เลือกตั้งและการเมือง
"โรม" กร้าว! ไม่ใช่แค่ "ชนนพัฒฐ์" แต่ต้อง "ธรรมนัส" ย้อนถาม "อนุทิน" ปลดคนนี้ ประเทศเสียอะไร
13 พ.ย. 2568
39 views
13 พ.ย. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงวาระการประชุมพิจารณาวันนี้ จะมีการตรวจสอบนักการเมืองที่มีชื่อเกี่ยวโยงกับเว็บพนันและมีการเชิญ นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.สงขลา พรรคกล้าธรรม มาชี้แจงด้วย ว่า หลักๆเป็นเรื่องของเว็บพนัน เส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับนายชนนพัฒฐ์ และนักการเมือง ส. และยังมีการเชื่อมโยงกับนายตำรวจ ทั้งอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และตำรวจ PCT 4 ซึ่งเราไม่ได้เชื่อทันที ให้ทุกคนได้มาชี้แจงกรรมาธิการ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้ว ก็คงต้องส่งต่อให้กับหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ เบื้องต้นล่าสุด สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้ไปยึดอายัดทรัพย์นายชนนพัฒฐ์ ซึ่งต้องดูทรัพย์ที่อายัดไปมีรายการอะไรบ้าง ถ้าทรัพย์ที่เกี่ยวกับสแกมเมอร์หรือเว็บพนัน น่าจะมีรูปแบบของคริปโต ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามีการยึดอายัดทรัพย์คริปโตบ้างหรือไม่ หรือรถหรู บ้าน ที่ดิน มีการยึดอายัดทรัพย์บ้างหรือไม่ ที่เราเห็นเป็นเพียงตัวเลขออกมาเท่านั้นเอง ซึ่ง 159 ล้านบาท น่าจะเป็นเงินหมุนเวียนในบัญชี และไม่มั่นใจว่าเป็นบัญชีทั้งหมดหรือไม่ แต่ถ้ายึดอายัดทรัพย์จริงต้องไล่ให้หมด ทำให้เกิดคำถามว่าที่ยึดอายัดมีใครบ้างและตำรวจที่ไปเกี่ยวข้องต้องถูกยึดอายัดทรัพย์ด้วยหรือไม่ เราพยายามทำให้ทุกคนได้อธิบายอย่างเต็มที่ นอกจากนายชนนพัฒฐ์แล้ว ยังมีนายสมยศ พลายด้วง สส. ภาคใต้ด้วย ซึ่งเบื้องต้นนายสมยศ น่าจะมาไม่ได้ เพราะติดภารกิจต่างประเทศ ส่วน นายชนนพัฒฐ์ ก่อนที่จะมีการยึดอายัดทรัพย์ ได้รับทราบว่าจะมา และจะมาพร้อมกับนายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรมด้วย แต่ก็ไม่รู้จะเปลี่ยนใจหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่ได้รับการติดต่อว่าจะไม่มา
เมื่อถามว่ากรณีของนายชนนพัฒฐ์ กับนายสมยศ มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ว่าเส้นเงินที่มีการโอนถึงกันเป็นเหตุผลอะไร แต่เบื้องต้นมีเส้นเงินที่ถึงกัน ก็ต้องรอให้ทุกฝ่ายชี้แจง ซึ่งเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ เยอะกว่ามาก จึงเป็นเหตุผลว่านายชนนพัฒฐ์ เป็นเป้าหมายในการตรวจสอบ ซึ่งข้อมูลที่ตนมีเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายชนนพัฒฐ์ และได้เชิญกรมสรรพากรมาให้ข้อมูลในการเสียภาษี ว่ามีการจงใจเรื่องภาษีหรือไม่
เมื่อถามว่ามีนักการเมืองอีก 3 คน ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นใคร นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ขอให้ไล่ไปทีละส่วนดีกว่า จะได้ไม่สูญเสียโฟกัส สวนจะไปถึงใครก็ต้องรอดู ตอนนี้ยอมรับว่ามีหลายคน
“สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากกว่านักการเมืองคือตำรวจ ตำรวจยังไปรับเงินเว็บพนัน สแกมเมอร์ แล้วใครจะมาปราบสแกมเมอร์ อันนี้ก็ชวนคิดกันดีๆ เราต้องยอมรับว่าสังคมไทยประเทศไทยตอนนี้กำลังเผชิญหน้าสิ่งที่เรียกว่าทุนเทายึดประเทศ ถ้าเราไม่จัดการเรื่องนี้ดีๆ เราจะพบว่าท้ายที่สุดประเทศของเราอาจจะเต็มไปด้วยทุนสีเทาแล้วก็ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า เรื่องเส้นทางการเงิน ตนมอบหมายให้นายปิยรัฐ จงเทพ สส. กทม.พรรคประชาชน เป็นผู้พิจารณารายละเอียด แต่อย่างไรก็ต้องฟังคำชี้แจงของผู้ร้องด้วย ทั้งนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ และพลตำรวจเอกสุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร.
เมื่อถามว่าเส้นเงินของนายชนนพัฒฐ์ จะเชื่อมโยงไม่ถึงพรรคการเมืองหรือไม่นั้น ต้องรอฟังว่า นายชนนพัฒฐ์ ซักทอดหรือไม่ ซึ่งการซักทอดในกระบวนการก็ไม่ได้หมายความว่า 100% เพราะอาจมีเหตุผลและแรงจูงใจอื่นก็ได้ และต้องดูเส้นเงิน ซึ่งตนเชื่อว่าเส้นเงินที่เห็นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางบัญชีอาจจะมีการปิด แต่ก็ยังมีความเคลื่อนไหวจนถึงปัจจุบัน ดังนั้นถ้าเงินที่ไหลเวียนไปยัง สส. ต่างๆก็ต้องดูว่า นายชนนพัฒฐ์ อยู่ในฐานะใด ลูกมุ้ง หรือหัวหน้ามุ้ง แต่ตนเข้าใจว่าการเมืองใช้เงินสด แต่ก็ไม่แน่ เพราะถ้าใช้เงินสดเราก็ไม่ได้ข้อมูลหลักฐานเส้นทางการเงิน
เมื่อถามว่า อยากเรียกร้องให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า มันคือการแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่แค่เรื่องของลูกพรรคอย่างเดียว เพราะถ้าเป็นเรื่องของลูกพรรคอย่างเดียว ก็คงมีกระบวนการอื่นจัดการได้ แต่วันนี้ ประเทศไทยมีภัยคุกคามคือทุนสีเทา ร้อยเอกธรรมนัส คือหนึ่งในตอสำคัญที่ทำให้คนที่มองประเทศไทย ข้าราชการไทย ไม่เชื่อมั่น
“คุณธรรมนัส ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว จริงๆก่อนหน้านี้ก็อาจจะไม่เคยมี ฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้ คุณธรรมนัส ต้องพิจารณาตนเอง ตนไม่เรียกร้องให้คุณธรรมนัส แสดงสปิริตอะไร ไม่ได้สนใจว่าคุณธรรมนัส จะมีหรือไม่มี แต่ตั้งคำถามกลับไปที่นายกรัฐมนตรี ว่าท่านจะเอาแบบนี้ใช่ไหม จะปล่อยจอยกับเรื่องนี้ใช่ไหม ผมคิดว่าการตัดสินใจแบบนั้น เป็นการตัดสินใจที่ทำร้ายประเทศไทย การตัดสินใจของนายกฯแบบนี้เป็นการปล่อยจอย ปล่อยให้ทุนสีเทายึดประเทศได้โดยง่าย ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ ผมถามจริงๆ การปลดคุณธรรมนัส ประเทศเสียอะไร นี่คือสิ่งที่ผมต้องตั้งคำถามกับคนที่ชื่ออนุทิน ชาญวีรกูล ธรรมนัสถูกปลดประเทศไทยเสียอะไร ในทางตรงกันข้ามธรรมนัสถูกปลด ประเทศไทยได้มากๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อมั่นการขจัดทุนสีเทา เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนตามที่นายกฯ ประกาศสงครามกับทุนเทาสแกมเมอร์ ว่าต้องการจะทำสงครามกับพวกนี้ แต่ก็ยังปล่อยให้พวกนี้มีอำนาจรัฐประเทศไทยจะอยู่ได้อย่างไร ดังนั้นสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ไม่ได้แสดงถึงความจริงใจต่อการแก้ปัญหานี้เลย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องตลก แต่เราต้องซีเรียสจริงจัง ว่าจะปล่อยให้ทุนเทามีอำนาจรัฐต่อไปจริงๆ หรือ” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า กรณีของนายชนนพัฒฐ์ จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนยังเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่อง หนึ่งคือการลดกระแส วันนี้ยึดอายัดทรัพย์แล้ว แต่อย่างที่ตนบอกมันน้อยไปและยังไม่เห็นรายละเอียดการยึดอายัดทรัพย์ สองเป็นการเบี่ยงประเด็น การที่นายชนนพัฒฐ์ ถูกยึดอายัดทรัพย์ 90 วัน สังคมอาจจะไม่สนใจสุดท้ายนายชนนพัฒฐ์ รอดหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ต้องไม่ใช่แค่นายชนนพัฒฐ์ ถ้ารัฐบาลจริงใจในการทำเรื่องนี้ มันต้องธรรมนัส นี่คือตัวชี้วัดที่สำคัญ เราถึงจะยอมรับได้ว่าพอจะมีความก้าวหน้า หรือการแสดงออกที่จริงใจ แต่ขณะนี้ที่ทำอยู่มีแต่คำพูด ยืนยันจะไม่ปล่อยเรื่องนี้อย่างแน่นอน หากนายอนุทิน ยังทำตัวแบบนี้ไปเรื่อยๆ แบบร้อยเอกธรรมนัส อยู่แบบนี้ นายอนุทินก็มีแต่เสียกับเสีย และคงจะได้รับความเสียหายมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สุดแล้ว ต้องเอาผลประโยชน์ของประเทศมาวาง ถ้าไม่คิดถึงเรื่องผลประโยชน์ของประเทศให้มาก ยังแบกทุนเทาแบบนี้ไปเรื่อยๆ นายอนุทินจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม
เมื่อถามว่า ประเมินมูลค่าทุนเทาไว้จำนวนเท่าไหร่ นายรังสิมันต์ ร้องโหและกล่าวว่า มหาศาล ไม่อั้น อันลิมิเต็ดแน่นอน แค่ปริ๊นส์ กรุ๊ป ก็มี 5 แสนล้านบาทแล้ว และนี่ตั้งกี่เครือข่าย ถ้าเงินทุนเทาใช้สำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้าจริงจะเกิดอำนาจรัฐ มาปกป้องทุนสีเทา ทุนสีเทาจะซื้อธุรกิจของไทย ซื้อบริษัทพลังงาน บริษัททางยุทธศาสตร์ และมีการเปิดร้านรายย่อยแข่งกับคนไทย สุดท้ายเศรษฐกิจไทยเป็นเศรษฐกิจของการฟอกเงิน ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน ยังไม่รวมถึงการท่องเที่ยวและประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางของการฟอกเงิน จะทำลายเศรษฐกิจการเงินการคลังอย่างไร ตนไม่อาจจะนึกภาพได้ ความเสียหายของประเทศไทยนับเฉพาะเงินที่ไหลเข้าไหลออก 1.15 แสนล้าน แต่ความเสียหายที่แท้จริงยังไม่มีใครประเมินได้ อาจจะมากกว่านั้นเป็นล้านล้านแล้วก็ได้
แท็กที่เกี่ยวข้อง รังสิมันต์โรม ,อนุทินชาญวีรกูล ,ธรรมนัสพรหมเผ่า ,ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว