เลือกตั้งและการเมือง

ไล่เรียงไทม์ไลน์ปลดฟ้าผ่า 'ธรรมนัส-นฤมล' - 'สมชัย' ชี้ พปชร.จบแล้ว!

โดย panwilai_c

10 ก.ย. 2564

158 views

ย้อนฟัง ร.อ.ธรรมนัส คือ คีย์แมนคนสำคัญในพรรคพลังประชารัฐรองจาก พล.อ.ประวิตร ที่เป็นหัวหน้าพรรค บทบาทและผลงานสะท้อนสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสเคยประกาศไว้ว่า เขาคือ "เส้นเลือดใหญ่" ของพรรค




มีคลิปที่ ร.อ.ธรรมนัส เคยพูดไว้เมื่อ 11 ก.ค.2562 "ผมคือเส้นเลือดใหญ่ เลี้ยงหัวใจรัฐบาล ผมกุมความลับ ดีลต่อรอง หากล้มผมได้ รัฐบาลก็สั่นคลอน" เป็นการพูดหลังจากได้รับเลือกมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ในรัฐบาลหลังเลือกตั้ง เพียง 1 วัน นั่นแสดงให้เห็นถึงความมั่นอกมั่นใจในตัวเองของ ร.อ.ธรรมนัส ย้ำว่านั่นคือวันที่เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นแค่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เท่านั้น


บทบาทของ ร.อ.ธรรมนัส โดดเด่นมากขึ้นอีก เมื่อ พล.อ.ประวิตร เข้ามาเป็นหัวหน้าพรรค เมื่อเดือนมิถุนายน 2563 เขาได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจใหญ่ๆ มาตลอด เช่น การเลือกตั้งซ่อม 2 ครั้ง ที่ชัดเจนว่าด้วย "ศักยภาพ" ของ ร.อ.ธรรมนัส ทำให้พรรคชนะการเลือกตั้งมาได้ คือ การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง เมื่อ มิ.ย. 2563 และ ล่าสุด การเลือกตั้ง ส.ส.นครศรีธรรมราช เมื่อ มีนาคม 2564 ซึ่งทั้ง 2 ครั้งเป็นการไปแย่งเก้าอี้ของพรรคอื่นมาได้


ความแข็งแกร่งของ ร.อ.ธรรมนัส ปรากฏออกมาให้เห็นชัดเจนเมื่อเขาได้เป็นเลขาธิการพรรค เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ที่เบียดแย่งเก้าอี้มาจากนายอนุชา นาคาศัย


ซึ่งก็มีการมองว่าจุดสำคัญที่ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส "ติดปีก" มีความมั่นใจมากขึ้นและก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคได้อย่างไร้มลทิน คือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 5 พ.ค.64 ชี้ว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ต้องพ้นสภาพ ส.ส.และรัฐมนตรี ในคดีนำยาเสพติดเข้าประเทศออสเตรเลีย


นอกจากบทบาทในพรรค อีกบทบาทที่สำคัญของ ร.อ.ธรรมนัส คือ การดูแลพรรคเล็กในการร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นที่มาของวลี "แจกกล้วย" นั่นเอง


สัญญาณรอยร้าวระหว่าง นายกรัฐมนตรี และ ร.อ.ธรรมนัส ปรากฎชัดเจนในข่าวตั้งแต่วัน 30 สิงหาคม เมื่้อมีกระแสข่าว กลุ่ม 3 ช. อยู่เบื้องหลังคลื่อนไหวล้ม นายกฯ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้ช่วงนั้นบรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐ มีความอึมครึม โดยมีกาวใจ คือ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นพี่ใหญ่ของกลุ่ม 3 ป. ที่มีความแน่นแฟ้นมายาวนาน


31 สิงหาคม สภาเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก มีภาพ ร.อ.ธรรมนัสคุยพรรคเล็ก


1 กันยายน ช่วงเช้า นายกฯให้สัมภาษณ์ ก่อนเข้าสภาฯ นายกฯออกโรงเตือน ว่าคนที่เคลื่อนไหวจะล็อบบี้โหวต เพื่อล้มนายกฯ คนที่ทำแบบนี้ไม่ใช่สุภาพบุรุษ ต่อมาช่วงบ่าย ร.อ.ธรรมนัส แถลง ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง แต่เป็นการเสี้ย ม และ บอกด้วยว่าพร้อมที่จะกลับไปเป็น ส.ส.เหมือนเดิม


2 กันยายน ส.ส.มงคลกิตติ์ โพสต์ เฟซบุ๊ค ระบุว่า นายกฯปลด ร.อ.ธรรมนัส


3 กันยายน พล.อ.ประวิตร เเปิดมูลนิธิป่ารอยต่อฯเคลียร์ใจ ศึกภายในพรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส" ยกมือไหว้ขอโทษนายกฯ พร้อมกับเปิดเผยความในใจว่า ส.ส.-พรรค เข้าไม่ถึง นายกฯ ขณะที่ " บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร-บิ๊ก ป๊อก พล.อนุพงษ์ และ บิ๊ก ตู่ พลเอกประยุทธ " กอดคอโชว์สื่อยืนยัน สัมพันธภาพ 3 ป.แน่นปึ้ก


4 กันยายน สภาลงมติ คะแนนไม่ไว้วางใจนายกฯ มากที่สุด ส่วนคะแนนไว้วางใจ ได้รองบ๊วย มีรายงานข่าวออกมาด้วยว่า นายกฯสั่งคนใกล้ชิกว่า "มีคนหักหลังให้ไปดูหน่อย "


7 กันยายน ผู้สื่อข่าวสังเกตว่าบรรยากาศในที่ประชุม ครม. นายกไม่รับไหว้ ร.อ.ธรรมนัส ขณะที่มีภาพ ร.อ.ธรรมนัส จับมือพล.อนุพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่มีผู้สื่อข่าวสังเกตว่า พล.อ.อนุพงษ์จับมือแต่หันหน้าไปมองนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.กระทรวงสาธารณะสุข


8 กันยายน ช่วงบ่าย นายกฯไปพบ พล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อเพื่อแจ้งเรื่องการปลด ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งมีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.ประวิตรโกรธมาก ถึงขั้นหลุด คำพูดว่า ทำไมไม่บอก (กู)

- 15.30 น. ร.อ.ธรรมนัส แถลงลาออก จากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยืนยันว่าไม่สบายใจ ใจผมไม่อยู่แล้ว ยอมรับว่าขัดแย้งกับนายกฯ เคลียร์ไม่จบ ขอเลือกทางเดินใหม่ ไม่อยากไปพรรคพลังประชารัฐอีก เพราะรู้สึกว่าฮวงจุ้ยไม่ค่อยดี ขอทำหน้าที่ สส. ลงพื้นที่มากขึ้น อนาคตอาจไม่อยู่พรรคเดิม มีพรรคการเมืองมาจีบเยอะ

- 15.40น. ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ให้ ร.อ.ธรรมนัส และ ดร.นฤมล พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี

- 16.00 น. นายกให้สัมภาษณ์สื่อ "เป็นเหตุผลของผม เรื่องของผม"


หลังนายกฯปลด ร.อ.ธรรมนัส จากรัฐมนตรี ซึ่งสะเทือนถึงพรรคพลังประชารัฐ ด้วย มีหลายคนออกมาวิเคราะห์เรื่องนี้ วิเคราะห์อนาคตพรรค รวมทั้ง นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.


นายสมชัย ระบุว่า คนแขวนหลวงพ่อป้อมคงรู้แล้วว่า จะเมตตามหานิยมหรือปกปักคุ้มครองเภทภัยล้วนไม่ได้ผล เพราะเมื่ออีกฝ่ายที่แขวนไพรีพินาศ มุ่งล้างผลาญรุนแรงต่อฝ่ายตรงข้าม ไม่แค่หลวงพ่อป้อมแม้แขวนพระรอดยังยากรอดได้


โดยระบุว่า "การตัดสินใจสะบั้นความสัมพันธ์กับธรรมนัสของนายกประยุทธ์ คือ วิธีการจัดการแบบใช้อำนาจที่เคยชินโดยลืมไปว่าขณะนี้ คุณไม่ใช่หัวหน้า คสช. แต่คุณเป็นนายกรัฐมนตรีที่ต้องมีพรรคการเมืองสนับสนุน


ธรรมนัสคือนักการเมืองที่เป็นคีย์แมนของความสำเร็จในการเลือกตั้ง คือ เลขาธิการพรรคการเมืองใหญ่ที่สุดที่เป็นหลังของรัฐบาล ความสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งต่อไป คือ ความสามัคคีและดึงกลุ่มก๊วนต่าง ๆ ภายในพรรคให้คงอยู่ ในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีตัวเลือกนายกรัฐมนตรีที่เป็นสินค้าที่ขายได้ต่อประชาชน


พลังประชารัฐวันนี้ จบแล้ว เมื่อเลขาธิการใจไม่อยู่กับพรรคและพร้อมจะพาคนออกไปหาบ้านหลังใหม่ที่ดีกว่า หัวหน้าพรรคปลดเขาไม่ได้ ต้องรอประชุมใหญ่พรรคเท่านั้น เขาอยู่แต่ไม่ทำงานให้แถมยังกุมความลับมากมายที่พร้อมเปิดเผย


ตัวนายกที่จะชูในการเลือกตั้งไม่มีเหลือ ตัวหัวหน้าพรรคก็คงเหน็ดเหนื่อยที่จะเดินหน้าหากไร้พ่อบ้านมาช่วยในการจัดการ ชื่อและเชิงชั้นของผู้ซึ่งจะขึ้นมาแทนก็ยังห่างกับคนที่หมดใจ


และยิ่งทุกคนรู้ว่า หลวงพ่อองค์นี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ การแสวงหาที่อยู่ใหม่คงเดินเป็นการลับอย่างเอิกเกริกนับแต่นี้ พลังประชารัฐจากนี้ ไม่เหมือนเดิม"



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/3RQrfQCo2pQ

คุณอาจสนใจ

Related News