เลือกตั้งและการเมือง

กกต.เตรียมตรวจสอบนโยบายหาเสียงพรรค เผย ภาพรวมวันรับสมัคร สส. เรียบร้อยดี

4 ชั่วโมงที่แล้ว

14 views

เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง สรุปภาพรวมการรับสมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ และบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เตรียมตรวจสอบนโยบายหาเสียงพรรค คาดวันเลือกตั้ง พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชามีความพร้อม

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงข่าวสรุปภาพรวมการรับสมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบบัญชีรายชื่อ และบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี (ภาคเช้า) ระบุว่า โดยภาพรวมทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากความร่วมมือของทุกพรรคการเมือง ผู้สนับสนุน รวมทั้งสื่อมวลชน

วันนี้มีพรรคการเมืองที่มาลงทะเบียน ก่อนเวลา 08.30 น.มีทั้งหมด 52 พรรค ทาง กกต.ตรวจเอกสาร ความพร้อมของทุกพรรคแล้ว พบว่าทั้ง 52 พรรค ส่งเอกสารครบถ้วนถูกต้องทุกพรรค และได้มีการจับสลากหมายเลขที่จะใช้หาเสียงครบทั้ง 52 พรรคเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนการเสนอชื่อบุคคล ที่พรรคการเมืองมติเสนอชื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี มีพรรคที่เสนอรวมจำนวน 32 พรรคการเมือง มีการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี รวมจำนวนทั้งสิ้น 68 คน แต่พรรคการเมืองที่ยังเสนอชื่อไม่ครบ หรือยังไม่ได้เสนอชื่อ ยังสามารถเสนอชื่อได้ จนถึงวันสุดท้ายของวันที่รับสมัคร คือวันที่ 31 ธันวาคม ภายในเวลา 16.00 น.

นอกจากนั้นในวันนี้ พรรคการเมืองยังได้ยื่นนโยบายที่จะใช้หาเสียง แต่ไม่ใช่นโยบายพรรคการเมืองตามมาตร 57 เป็นนโยบายที่ กกต.จะส่งไปถึงบ้านผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ไปถึงเจ้าบ้านทั้ง 19 ล้านครัวเรือน เพื่อเป็นข้อมูลให้ประชาชนได้ศึกษาว่า แต่ละพรรคการเมืองมีนโยบายอย่างไร

ส่วนนโยบายพรรคการเมืองตามมาตรา 57 ที่จะใช้หาเสียง คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ว่านโยบายของพรรคการเมือง เป็นไปตาม 4 องค์ประกอบที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานั้น จะมาจากหลากหลายหน่วยงาน โดยมีทรงคุณวุฒิในสาขาวิชาชีพต่างๆ

ทั้งนี้เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ตอบคำถามข้อสงสัยของสื่อมวลชน ในประเด็น การออกเสียงประชามติ ว่าพรรคการเมืองสามารถออกความเห็นว่า “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” ได้หรือไม่ ในเรื่องนี้ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า ในส่วนของประชามติมี 3 ส่วน ส่วนแรก เป็นเรื่องการให้ข้อมูล เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่จะทำประชามติ ในที่นี้คือคณะรัฐมนตรี ที่เสนอคำถามมา ตามมาตรา 9(2) ตอนนี้ กกต.ได้รับคำถามแล้ว อยู่ระหว่างจัดพิมพ์เอกสาร เพื่อส่งไปครัวเรือน 19 ครัวเรือน ในส่วนนี้จะต้องไม่มีการชี้นำ

ส่วนที่ 2 เป็นการแสดงความคิดเห็น ที่สำนักงานจะเป็นคนจัดเวที ให้ฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบได้แสดงความคิดเห็นอย่างเท่าเทียม ทั่งในส่วนกลางและภูมิภาค สื่อมวลชนก็จัดเวทีได้ แต่ต้องคำนึงถึงความเสมอภาค เท่าเทียมกัน ของฝ่ายเห็นชอบและไม่เห็นชอบ

และในส่วนที่ 3 คือกิจกรรมรณรงค์ เพื่อออกเสียงประชามติ เป็นเสรีภาพของประชาชน ที่ให้ประชาชนใช้เสรีภาพเต็มที่ ตามรัฐธรรมนูญกำหนด นั่นหมายความว่า ประชาชน องค์การเอกชน หรือพรรคการเมือง สามารถรณรงค์ตามที่รัฐธรรมนูญให้สิทธิและเสรีภาพไว้ เพียงแต่อย่าทำเกินที่กฎหมายกำหนด เช่น การใส่ร้าย หรือให้ข้อความอันเป็นเท็จ

ส่วนกรณีการเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดน ที่มีการสู้รบของทหารไทยและกัมพูชา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งให้ข้อมูลว่า กรณีมีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ กฎหมายกำหนดให้มีการเลื่อนการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศได้ หรือจะใช้การเลือกตั้งเป็นบางเขตบางพื้นที่ได้ ทั้ง 2 ส่วนนี้กฎหมายให้อำนาจไว้ชัดเจน

แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งคาดการณ์ว่า กว่าจะถึงวันเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทยกัมพูชา น่าจะมีความพร้อม ทั้งในส่วนของสำนักงาน กกต. พรรคการเมือง ผู้สมัคร ประชาชน ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ผู้ปฏิบัติงานพร้อม รวมถึงความปลอดภัยของประชาชนและความสะดวก ทุกสิ่งต้องมีความพร้อม และหัวใจสำคัญที่สุด การเลือกตั้ง ต้องมีความสุจริตและเที่ยงธรรม กกต.ได้เตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ณ วันนี้ยืนยัน ยังสามารถจัดการเลือกตั้งได้



สำหรับการเตรียมความพร้อมเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เลขาธิการ กกต. ระบุว่า ในเรื่องนี้ได้ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ซึ่งมี กรมการกงสุล ที่ดูแลเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรโดยเฉพาะ ได้รับการยืนยันว่าจะทำเต็มที่เพื่อให้การเลือกตั้งออกมาดีที่สุด และต้องดีกว่าเดิม เพราะมีบทเรียนในอดีต ในการเลือกตั้งต้องทำให้ประชาชนไปใช้สิทธิ์อย่างสะดวก และรักษาเจตนารมณ์ของการลงคะแนนให้ได้ นั่นคือหลักการที่ตั้งไว้

ส่วนการปฏิบัติ ต้องยอมรับว่ากระทรวงต่างประเทศจะลำบากขึ้น เพราะมีการออกเสียงประชามติเพิ่มเข้ามาควบคู่ไปด้วย แต่กฎหมายเขียนต่างกัน เพราะการเลือกตั้งต้องส่วนบัตรเลือกตั้งมานับที่ประเทศไทย ส่วนการออกเสียงประชามติต้องนับที่ต่างประเทศ คนเท่าเดิม ทรัพยากรมีน้อย แต่งานเพิ่มขึ้น แต่กระทรวงต่างประเทศ ยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดดีกว่าเดิม และมีการประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการการเลือกตั้งอยู่

สำหรับเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่ในพื้นที่ชายแดน-ไทยกัมพูชา เลขาธิการ กกต. ระบุว่าการเลือกตั้งทุกครั้งมีเจตนารมณ์ให้ทุกคนออกไปใช้สิทธิ์ใช้เสียง ส่วนผู้ใช้สิทธิ์จะไปหรือไม่ไปนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ต้องอำนวยความสะดวกให้ให้ได้มากที่สุด สำหรับในประเด็นนี้ กกต. อยู่ระหว่างการออกแบบการเลือกตั้ง โดยการประสานกับฝ่ายความมั่นคง ว่ารูปแบบใดจะเหมาะสมที่สุด ที่จะอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่เหล่านั้นได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายที่ให้อำนาจไว้

ในส่วนประชาชน ที่อยู่ในกัมพูชา แต่เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและออกเสียงประชามตินั้นจะมีการอำนวยความสะดวกอย่างไรนั้น ในส่วนนี้คงยังตอบรายละเอียดไม่ได้ เพราะปกติแล้วสถานทูตและสถานกงสุลในทุกประเทศ จะจัดให้มีการลงทะเบียนและมีการลงคะแนนทั้งเลือกตั้ง และการออกเสียงประชามติ ดังนั้นต้องรอดูว่าสถานทูตสื่อสารกงสุลไทยในกัมพูชา จะมีการดำเนินการอย่างไร เพราะแต่ละประเทศสามารถออกแบบการลงคะแนนที่แตกต่างกันออกไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง  เลือกตั้ง

คุณอาจสนใจ

Related News