เลือกตั้งและการเมือง

ภารกิจนายกฯแน่น! ขึ้นปาฐกถางานสื่อฯ ติง คำพูดรุนแรงไม่แก้ปัญหา ก่อนลุยภูเก็ต-พังงา ตรวจงาน

โดย panwilai_c

29 ก.ย. 2566

102 views

วันนี้ (29 ก.ย. 66) คุณเศรษฐา ทวีสิน ยังคงภารกิจแน่นทั้งวัน ซึ่งตั้งแต่เช้า สีสันที่น่าสนใจ คือ ทะเบียนรถที่นั่ง ล่าสุดเปลี่ยนจากป้ายแดง มาเป็นป้ายขาวแล้ว และเลขตรงเป๊ะ กับ นายกฯคนที่ 30



เช้านี้ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ "Next Chapter ประเทศไทย" ในงานเสวนาถอดรหัสลงทุน ก้าวข้ามวิกฤต ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ



ทันทีเมื่อมาถึง ผู้สื่อข่าว ได้สังเกตว่ารถยนต์ส่วนตัว ที่เพิ่งซื้อมาใหม่หลังเข้ารับตำแหน่ง วันนี้เปลี่ยนป้ายทะเบียนจากป้ายแดงเป็นป้ายขาวแล้ว โดยใช้เลขทะเบียน 3 ขส 30 กรุงเทพมหานคร คาดกันว่า มีความหมายเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30



ขณะที่เนื้อหาในการปาฐกถา นอกจากย้ำเรื่อง ความเหลื่อมล้ำว่า เป็นปัญหาใหญ่ ที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด ซึ่งทุกภาคส่วนและทุกคนในสังคมต้องมีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ไขปัญหานี้



ช่วงนึง ท่านนายกฯ ยังพูดถึง การพูด การสื่อสาร ความเห็นต่างในการทำงานโดยไม่ขัดแย้ง ก็บอกว่า ตนไม่ได้ต้องการว่าใครหรือตอบโต้ใครทั้งสิ้น



ก็ยกตัวอย่าง กรณีมีการใช้คำว่าปฏิรูปสังคายนา ล้างบาง ตั้งคำถามกลับว่า นี่เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหรือไม่



เพราะมองว่า "การที่เอาสถาบันต่างๆ มาพูดในที่สว่าง มีคำพูดที่รุนแรง เชื่อว่าไม่ใช่การแก้ปัญหา แต่การแก้ไขปัญหาคือพูดคุยกัน ในภาษาที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ไปเน้นหนักที่การกระทำ และกระบวนการแก้ไขปัญหาที่จะทำให้ สังคมนั้นดีขึ้น"



เสร็จจากการปาฐกถา ท่านนายกฯ เดินทางไปที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งในช่วง ระหว่างเดินไปเปิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ก็พูดถึง ในการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิหลาย 10 ปีที่แล้ว โชคดีที่เราสร้างอุโมงค์ไว้ก่อน ทำให้การต่อเติมเป็นไปได้ง่ายขึ้น โดยชื่นชม สมัยรัฐบาลคุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ทำไว้ก่อน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล ทำให้ตอนนี้ประหยัดงบประมาณได้มาก และประจวบเหมาะกับเวลาที่เราเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านการท่องเที่ยว



นอกจากนี้ ยังมีบรรยากาศ ท่านนายกฯ ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งมีภาพของคุณทักษิณ ในอดีตอยู่ด้วย



ภายหลังเปิดอาคาร ที่สุวรรณภูมิ ท่านนายกฯก็ลงพื้นที่ภูเก็ต และพังงา ก็ย้ำรัฐบาลนี้มาจากประชาชน บอกว่าแม้ไม่มี สส. แต่ก็ติดตามงานต่อเนื่อง



นายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยเครื่องบิน Airbus-320 ของกองทัพอากาศ จากสนามบินสุวรรณภูมิ มาที่สนามบินภูเก็ต ก็เปลี่ยนจากชุดสูท มาใส่กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสบายๆ โดยมี คุณสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา รอต้อนรับ



จากนั้น ท่านนายกฯ รับฟังภาพรวมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวบริเวณชายฝั่งทะเลอันดามัน จากคุณณรงค์ วุ่นซิ่ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งวันนี้ จะปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าฯ เป็นวันสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการด้วย



โดย ท่านนายกฯ ได้ขอบคุณผู้ว่าฯจังหวัดภูเก็ต ที่อุทิศตนเองทำประโยชน์กับประเทศชาติ ถือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับข้าราชการ และ อวยพรให้มีความสุขในเส้นทางชีวิตต่อไป

พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ เป็นรัฐบาลของประชาชน เพื่อประชาชน โดยไม่จำเป็นต้องมีสส.อยู่ในพื้นที่ ก็จะติดตามงานอย่างต่อเนื่อง



จากนั้น ท่านนายกฯ เดินทางลงพื้นที่ โดยใช้รถยนต์ โตโยต้าอัลพาร์ด ทะเบียน ขง 4477 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถคันเดิมที่เคยใช้ตอนลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา



ก็มี แวะที่ศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า อ.กระทู้ รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ก็มีทั้ง เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องที่ดินทำกิน ที่ดินทับซ้อน ปัญหาการจราจรในพื้นที่อื่นๆ



โดยนายกฯ รับหนังสือร้องเรียนและระบุว่า จะเร่งดำเนินการ เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และขอไปดูข้อกฎหมายและรายละเอียดก่อน ถ้าอะไรทำได้จะทำให้ และอะไรติดข้อกฎหมายจะพิจารณา



จากนั้น นายกฯ เดินทางมารับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทางแยกต่างระดับ เพื่อลดปัญหาจราจรติดขัดและอำนวยความสะดวกปลอดภัยในการเดินทางสู่เมืองภูเก็ต จุดนี้มีบรรยากาศ ประชาชนมารอมอบดอกไม้ให้กำลังใจท่านนายกฯ โดยบางคนบอกว่า "นายกฯตัวจริงหล่อ"  "นายกสูงมาก"



นอกจากนี้ ท่านนายกฯ ไปตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินนานาชาติอันดามัน จังหวัดพังงา ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดในการก่อสร้างประมาณ 7,000 ไร่ ย้ำเวนคืนที่ดินอย่าให้ประชาชนเดือดร้อน แนะกำหนด KPI เพื่อวางกรอบการทำงาน



นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง รับฟังข้อสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานนานาชาติอันดามัน ตำบลโคกกลอย อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงาซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดในการก่อสร้างประมาณ 7,000 ไร่



ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงการเวนคืนที่ดิน พร้อมเน้นย้ำว่าอย่าทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยให้มีการกำหนดกรอบระยะเวลา เพื่อประเมินเป็นเคพีไอ ให้รู้ถึงความคืบหน้าการดำเนินงาน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/uyN8aSSZyWU

คุณอาจสนใจ

Related News