เลือกตั้งและการเมือง
นายกฯ เปิดทำเนียบต้อนรับ 'ปธน.เยอรมนี' เยือนไทยในรอบ 22 ปี ขอช่วยกล่อมอียู ไฟเขียววีซ่าเชงเกน
25 ม.ค. 2567
63 views
ส่วนภารกิจท่านนายกฯ วันนี้เปิดทำเนียบรัฐบาล ให้การต้อนรับประธานาธิบดีเยอรมนี เยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในรอบ 22 ปี ก่อนหารือและแถลงร่วมกัน ที่น่าสนใจ นอกจากประธานาธิบดีเยอรมนี พูดถึงความร่วมมือกับไทย ก็หยอดคำหวานว่าเป็นประเทศน่าลงทุน ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงสถานการณ์การเมือง โดยเฉพาะกรณีคุณพิธาด้วย
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา ให้การต้อนรับนายฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเออร์ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และภริยา ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาล ระหว่างวันที่ 24-26 ม.ค.2567 ถือเป็นการเยือนไทยรอบ 22 ปี ในระดับประธานาธิบดีเยอรมนี นับตั้งแต่ปี 2545
ทันทีที่มาถึง ท่านนายกฯ พร้อมประธานาธิบดีเยอรมนี ได้ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นได้หารือข้อราชการเต็มคณะ ต่อด้วยร่วมหารือกับภาคเอกชน ที่ตึกภักดีบดินทร์ ก่อนจะมีการแถลงข่าวร่วมกัน และเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศร่วมรับฟังได้ซักถามด้วย
ประธานาธิบดีเยอรมนี ระบุว่า ไทยและเยอรมนีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกว่า 160 ปี วันนี้ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ไทย มีเสรีภาพและเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น เพราะผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ซึ่งสะท้อนให้เห็นความเข้มแข็ง และอวยพรรัฐบาลนี้ที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน ขอให้ประสบผลสำเร็จ และร่วมผลักดันความร่วมมือระหว่าง 2 ประเทศ
ช่วงนึง ผู้สื่อข่าวต่างประเทศได้ถามถึงการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลไทย ที่กลับมาเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง จะดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร โดยเฉพาะกับเยอรมนี
ประธานาธิบดีเยอรมนี เชื่อว่าหลังการเลือกตั้ง เรามองเห็นแนวทางเชิงบวกในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน และช่วงนึง บอกว่ายินดีภายหลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ สส. ซึ่งคำวินิจฉัยที่ออกมาเป็นสัญญาณที่ดีของไทย แสดงให้เห็นว่าไทยมีพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตย
ประธานาธิบดีเยอรมนี ยังพูดถึงการลงทุน ก็บอกว่า เวียดนามและไทย เป็นประเทศที่น่าดึงดูด สำหรับนักลงทุน ซึ่งจากการหารือไทยมีข้อได้เปรียบ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ และไทยยังมีความสนใจ ให้การสนับสนุนความร่วมมือทางการค้า บริษัทต่างๆที่มาจากสหภาพยุโรปและเยอรมัน โดยจะเห็นได้จากนโยบายและข้อบังคับต่างๆที่เอื้อประโยชน์ในการทำการค้า ที่จะทำให้ร่วมมือกันได้
ด้านนายกฯ เศรษฐา ระบุหวังว่าการเดินทางเยือนไทยของประธานาธิบดีเยอรมนีครั้งนี้ จะเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในทุกมิติระหว่างไทยกับเยอรมนีก็บอกว่า ตนมีกำหนดที่จะเดินทางเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมีนาคมนี้ เพื่อสานต่อ และผลักดันความร่วมมือระหว่างกัน
ท่านนายกฯ บอกว่า 1 ในประเด็นสำคัญที่ได้หารือกับ ประธานาธิบดีเยอรมนี คือ การส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว 2 ประเทศ เดินทางไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้น โดยปีที่แล้ว มีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเดินทางมาไทยประมาณ 7 แสนคน ทั้งนี้ ชาวเยอรมันได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา 30 วันอยู่แล้ว
"ผมจึงได้ขอให้ฝ่ายเยอรมนีสนับสนุนไทยให้สามารถบรรลุการเจรจากับสหภาพยุโรป เพื่อขอยกเว้นตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้าเขตเชงเกน (ยกเว้นวีซ่า กลุ่มประเทศยุโรป) ให้กับผู้ถือหนังสือเดินทางไทยด้วย"
พูดถึงเรื่องฟรีวีซ่า ระหว่างไทย-จีน เตรียมมีการลงนามร่วมกันแล้ว โดยนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน
มีกำหนดเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ ระหว่างวันที่ 26- 29 มกราคม 2567 โดยจะเป็นประธานร่วมกับ นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุมกลไกการหารือระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย - จีน ครั้งที่ 1 ที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งลงนามความตกลงระหว่าง 2 ประเทศ ว่าด้วยการยกเว้นวีซ่าซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JF91t_YXD0E