เลือกตั้งและการเมือง
กลาโหม กำหนดท่าทีก่อนประชุม GBC ที่จ.จันทบุรี ชี้กัมพูชาผิดกติกาสากล 5 ประเด็น
3 ชั่วโมงที่แล้ว
91 views
กลาโหม กำหนดท่าทีก่อนประชุม GBC ที่จ.จันทบุรี ชี้กัมพูชาผิดกติกาสากล 5 ประเด็น ย้ำไม่คุยคลุมเครือ-อาจไม่ร่วมประชุม/ไม่ลงนาม
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2568 รายงานข่าวจากกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการกำหนดท่าทีของไทย ในการประชุม GBC ในวันที่ 24 ธ.ค.68 โดย พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหม พร้อมคณะจะไปประชุม ที่ชายแดนจังหวัดจันทบุรี โดยมีการกำหนดท่าทีดังนี้
Q1 : สาระสำคัญที่ รมว.กลาโหมไทยสื่อคืออะไร
A : ไทยยืนยันว่าพฤติกรรมของกองกำลังกัมพูชามีลักษณะละเมิดกติกาสากลหลายประเด็น และการประชุม GBC จะต้องลงรายละเอียดเชิงเทคนิคให้ชัดเจน หากฝ่ายเลขานุการตกลงกันไม่ได้ ไทยอาจไม่เข้าร่วม/ไม่ลงนาม
Q2 : “5 ข้อ” ที่ไทยระบุว่ากัมพูชากระทำผิด มีอะไรบ้าง
A : 1.ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (ครอบครอง–ผลิต–ใช้ทุ่นใหม่) 2.ใช้โบราณสถานเป็นที่มั่นทหาร 3.ใช้ชุมชนเป็นที่ตั้งยิงอาวุธหนัก/ย้ายกลับชุมชนหลังยิง 4.ใช้อาคารพลเรือนเป็นที่ตั้ง/คลังอาวุธ (รวมถึงอาคารที่เชื่อมโยงสแกมเมอร์/คาสิโนถูกใช้ทางทหาร) 5. ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์และเป็นเครื่องมือกล่าวหาเมื่อเกิดความสูญเสีย
Q3 : ไทยกล่าวหากัมพูชาเรื่อง “ทุ่นระเบิด” อย่างไรให้ชัด
A : ไทยระบุว่าพบพฤติการณ์เข้าข่ายทั้ง “ มีไว้ในครอบครอง–ผลิต–ใช้ ” โดยอ้างว่ามีการดัดแปลงทุ่นระเบิดรถถังเป็นทุ่นสังหารบุคคล (เข้าข่ายการผลิต) และพบการใช้ทุ่น “ใหม่” รวมถึงมีเอกสารพิกัดที่ลงวันที่หลังการลงนามปฏิญญาร่วมไม่นาน สื่อว่าไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างจริงจัง
Q4 : ทำไมประเด็น “ใช้โบราณสถาน” ถึงเป็นเรื่องใหญ่
A : เพราะโบราณสถาน/มรดกวัฒนธรรมเป็นพื้นที่คุ้มครองตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ การใช้เป็นที่ตั้งหรือที่มั่นทหารเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหาย และทำให้การปฏิบัติการทางทหารซับซ้อนขึ้น
Q5 : ไทยบอกว่า กัมพูชา “ซุกในพื้นที่พลเรือน” หมายถึงอะไร
A : ไทยระบุรูปแบบ “ยิงอาวุธหนักแล้วถอยเข้าชุมชน” หรือใช้อาคารพลเรือนเป็นที่ตั้ง/คลังอาวุธ ซึ่งเป็นการทำให้พื้นที่พลเรือนตกอยู่ในอันตราย และสร้างข้อจำกัดต่อการตอบโต้ของไทยที่ยึดหลักคุ้มครองพลเรือน
Q6 : กรณี “สแกมเมอร์/คาสิโน” ไทยชี้แจงอย่างไร
A : ไทยย้ำว่าเป้าหมายคือ “ที่ตั้งทางทหาร” ไม่ใช่การปราบสแกมเมอร์เป็นหลัก แต่เมื่อฝ่ายตรงข้ามใช้สถานที่ดังกล่าวเป็นฐานทางทหาร ก็ทำให้ถูกโจมตีในฐานะ “เป้าหมายทางทหาร” ตามหลักความจำเป็นทางทหาร
Q7 : ประเด็น “โล่มนุษย์” ไทยต้องสื่อสารอย่างไรให้สากลและรัดกุม
A : ย้ำหลักว่า “พลเรือนไม่ใช่อาวุธ” และการนำพลเรือนไปอยู่ใกล้/ร่วมกับที่ตั้งทหารเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อพลเรือน พร้อมยืนยันว่าไทยยึดหลักแยกแยะเป้าหมายและคุ้มครองพลเรือน ตรวจสอบได้ตามหลักฐาน
Q8 : ไทยจะหยุดยิงหรือไม่ก่อน GBC
A : ไทยสื่อว่า “ตราบใดที่ยังถูกยิงเข้ามา” ไทยจำเป็นต้องตอบโต้ “ตามความจำเป็นและได้สัดส่วน” ขณะเดียวกันยังเปิดช่องเจรจาผ่าน GBC เพื่อทำให้การหยุดยิงมีรายละเอียดและบังคับใช้ได้จริง
Q9 : เงื่อนไขที่ไทยบอกว่า “หากคุยกันไม่ลงตัว ก็ไม่ต้องไปประชุม/ไม่ลงนาม” คืออะไร
A : คือหากฝ่ายเลขานุการไม่สามารถตกลงกรอบสำคัญเชิงเทคนิคได้ เช่น แนวการวางกำลัง กลไกตรวจสอบ ขั้นตอนบังคับใช้ และรายละเอียดที่ทำให้หยุดยิงมีความหมาย ไทยจะไม่ลงนามในข้อตกลงที่คลุมเครือ
Q10 : ทำไมเลือก “จันทบุรี” เป็นสถานที่ประชุม
A : ไทยอธิบายว่าเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย/นิ่งกว่าเมื่อเทียบกับแนวปะทะบางจุด และต้องการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้คณะผู้แทนกัมพูชา
Q11 : ไทยส่งสารถึงประชาชนในพื้นที่อย่างไร
A : ขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยและบรรยากาศการประชุม แยกแยะการรบคือการรบ การเจรจาคือการเจรจา เพื่อให้เวทีนี้เป็นสนามการทูต ไม่ใช่พื้นที่เผชิญหน้า
Q12 : โครงเรื่อง 3 ขั้น ที่ รมว.กลาโหมพูดถึง คืออะไร
A : 1.พยายามเจรจาก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการรบ 2.เมื่อเกิดการปะทะ พยายามทำหยุดยิง 3.เมื่อเห็นพฤติการณ์ซ้ำและขาดความจริงใจ จึงต้องขยับไปสู่การเจรจาที่เข้มและมีรายละเอียดมากขึ้น พร้อมมาตรการตอบโต้ตามสถานการณ์
แท็กที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหม ,ประชุม GBC ,ไทยกัมพูชา