เลือกตั้งและการเมือง
ไร้สาระ! โฆษก รบ. แจงภาพ “อนุทิน-ผู้ว่าฯ เมืองกัมพูชา” เป็นรูปเก่าสมัยยังไม่มีปัญหาชายแดน
2 ชั่วโมงที่แล้ว
22 views
วันนี้ (8 ธ.ค. 68) เวลา 16.17 น. นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกับนางบัน สเร มอม ผู้ว่าราชการจังหวัดไพลินของกัมพูชา ซึ่งมีลักษณะความสัมพันธ์ใกล้ชิด ว่า สำหรับกรณีภาพที่มีการเผยแพร่ จากทางฝั่งกัมพูชาเป็นภาพเก่า ตั้งแต่สมัยที่ทั้งสองประเทศยังไม่ได้มีปัญหากันเรื่องชายแดน โดยตนก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ
นายสิริพงศ์ กล่าวต่อว่า การเดินทางไปของนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ก็จะเห็นได้ว่าเป็นร้านอาหาร และวัด ซึ่งก็มองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ตนก็เข้าใจว่าเป็นสไตล์ของฝั่งกัมพูชาอยู่แล้ว ที่จะชอบใช้วิธีแบบสแกมเมอร์ ในการที่จะแบล็กเมล ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ทราบเรื่องนี้แล้ว และไม่ได้มีความหวั่นไหวแต่อย่างใด
โดยนายกรัฐมนตรีก็ยังคงยืนยันอย่างแน่นหนักว่า เรื่องความสัมพันธ์เก่า ๆ ไม่อาจจะเอามาเปรียบเทียบกับอธิปไตยของไทยได้ ฉะนั้นการปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชาในคราวนี้ ก็ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนมั่นใจได้ ทั้งมั่นใจในกองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ ผลงานที่ได้ทำผลงานให้เราเห็นมาแล้วในหลายเวที พร้อมขอมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี และรัฐบาล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการไม่ให้ค่าต่อการโพสต์ในครั้งนี้ใช่หรือไม่ นายสิริพงศ์ ระบุว่า รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ไร้สาระ เพราะสิ่งที่เรามุ่งหวังในวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับใคร แต่เป็นเรื่องของอธิปไตยของชาติ เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งชาติรวมใจกัน และอยากให้ตระหนักถึงว่า ในวันนี้การที่ผู้นำของกัมพูชามาโพสต์รูปในลักษณะแบบนี้นั้นต้องการอะไร ตี๋ต้องการให้เกิดการโจมตีรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ก็อย่างที่ได้เรียนไปว่าภาพดังกล่าวเป็นภาพเก่าที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปประเทศกัมพูชาในสมัยอดีตเป็นปกติ ก่อนที่จะมีปัญหากันเรื่องนี้
ส่วนคิดว่าทางฝั่งกัมพูชาจะมีภาพเพิ่มเติมหลังจากนี้อีกหรือไม่ นายสิริพงศ์ ระบุว่า ก็คงไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะหากดูจากภาพความสัมพันธ์ก็เป็นความสัมพันธ์แบบธรรมดาปกติ ไปรับประทานอาหาร และไปวัด ไม่ได้ไปบ้านหรือห้องนอนเขา จึงไม่ได้เป็นความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันขนาดนั้น
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลว่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชนหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ก็เข้าใจได้ว่า ประชาชนก็มีส่วนที่เชื่อมั่น และในส่วนที่ไม่เชื่อมั่น แต่อย่างไรก็ดีก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของท่าน แต่ก็อยากให้มั่นใจในทหาร กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเมื่อได้เห็นท่าทีแบบนี้แล้วที่ทหาร และกระทรวงการต่างประเทศทำให้ท่านเชื่อมั่นได้ ก็แสดงว่ารัฐบาลสนับสนุนการดำเนินการเหล่านั้นอยู่
ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน โพสต์ว่า รัฐบาลใช้กองทัพและประชาชนในการต่อรอง ให้ได้เสียงสนับสนุนในอนาคต โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า คงไม่ใช่ เพราะการดำเนินการเริ่มต้นจากฝั่งเขาก่อน เป็นการดำเนินการที่มุ่งหมายชีวิต เราจะเห็นได้จากภาพของทหารที่ถูกยิง หากไม่มีเสื้อเกราะก็คงเสียชีวิตไปแล้ว
ดังนั้น การโต้ตอบเรามีแสนยานุภาพ มากกว่าเขาในการโต้ตอบแต่ละครั้งของเรา ก็โต้ตอบได้อย่างสัดส่วน หมัดต่อหมัดเท่ากัน และน้ำหนักตัวของเราเขาเจ็บกว่าแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของอธิปไตย เป็นเรื่องที่คาราคาซัง และเป็นเรื่องที่คนไทยถามหลายครั้งว่าเมื่อไหร่จะจบสักที และรัฐบาลก็คิดว่าคราวนี้มันต้องจบ
แท็กที่เกี่ยวข้อง