เลือกตั้งและการเมือง
"เท้ง" นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. เข้าสมัคร-จับเบอร์วันแรก หวังรักษาแชมป์ธงส้ม
3 ชั่วโมงที่แล้ว
22 views
วันนี้ (27 ธ.ค.68) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีมผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต ขึ้นรถเมล์พลังงานไฟฟ้าสีส้มแบบร้อน สกรีนข้อความ “เลือกตั้ง เลือกอนาคต” จากอาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ มาที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง) เพื่อสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเป็นวันแรก
นายณัฐพงษ์ เปิดเผยว่า ตนเองมีความมั่นใจและมีกำลังใจเต็มเปี่ยม เชื่อว่าเพื่อน ๆ ผู้สมัครทุกคนเข้ามาทำงานการเมืองเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ผู้สมัครทุกคนได้ผ่านการทำงานและกระบวนการคัดสรรมาอย่างเข้มข้น ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายทุนเทาและปัญหาอาชญากรข้ามชาติ เป็นภารกิจที่เราต้องทำร่วมกันคือเลือกตั้ง 8 ก.พ.นี้ เพราะเป็นภารกิจตัดสินอนาคตประเทศ ตัดสีเทาออกจากประเทศ ทำให้สังคมไทยมีความเท่าเทียมกัน
โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาชนทำเต็มที่ใน 33 เขต เราจะหาเสียงอย่างเต็มที่ให้ได้รับความไว้วางใจและเป็นสีส้มทั้งกรุงเทพฯ เราไม่ประมาทและไม่เคยดูถูกเสียงของประชาชน เพราะไม่มีพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งเป็นเจ้าของ แม้จะพรรคประชาชนจะมีความมั่นใจว่าทั้งกรุงเทพฯ เป็นสีส้ม แต่ก็จะไม่ประมาท กำชับให้ผู้สมัครหาเสียงอย่างเต็มที่ในเวลาที่เหลืออยู่
สำหรับการทำงานที่ผ่านมาของ สส.กทม.พรรคประชาชน ตนเองให้เกิน 10 คะแนน เราทำงานการเมืองทั้งในและนอกสภาฯ ผลักดันกฎหมายหลายอย่างผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว แม้เราจะทำงานในพรรคฝ่ายค้านแต่ก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ ทำงานทุกอย่างตามอำนาจหน้าที่ที่มีเพื่อผลักดันสังคมไทยไปข้างหน้าให้ดีที่สุด โดยนโยบายที่จะชูเป็นนโยบายหลักในการเลือกตั้งครั้งนี้คือ ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วน การขจัดเรื่องสีเทาจากประเทศ ปัญหาความมั่นคงชายแดน และภัยความมั่นคงใหม่ ๆ ทั้งเรื่อง Cyber Crime และการจัดการภัยพิบัติ เราอาจจะคุ้นชินกับอุทกภัยที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ไม่มีน้ำท่วมครั้งไหนที่ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างที่ผ่านมา เรายังมีปัญหาเศรษฐกิจที่โตรั้งท้ายอาเซียนจากปัญหาทางการเมือง สังคมไทยขาดความเท่าเทียม ทุกอย่างเป็นภารกิจที่เราพร้อมเข้าไปบริหารประเทศ โดยทีมบริหารมืออาชีพ
นอกจากนี้ในเดือน เราจะมีการเปิดทีมบริหารที่ไม่ได้มาจากมุ้งใหญ่หรือทุนเทา ไม่มีหนี้บุญคุณต้องตอบแทนใคร ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้พรรคประชาชนเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะเข้าไปแก้ไขในทุกปัญหา
ส่วนชัยชนะครั้งที่แล้วถูกมองว่าเป็นกระแสสีส้ม นายณัฐพงษ์ เชื่อว่ากระแสที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดขึ้นจากพรรคส่วนกลาง แต่เกิดจากการทำงานแข่งขันกับผู้สมัครในพื้นที่ ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัด หากเราสามารถทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นเชื่อใจในพรรคประชาชน กระแสภาพรวมทั้งประเทศจะเกิดขึ้นเอง ตนเองกำลังจะบอกว่าครั้งที่แล้วกระแสที่เกิดขึ้นที่ทำให้เราชนะการเลือกตั้งไม่ได้มาจากกระแสบนโซเชียลมิเดีย แต่เกิดจากการทำความเข้าใจการทำงานอย่างหนักในพื้นที่ของผู้สมัครมากกว่า
ส่วนการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. 10 คนนั้น หลายคนยังทำงานร่วมกับพรรคต่อไป แต่ย้ายไปลงบัญชี เช่น นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ซึ่งเราบริหารความเสี่ยงดีที่สุด การเปลี่ยนตัวผู้สมัครไม่ได้ทำให้พวกเรามีอุปสรรคกลับกลายเป็นว่าเราได้ผู้สมัครที่เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถเป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กันหรือดีมากยิ่งขึ้นให้กับประชาชนกรุงเทพฯ
นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่าวันนี้ไม่ได้ถือฤกษ์งามยามดี แต่ทุกวินาทีเป็นเวลาที่มีคุณค่ามากที่สุดที่เราต้องทำให้ประชาชนเห็น เชื่อใจและเชื่อมั่น พรรคประชาชนนอกจากการเปิดตัวนโยบายไปแล้วและมีการเปิดโฉมหน้าผู้สมัคร สส.กทม. 33 เขต ก็ยังได้ส่งแกนนำไปร่วมส่งใบสมัครกับผู้สมัครในแต่ละจังหวัด ซึ่งหลังจากนี้จะมีการเปิดตัวทีมบริหาร เพื่อจะได้เห็นว่าพรรคประชาชนเอาจริงกับการเลือกตั้งครั้งนี้ พร้อมตัดสินอนาคตประเทศ พาประเทศไทยไปข้างหน้า
นายณัฐพงษ์ ยังตอบคำถาม เรื่องพรรคประชาธิปัตย์แชมป์เก่ากรุงเทพมหานคร เตรียมทวงคืนพื้นที่ด้วยว่า ไม่กังวลเพราะมั่นใจในการทำงานของทีมพรรคประชาชน
นายณัฐพงษ์ เน้นย้ำนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียง 1. ขจัดเรื่องสีเทาจากประเทศ จะทำให้ไทยมีนิติรัฐนิติธรรมที่ดี 2.เศรษฐกิจปากท้อง ทำค่าแรงปรับฐานที่เป็นธรรม แก้ปัญหาค่าของชีพและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ สวัสดิการถ้วนหน้า ตั้งแต่เกิด-โต-แก่-เชิงตะกอน เพิ่มเบี้ยดูแลผู้คนทุกช่วงวัย โจทย์แรกอุดรูรั่วเศรษฐกิจของไทย
“คือต้องได้คะแนนเสียงมากที่สุด ที่เราจะมั่นใจได้ว่า ไม่ถูกพรรคการเมืองอันดับสอง อันดับสาม หรือพรรคอื่น ไปรวมขั้วจัดตั้งรัฐบาล แข่งกับรัฐบาลอันดับหนึ่ง โดยใช้ข้ออ้างทางการเมืองที่ ไม่เป็นจริง ถ้าได้ติดตามฟังคำสัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจริง ๆ ก็รู้ว่าเป็นการผลิตวาทกรรมทางการเมืองที่บิดเบือนข้อเท็จจริง เพราะพรรคประชาชนไม่มีนโยบายในการแก้ไขมาตรา 112 แล้ว เพราะฉะนั้นเราไม่ได้สนใจ เป้าหมายในใจเรามีเราเชื่อมั่นว่าได้เป็นรัฐบาลแน่นอน แต่เป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้นนอกจากเรื่องคะแนนเสียงคือการตั้งรัฐบาลประชาชน เป็นภารกิจตัดสินอนาคตของประเทศ เพื่อทำให้ไทยไม่เทา ไทยเท่ากันและไทยทันโลก” นายณัฐพงษ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่นายณัฐพงษ์ พาผู้สมัครเดินผ่านรถแห่ของพรรคเพื่อไทย ได้มีคุณลุงบนรถแห่ ตะโกนเชียร์ว่าสู้ๆ ถือเป็นมิตรภาพระหว่างการรับสมัคร
แท็กที่เกี่ยวข้อง เท้งณัฐพงษ์ ,พรรคประชาชน