เลือกตั้งและการเมือง

'บิ๊กป้อม' ออกจดหมายฉบับ 3 เปิดใจที่ไม่หยุดเล่นการเมือง พาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง

โดย panwilai_c

27 ก.พ. 2566

64 views

พล.อ.ประวิตร ล่าสุดมีจดหมายเปิดใจอีกแล้ว เป็นฉบับที่ 3 ซึ่งเนื้อหา ย้ำเหตุผล ที่ยังไม่หยุดเล่นการเมือง และร่าวยาวชี้ให้เห็นปัญหา ว่า "ทำไมต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง" เพื่อพาประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตย



เพจเฟซบุ๊ก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นเพจทางการของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์จดหมายเปิดใจเป็นฉบับที่ 3 พร้อมโปสเตอร์ เป็นรูป พล.อ.ประวิตร อยู่ตรงกลาง พื้นหลังด้านซ้ายสีน้ำเงิน - ด้านขวาสีแดง ระบุข้อความ "ณ วันนี้ ทั้ง อนุรักษ์นิยม และ เสรีนิยม คือ กับดัก เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง"



ส่วนเนื้อหาในจดหมาย ขึ้นจั่วหัวว่า ทำไมต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ก็ระบุ "แม้จะมีเหตุผลมากมาย ที่หลายคนเห็นว่าผมควรจะหยุด และกลับไปใช้ชีวิตสบาย ๆ ซี่งจะทำให้ผมมีความสุขมากกว่า เนื่องจากชีวิตไม่ได้รู้สึกขาดแคลนอะไรแล้ว และนั่นทำให้ผมคิดแล้ว คิดอีกอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ในที่สุดแล้ว ผมตัดสินใจที่จะทำงานต่อ



และอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ผมผูกพันกับคนที่ร่วมสร้าง พรรคพลังประชารัฐ ขึ้นมาจนประสบความสำเร็จ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศมาเกือบครบ 4 ปีเต็ม ๆ



เมื่อถึงวันที่จะต้องลงเลือกตั้งกันใหม่ ผมจะคิดแค่เอาตัวรอด ทิ้งเพื่อนพ้องน้องพี่ ที่ยังมีความฝันอยู่เต็มเปี่ยมได้อย่างไร นั่นเป็นเหตุผลแรก แต่ลึกไปในใจ ผมมีเหตุผลส่วนตัวที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ถึงทางออกของชาติบ้านเมือง ว่าควรจะทำอย่างไรกันดี"



ก็พูดถึงช่วงการรับราชการทหาร ระบุว่า "ในห้วงเวลาเกือบทั้งชีวิตในราชการทหาร ด้วยจิตสำนึกดังกล่าว ผมได้รับรู้ความห่วงใยของคนในวงการต่าง ๆ ที่มีต่อความเป็นไปทางการเมืองของประเทศ อาจจะเป็นเพราะผมเป็น "ผู้บังคับบัญชากองทัพ" เสียงความห่วงใยส่วนใหญ่จึงมีเป้าหมายไปที่ "นักการเมือง"



คนกลุ่มหนึ่ง จะเรียกให้เข้าใจง่ายว่า "กลุ่มอิลิท" ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดความเป็นไปของประเทศ มองพฤติกรรมของนักการเมือง และความไม่เชื่อมั่นต่อนักการเมือง และการเลือกของประชาชน ทำให้คนเหล่านี้ เห็นดีเห็นงามกับการ "หยุดประชาธิปไตย" เพื่อ "ปฏิรูป" หรือ "ปฏิวัติ" กันใหม่ หวังแก้ไขให้ดีขึ้น



คนในกลุ่มนี้ล้วนแล้วแต่หวังดี อยากเห็นประเทศพัฒนาไปสู่ความรุ่งเรือง แต่ไม่มีโอกาสเข้ามาได้ด้วย "ระบบการเมือง" โอกาสที่จะเข้ามาช่วยได้ มีเพียงช่วงที่ "รัฐบาลมาจากอำนาจพิเศษ" หรือการปฏิวัติ รัฐประหารเท่านั้น



การรับราชการทหารมาเกือบทั้งชีวิต ทำให้ผมรู้จัก เข้าใจ และแทบจะมีความคิดในทางเดียวกับคนที่หวังดีต่อประเทศชาติเหล่านี้"



แต่นั่นเป็นความคิดในช่วงแรก แม้จะครอบคลุมเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต แต่หลังจากเข้ามาทำงานร่วมกับนักการเมือง ผมได้รับประสบการณ์อีกด้าน และเข้าใจความจำเป็นที่จะต้องนำพาประเทศไปด้วย "ระบอบประชาธิปไตย" และที่สุดแล้วผู้ที่อำนาจตัดสินว่าจะให้ใครเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ก็คือ "ประชาชน"



ซึ่งความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ นั่นคือ "ผู้ยึดครองอำนาจด้วยวิธีพิเศษ" จะตั้ง "พรรคการเมือง" ขึ้นมาสู้ แม้จะหาทางได้เปรียบในกลไกการเลือกตั้ง แต่ผลที่ออกมา "ฝ่ายอำนาจนิยม" จะพ่ายแพ้ต่อ "ฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยม" ทุกคราว



นี่คือต้นตอของปัญหาที่สร้างความขัดแย้ง ขยายเป็นความแตกแยก ระหว่าง "ฝ่ายอำนาจนิยม" กับ "ฝ่ายเสรีนิยม" ที่หาจุดลงตัวร่วมกันไม่ได้ เพราะพยายามหาทางให้ฝ่ายตัวเอง "ชนะอย่างเด็ดขาด-ทำลายอีกฝ่ายให้สิ้นสูญ"



พล.อ.ประวิตร ระบุในจดหมาย ทิ้งท้ายว่า "จากประสบการณ์ของผม เข้าใจทั้ง 2 ฝ่าย และจากนี้ผมจะเล่าให้ฟังถึงรายละเอียด ชี้ให้เห็นถึง "ความจำเป็นต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง" จากนั้นจะบอกให้รู้ว่า ทำไมผมถึงเชื่อมั่นว่า "ผมทำได้" และ "จะทำอย่างไร" หากประชาชนให้โอกาสผม



สุดท้ายนี้ บอกว่า เนื้อหาของจดหมายทุกฉบับ ที่จะเกิดขึ้นผ่านการตรวจทานจากผมแล้วและผมขอรับผิดชอบทุกตัวอักษร"



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/e8LycoVc3Vo

คุณอาจสนใจ

Related News