เลือกตั้งและการเมือง

'เศรษฐา' เข้าทำเนียบทำงานวันแรก กำชับเร่งสร้างผลงาน ยันทำงานเป็นอิสระ ไม่ถูกบงการจากตระกูลใด

โดย panwilai_c

6 ก.ย. 2566

82 views

วันนี้เป็นวันแรก ที่รัฐบาล คุณเศรษฐา ทวีสิน เข้าทำงาน ที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเป็นทางการ มีการประชุม ครม.นัดพิเศษ พูดคุยถึงแนวทางการทำงาน ซึ่งนายกฯเศรษฐา กำชับ ถึงเรื่องการทำงานอย่างโปร่งใส เรื่องการซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มี



วันนี้ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้า เวลา 07.38 น. จากนั้น ขึ้นไปบนดาดฟ้าของตึกไทยคู่ฟ้า สักการะพระพรหม ประจำตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับบรรดารัฐมนตรี อาทิ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ / คุณปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐว่าการกระทรวงต่างประเทศ / คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย / คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นต้น



ก่อนจะลงมา สักการะศาลพระภูมิ และศาลตา-ยาย ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยท่านนายกฯบอกกับทีมข่าวของเราว่า ได้ขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คุ้มครองปกป้องบ้านเมือง ให้ปลอดพ้น จากภัยเศรษฐกิจ ภัยทางสังคม และภัยความแตกแยก



จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม คณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อหารือถึงการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อ รัฐสภา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 11 กันยายนนี้



โดยก่อนเข้าสู่วาระนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวทักทายและต้อนรับรัฐมนตรีทุกคน และบอกว่า การประชุมวันนี้ เป็นการประชุม ครม.นัดพิเศษนัดแรก ตนอยากจะขอชี้แจงแนวทางการทำงานร่วมกันในฐานะรัฐบาลประชาชนคนไทยทุกคน ซึ่งตนพูดไปแล้วหลายเวทีว่า



เราจะเป็นรัฐบาลของประชาชน เราจะทำงานเพื่อประชาชน ปฏิบัติตัวเคร่งครัดตามรัฐธรรมนูญและตามกฎหมาย มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ปัญหาสังคม ปัญหาความแตกแยกทางด้านความคิดทั้งหลาย รัฐบาลนี้พยายามแก้ไขให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เราจะทำงานด้วยความรวดเร็ว อะไรที่เราสามารถทำได้ก่อน โดยไม่ติดข้อกฎหมาย ตนอยากให้ท่านรีบสร้างผลงาน รีบผลิตผลงานเพราะพี่น้องประชาชนทุกคนกำลังเดือดร้อน วันนี้เรายังทำงานจนกระทั่งจะแถลงนโยบายรัฐบาล ถ้าเข้ากระทรวงไปแล้วก็รวบรวมเก็บข้อมูล เพื่อนำมาประกอบการทำงานต่อไป



นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเรื่องความโปร่งใสในการทำงาน โดยเฉพาะเรื่องของการโยกย้ายข้าราชการเป็นเรื่องที่สำคัญ ที่ต้องเห็นใจทุกภาคส่วนในการทำงาน เพราะข้าราชการทุกคนเขาทำงานก็อยากมีความก้าวหน้าในการทำงาน อยากให้ทุกคนให้เกียรติข้าราชการ เรื่องการซื้อขายตำแหน่งต้องไม่มี ขอให้ทุกกระทรวงช่วยกันในเรื่องนี้



การประชุม ครม. นัดพิเศษวันนี้ ใช้เวลาไปเพียง 45 นาที ก่อนที่ท่านนายกฯ จะลงมาแถลงข่าวต่อ สื่อมวลชน โดยนักข่าวถามท่านนายกฯ ว่าทำไม ถึงกำชับเรื่องความโปร่งใสเป็นพิเศษ ในการแต่งตั้งข้าราชการ



เศรษฐา บอกว่า เพราะช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลโยกย้ายพอดี และเป็นที่ทราบกันดีว่าเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นอยู่ตลอด ซึ่งภาคราชการมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นการปูนบำเน็จทั้งหลายก็ขอให้มีความเป็นธรรมด้วยผลงาน ไม่ใช่มาจากการซื้อขายตำแหน่ง



ส่วนเรื่องนโยบาย รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ที่ไม่ได้ระบุไว้ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นั้น นายกรัฐมนตรี บอกว่า เหตุผลที่เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในคำแถลง เป็นเพราะ คำแถลงเขียนไว้เป็นนโยบายกว้างๆ ยืนยันว่าว่าเราจะดูแลเรื่องของการขนส่งทั้งหมด ทั้ง ทางน้ำ ทางอากาศ ทางราง โดยเฉพาะรถไฟฟ้า ที่ต้องดูปัญหาการเชื่อมต่อแถลงละสายให้เข้ากัน และต้องใช้บัตรใบเดียวในการเดินทาง แต่ทั้งหมดต้องขอเวลา



นักข่าวถาม ถึงความอิสระในการทำหน้าที่ หลังจากนี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคเพื่อไทยกับตระกูลชินวัตรมีความเกี่ยวข้องกัน ทั้งนายทักษิณ ชินวัตรและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่



คุณเศรษฐาบอกว่า ขอเวลาในการบริหารราชการประมาณ 3-6 เดือนก่อน ยืนยันว่า ผมมีอิสระในเรื่องความคิด ซึ่งไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร ถ้าใครมีข้อมูลดีๆ หรือคำแนะนำดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็พร้อมรับฟัง



จากนั้น นายกรัฐมนตรีไปที่ สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน ภายใต้หัวข้อ "ดีเดย์ 6 ก.ย. 66 รวมพลังคนไทยต่อต้านคอร์รัปชัน มีนายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วมถายในงานด้วย



นายกฯเศรษฐา กล่าวปาฐกถา บอกว่า ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับโดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ อันดับที่ อยู่ในอันดับ 101 ของโลก เป็นอันดับ 4 ของอาเซียน ตามหลังสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม นั้่นหมายความว่าเราต้องพัฒนากันอีกมาก



ซึ่งแนวทางที่จะขจัดปัญหาทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไปได้ นายกฯเศรษฐา บอกว่า พรรคเพื่อไทยมีทั้งนโยบาย ใช้หลักนิติธรรม ที่เข้มแข็ง นำเทคโนโลยีเข้ามาทำ เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ลดกระบวนการและเงื่อนไขต่างๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เปลี่ยน "รัฐอุปสรรค" ให้เป็น "รัฐสนับสนุน" และป้องกันการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินสินบนจากประชาชน



ตัวอย่างนโยบายในอนาคต อันใกล้ เช่น

1) การใช้ระบบการจ่ายเงินภาครัฐผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์แทนการใช้เงินสด

2) การเปิดให้ขอใบอนุญาตและการติดต่อราชการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ และทำให้ขอได้โดย "ง่าย" เป็น One-stop service

3) การปรับปรุงระบบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้ทันสมัยและโปร่งใส เพื่อป้องกันการทุจริต และเปิดข้อมูลให้ตรวจสอบได้ตามแนวทาง Open Government

4) การปรับเปลี่ยนการบริหารประเทศของรัฐบาลให้เป็น Digital Government และปรับใช้เทคโนโลยีสำหรับระบบการอนุมัติ การอนุญาต การควบคุมตรวจสอบ เพื่อให้มีความโปร่งใส และลดการต้องใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐที่เป็นผู้ติดต่อกับประชาชน


https://youtu.be/mQbcvDeJKvA

คุณอาจสนใจ

Related News