสมควรกำหนดระยะเวลาให้สอดคล้องกับระยะเวลา กฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 94 ให้เพิกถอนสิทธิ สมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10ปี



เท่ากับว่า 10ปี คือกรณีที่ยุบพรรคแต่ยังยังไม่ถึงขนาดมีเจตนาที่จะล้มล้างการปกครอง แต่ของพรรคก้าวไกล ต้องมาลุ้น เพราะ ตามคำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค. ระบุไว้แล้วว่า เป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ เพื่อล้มล้างการปกครอง

https://youtu.be/gXDhly9CBK8