เลือกตั้งและการเมือง
"เท่าพิภพ" ประกาศทวงคืนความไว้ใจจากประชาชน มุ่งมั่นทำหน้าที่ เมินเสียงวิจารณ์กลับลำลงสมัคร สส.
3 ชั่วโมงที่แล้ว
17 views
นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร พร้อมด้วย นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรคประชาชน และนางสาวพรรณิการ์ วานิช ผู้ช่วยหาเสียง เดินทางมายังอาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามกีฬาไทย–ญี่ปุ่น ดินแดง เพื่อยื่นเอกสารสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 33 บางกอกน้อย–บางพลัด แทนผู้สมัครคนเดิมของพรรค ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงินจากยาเสพติด
บรรยากาศการมาสมัครวันนี้ นายเท่าพิภพ เดินทางมาด้วยรถจักรยานยนต์ พร้อมภรรยา สวมหมวกกันน็อกสีส้ม และได้ชูสัญลักษณ์นิ้วมือหมายเลข 11 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวผู้สมัครที่จับได้เช่นเดียวกับผู้สมัครคนเดิม โดย นายเท่าพิภพ บอกกับนักข่าวว่า วันนี้ขี่รถจักรยานยนต์คันใหม่มา ไม่ใช่คันเก่าที่เคยใช้ครั้งก่อน เพราะคันเก่าได้ขายไปแล้ว
นายเท่าพิภพ เปิดเผยว่า ความกังวลใจได้คลี่คลายลงตั้งแต่เมื่อวาน หลังได้รับเสียงไพรมารีโหวตจากสมาชิกพรรคเป็นเอกฉันท์ ให้เข้ามาทำหน้าที่ผู้สมัคร สส.เขตดังกล่าว ซึ่งถือเป็นพลังใจสำคัญ พร้อมย้ำว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการเลือกตั้งในเขตบางกอกน้อย–บางพลัดเท่านั้น แต่เป็นภารกิจของพรรคประชาชนทั่วประเทศ ในการทวงคืนความไว้วางใจจากประชาชน
นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ทำหน้าที่ สส.ตนเองยึดมั่นมาโดยตลอดว่า ทรัพย์สินที่นักการเมืองพึงมีได้ มีเพียงความไว้วางใจจากประชาชน และเมื่อใดที่สูญเสียไปแล้ว ไม่อาจใช้เงินหรือสิ่งใดแลกกลับคืนมาได้ การลงสมัครครั้งนี้จึงเป็นความตั้งใจที่จะนำความไว้วางใจนั้นกลับคืนมา พร้อมยืนยันว่าพร้อมรับผิดชอบและทำหน้าที่อย่างเต็มที่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการตัดสินใจลงสมัคร นายเท่าพิภพ ระบุว่า ใช้เวลาตัดสินใจเพียง 8 วินาที เนื่องจากสถานการณ์มีเวลาจำกัด ก่อนหน้านี้ตนเองทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งจังหวัดนนทบุรี และในช่วงเช้าวันก่อนหน้า ยังลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียง แต่ในช่วงบ่ายกลับต้องรับบทบาทผู้สมัคร สส.ด้วยตนเอง
นายเท่าพิภพ ยังฝากถึงประชาชนในพื้นที่บางกอกน้อย–บางพลัด ว่าพรรคไม่ได้คิดว่าส่งใครลงสมัครก็จะชนะ แต่ยืนยันว่าจะนำความมุ่งมั่นตั้งใจมารับใช้ประชาชนอย่างจริงจัง
ส่วนกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการกลับมาลงสมัครอีกครั้ง นายเท่าพิภพ กล่าวว่า หากมองว่าเป็นการกลับคำพูดก็สามารถตำหนิติเตียนได้ แต่ยืนยันว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง หากแต่เพื่อการเปลี่ยนแปลง และเพื่อเป็นเสียงของประชาชนในพื้นที่บางกอกน้อย–บางพลัด เข้าสู่สภา
ด้าน นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ชี้แจงถึงเหตุผลที่เลือกนายเท่าพิภพ ว่าเป็นไปตามกระบวนการคัดสรรผู้สมัครของพรรค ภายหลังนายเท่าพิภพ แสดงเจตจำนงผ่านเฟซบุ๊ก โดยยอมรับว่ามีหลายคนเสนอตัวเข้ามา แต่ด้วยกรอบเวลาที่จำกัดก่อนปิดรับสมัครวันที่ 31 ธันวาคม คณะกรรมการอาจไม่สามารถตรวจสอบประวัติผู้สมัครใหม่ได้อย่างรอบด้าน ขณะที่ นายเท่าพิภพ เป็นบุคคลที่ผ่านการพิสูจน์ตัวเองมาแล้ว จึงได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการคัดสรรและสมาชิกพรรคผ่านไพรมารีโหวต
นายพิจารณ์ กล่าวด้วยว่า เข้าใจดีว่าประชาชนบางส่วนอาจตั้งคำถามเรื่องความสม่ำเสมอของคำพูด แต่การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการเข้ามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของพรรค พร้อมยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวผู้สมัครเป็นไปตามกรอบกฎหมาย เนื่องจากผู้สมัครคนเดิมได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ทำให้ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้สมัคร และเชื่อมั่นว่าจะไม่ติดขัดในขั้นตอนการรับรองของคณะกรรมการการเลือกตั้ง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีผลกระทบต่อแคมเปญ “มีส้ม ไม่มีเทา” นายพิจารณ์ กล่าวว่า พรรคไม่อาจตอบแทนความรู้สึกของประชาชนได้ทั้งหมด แต่ทันทีที่ทราบเรื่อง ได้เร่งหารือและดำเนินการภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อหาทางออก ยืนยันว่าพรรคพยายามยกระดับกระบวนการคัดสรรผู้สมัคร ทั้งการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม เครดิตบูโร และเปิดเผยรายชื่อให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น แม้ผู้ถูกกล่าวหาจะยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด แต่เมื่อเกิดความเคลือบแคลงสงสัย พรรคจำเป็นต้องตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ยืนยันว่าคำว่า “มีส้ม ไม่มีเทา” ไม่ได้ใช้เฉพาะช่วงหาเสียง แต่เป็นมาตรฐานที่เราจะยึดถือ แม้ในวันที่ได้เป็นรัฐบาลหรือเป็น ส.ส.
ขณะที่ นางสาวพรรณิการ์ วานิช กล่าวว่า สิ่งที่มีค่าที่สุดของพรรคการเมืองคือความเชื่อใจของประชาชน ยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความรู้สึกประชาชน และไม่มีสิ่งใดจะทำนอกจากขอโทษและขออภัย แต่ยืนยันว่าหลักการ “มีส้ม ไม่มีเทา” ไม่ได้หมายถึงการตัดสินคนใดคนหนึ่ง หากแต่เป็นการสร้างระบบการเมืองที่ตรวจสอบได้อย่างตรงไปตรงมา และไม่เกรงใจใคร
นางสาวพรรณิการ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ เป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองในการพิสูจน์ตัวเอง หากประชาชนยังไม่ตัดสินใจเลือกใคร ก็เป็นสิทธิของประชาชน แต่พรรคจะทำหน้าที่แสดงให้เห็นถึงนโยบาย ผู้สมัคร และทีมบริหารประเทศที่มีความรู้ ความสามารถ พร้อมยืนยันว่า หากพบความไม่โปร่งใส พรรคจะจัดการโดยไม่ลังเล
แท็กที่เกี่ยวข้อง เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ,เลือกตั้ง69 ,พรรคประชาชน