เลือกตั้งและการเมือง
“บิ๊กโจ๊ก” ซัดวงการตำรวจพังพินาศ จี้ “อนุทิน” สั่ง ผบ.ตร.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขู่เอาผิด ม.157
19 พ.ย. 2568
104 views
“บิ๊กโจ๊ก” ซัดวงการตำรวจพังพินาศ โต้กลับ “ไตรรงค์” ยันไม่เคยหวังผลคดีตัวเอง ลั่นเห็นแล้วสุดเอียน ตำรวจไม่ต้องปฏิญาณ แนะ ผบ.ตร.ยืนปฏิญาณคนเดียว จี้ “นายกฯหนู” รีบตัดสินใจสั่ง ผบ.ตร.หยุดปฏิบัติหน้าที่ ขู่หากไม่ทำจ่อเอาผิด ม.157
วันที่ 19 พ.ย.2568 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าชี้แจงคณะกรรมาธิการการกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา (กมธ.กฎหมายฯ) กล่าวว่า ข้อมูลที่จะมาให้กรรมาธิการวันนี้ก็จะคล้าย ๆ กับที่ให้ในคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน แต่อาจจะมีเพิ่มนิดหน่อย เป็นเรื่องของเส้นเงินและอื่น ๆ ซึ่งในวันที่ 26 พ.ย. ก็จะมีการให้ข้อมูลที่มากกว่าเดิมใน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่ง แล้วความจริงแล้วเรื่องนี้นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก็มีข้อมูลอยู่พอสมควรและรอเวลาที่จะมาให้ข้อมูลแก่กรรมาธิการ ซึ่งวันนี้มีการเปิดในหลายประเด็นทั้งของเพจ CSILA และในรายการโทรทัศน์
“วันนี้ผมต้องกราบเรียนว่าองค์กรตำรวจมันพังพินาศ เพราะว่าคนขึ้นมาเป็น ผบ.ตร.ถ้าคนที่ขึ้นมาอย่างเหมาะสม องค์กรตำรวจเราต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ ผบ.ตร.สุวัฒน์ ผบ.ตร.ดำรงศักดิ์ ก็คือเรื่องการซื้อขายตำแหน่ง เป็นเรื่องที่เลวระยำมาก แต่วันนี้องค์กรเรามาเจอในยุคผบ. ตร.ต่อศักดิ์ ทั้งส่วยเว็บพนันส่วยต่าง ๆ ยาเสพติด และมาเจอยุค ผบ.ตร.กิตติ์รัฐอีก ก็มาเจอเรื่องซื้อขายตำแหน่งอีก คุณไม่มีทางปฏิเสธได้เลยว่าคุณไม่รู้เรื่องเพราะมันเป็นไลน์ของตัวเอง และการซื้อของต่าง ๆ แสดงว่ามีคนที่ไม่พอใจ เอาตังค์เขาไปแล้วแต่ไม่ดำเนินการให้เขา” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะแสดงความบริสุทธิ์ใจจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่มาขอให้แต่งตั้งตาม พ.ร บ.ตำรวจมาตรา 87 ผู้ขอให้แต่งตั้งหรือผู้ขอไม่ให้แต่งตั้งเป็นความผิดทั้งสิ้น มีความผิดจำคุก เพราะฉะนั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ต้องดำเนินคดีกับทุกคนที่มาขอหรือส่งไลน์มา รวมถึงภรรยาตัวเองด้วย
ขณะที่เมื่อเช้านี้เพจพระจันทร์ลายกระต่าย ก็ได้ลงข้อมูลเรื่องผู้การมหาสารคามมีการซื้อขายตำแหน่ง ตนก็พูดตามข้อมูลที่เพจเปิดผู้การมหาสารคามก็รุ่น 41 อีก ผู้บัญชาการภาค 8 ก็รุ่น 41 ผบ.ตร. เรียกมาพบก็ไม่ได้ทำอะไร
“วันนี้ท่านปฏิเสธไม่ได้เพราะมันร้อนทุกหัวระแหง ไม่มีใครเขาทำระยำแบบนี้ ผมแม้ว่าจะเป็นตำรวจที่ดุก็ตาม แต่ดุเรื่องงาน ตำรวจอาจจะเกลียดผมเพราะเหนื่อย แต่ไม่มีเกลียดผมเรื่องเอาตำแหน่งไปขาย” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวว่า สมัยเป็นตนรอง ผบ.ตร.ลงไปจ้ำจี้จ้ำไชผู้กำกับ ตม.ภูเก็ตคนหนึ่ง เขาก็บอกว่าจะให้คนประสานมาขอจ่ายให้เดือนละล้าน ขออย่าให้ลงมาจ้ำจี้จ้ำไชได้หรือไม่ ตนก็บอกไปว่าที่ลงไปจ้ำจี้จ้ำไชไม่ใช่จะเอาตังค์ ตนไม่ใช่ตำรวจแบบโบราณ แต่ต้องการจะปราบปรามแก๊งชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่ภูเก็ต ถ้าเราไม่ส่งเสริมลูกน้องก็ไม่กล้าทำ แต่วันนี้เห็นหรือไม่ตำรวจโอนเงินผ่านเว็บพนัน รับเงินเว็บพนันผ่านบัญชีตัวเอง เห็นหรือไม่มีภาพของกระเป๋าเงินสด นาฬิกา รถยนต์ ไปตรวจสอบได้หมดแหละเรื่องแบบนี้ คนพอมาจากที่ไม่มีอำนาจ พออยู่ ๆ มีอำนาจเอาหมดทุกอย่าง เหมือนคนไม่เคยเจอของ เว็บพนันก็เอาซื้อขายตำแหน่งก็เอา ไม่เลือก เรามันผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะต้องรู้ว่าอะไรที่ควรไม่ควร อะไรควรทำให้คนทำ
วันนี้เราเป็น ผบ.ตร.แล้ว ปล่อยให้ข้างล่างเขาแต่งตั้งไป อย่าไปยุ่งกับเขา อย่าเอื้อมมือไปล้วง วันนี้ไม่ใช่ว่าตนเย้ยหยัน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาตินายกสมาคมตำรวจ จะรับผิดชอบอย่างไรยิ่ง พล.ต.อ.เอก ออกมาปฏิญาณ ว่าจะไม่มีการซื้อขายตำแหน่ง ก็ขอถามว่าผู้บัญชาการภาค 8 ใครตั้งมา ผบ.ตร.ตั้ง พล.ต.อ.เอก รับลูก เพราะอยู่ใน ก.ตร.
ขณะที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ และเมื่อวานที่ตนไม่ได้ไปนั้นเพราะว่าเหนื่อยหน่าย เรื่องที่ผ่านมาของตนยื่นไป 6 ถึง 7 ประเด็นกลับตอบกลับมาว่าไม่ต้องวินิจฉัย เพราะคำสั่งชอบแล้ว มันเป็นไปได้อย่างไร คณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมฯ เขาต้องการให้มารับเรื่องเดือดร้อนของตำรวจ ที่ผ่านมาเรื่องไหนสู้ไหว ก็คำสั่งผู้บังคับบัญชานั้นชอบแล้วแต่เรื่องไหนสู้ไม่ไหวก็เยียวยา แต่ไม่ได้ลงโทษผู้บังคับบัญชาที่ออกคำสั่งโดยไม่ชอบ แค่เยียวยาอย่างเดียว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า มีคนมาบอกว่าใน ก.ตร. แต่ละคนก็มีโควตานายพล โควตาผู้กำกับ และคณะกรรมการพิทักษ์คุณธรรมฯ ก็ขอตำรวจได้ ขณะที่ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและรองจเรตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวเรื่องบัญชีม้าและบอกว่าตนพยายามพูดเรื่องบัญชีม้ามานั้น เพื่อหวังผลกับคดีของตัวเอง ขอยืนยันว่าไม่เคยหวังผลกับคดีของตัวเอง แต่พยายามพูดให้เห็นว่า บัญชีมาเมื่อก่อนไม่ได้เป็นความผิด แต่วันนี้มีการบัญญัติ พ.ร.บ.บัญชีม้า เมื่อก่อนตำรวจหลายคนส่วนใหญ่ชอบใช้บัญชีคนอื่นมาถือแทนเพื่อจะรับสิ่งผิดกฎหมาย แต่วันนี้เมื่อ พ.ร.บ.บัญชีม้ามีแล้วก็เป็นความผิด เราต้องบอกลูกน้องว่าอย่าไปทำแบบนี้เพราะเป็นผู้รักษากฎหมาย พล.ต.ท.ไตรรงค์ จะไปตะแบงไม่ได้ เราต้องยอมรับว่ามีแอ่นอกรับแก้ไข ประชาชนเขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น เขาแค่ต้องการความโปร่งใสความชัดเจน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ให้ตำรวจออกมาปฏิญาณเรื่องการแต่งตั้งตนว่าไม่ต้อง ตำรวจไม่ต้องปฏิญาณ ให้แค่ตัว ผบ.ตร.ออกมาปฏิญาณคนเดียว ยืนคู่กับผู้บัญชาการภาค 8 รวมถึงผู้การมหาสารคามอีกคนทุกวัน ตนเห็นแล้วสุดจะเอียน
เมื่อถามว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ ออกมาระบุว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกมาให้ข้อมูลเพราะต้องการโยงเรื่องของตัวเองถึงเรื่องคดีของตนเอง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีของตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถ้าประชาชนได้ฟังก็จะเห็นว่าเป็นคนละเรื่อง เดิมทีเริ่มมาจากสส.ช.ช้าง ว่า ลูกน้องในชุด PCT4 อาจให้การช่วยเหลือเรื่องคดีโดยกลับคำให้การ วันนี้ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ไปพูดทุกที่แต่ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย พยายามเบี่ยงประเด็นไปเรื่องอื่น พอพูดถึงชุด PCT4 ที่นางพิมพ์พิไลบอกว่าจ่ายส่วยให้ ก็ไปด้อยค่าว่าเขาเป็นผู้ต้องหาเหมือนตน
แต่ถามว่าข้อมูลที่นางพิมพ์พิไลให้มาเป็นความจริงหรือไม่ ดังนั้นอย่าด้อยค่าหรือบิดเบือนถ้าเป็นความจริงก็ไปตรวจดูว่ารองกาโม่เป็นใคร ไล่ออกปลดออกไปเลย หรือจับกุมไปดำเนินคดี ถ้าเป็นแบบนี้ก็จะถูกใจประชาชน แต่ไม่ใช่มาบอกว่า ตนมาหวังผลเรื่องคดี ว่าคดีของตนจะเกี่ยวอะไรกับคดีของนายชนนพัฒฐ์ นาคซั่ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม มันไม่ได้เกี่ยวกัน และคดีของตน จะไปเกี่ยวอะไรกับการปล่อยรถของกลาง เว็บพนัน ที่มีการจ่ายเงินให้ตำรวจไซเบอร์
เมื่อถามว่า พล.ต.ท.ไตรรงค์ บอกว่าให้ประชาชนคิดก่อนฟังข้อมูลจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ แบบนี้จะสร้างความสับสนให้ประชาชนหรือไม่ ว่าอันไหนข้อมูลเท็จอันไหนข้อมูลจริง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้สิ่งที่ตนพูดก็ไม่ได้คาดหวังว่าต้องให้ประชาชนเชื่อ แต่ต้องไม่คิดว่าประชาชนโง่ อย่าไปดูถูก การที่พล.ต.ท.ไตรรงค์ไปพูดเป็นการดูถูกประชาชน ประชาชนรู้ว่าอะไรคือเท็จอะไรคือจริง เพราะสิ่งที่ตนพูดพูดตามเอกสาร ตามพยานหลักฐาน ส่วนคดีของตนก็บอกประชาชนไปแล้วว่าให้ตราหน้าไปก่อนว่าตนผิด แล้วตนจะไปต่อสู้เอง วันนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการ คือ ทำไม พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ถูกให้ออกจากราชการ
แต่ทำไมตนถูกออกจากราชการ แล้วทำไมตำรวจอีก 40 กว่าคนที่พล.ต.ท.ไตรรงค์ไม่ดำเนินคดี ทำไมถึงเลือกดำเนินคดีเฉพาะกับตน เรื่องนี้ซึ่งเรื่องนี้เราคุยกันมาอาทิตย์กว่าแล้ว ตำรวจเหล่านั้นยังทำงานตามปกติ ดังนั้นเรื่องนี้ถ้านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไม่สั่งให้พล.ต.อ.กิตติ์รัฐหยุดปฏิบัติหน้าที่ หรือสั่งให้ไปช่วยราชการ นายกฯก็ต้องโดนข้อหาละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ด้วย
“ตนไม่เชื่อว่านายกฯหนูจะรับเงินรับทอง แต่ประชาชนเขาสงสัยว่าไม่รับเงินก็จริง แต่รับประโยชน์อื่นใดหรือเปล่า เพราะฉะนั้นนายกฯหนู ก็ต้องรีบตัดสินใจ วันนี้รับประกันได้เลยว่าไม่มีรอง ผบ.ตร.คนไหน จะออกมาปกป้อง ผบ.ตร.เพราะรอง ผบ.ตร.ทุกคนกระดิกเท้ารอ เมื่อไหร่จะได้รักษาราชการแทนเมื่อไหร่จะได้เป็นผบ.ตร.แทน ระบบมันเป็นอย่างนี้แหละ” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง บิ๊กโจ๊ก ,องค์กรตำรวจ