“อภิสิทธิ์” พร้อมแจงทุกเวที เหตุสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 53 ไม่หวั่นภาพเก่ากลับมาฉายซ้ำ

“อภิสิทธิ์” พร้อมแจงทุกเวที เหตุสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 53 หลังถูกนิสิตจุฬาทวงถาม ไล่ “ณัฐวุฒิ” ไปดูข้อมูลสาธารณะ ปมอ้างศาลยังไม่มีคำตัดสิน ไม่มีปัญหาภาพเหตุการณ์เก่ากลับมาฉายซ้ำ ลั่นไม่เสียสมาธิการทำงานเป็นนักการเมืองต้องมีความรับผิดชอบ

วันที่ 5 พ.ย.2568 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์นิสิตจุฬาฯ ชูป้ายกล่าวหาสั่งฆ่าประชาชน ในเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ระหว่างไปบรรยายให้นักศึกษา หลักสูตรปริญญาเอกที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะเป็นปัญหาอุปสรรคในการลงพื้นที่หรือไม่ เพราะคาดว่าจะมีเหตุการณ์การลักษณะนี้เกือบทุกพื้นที่ ว่า ไม่เป็นไร ถ้าเราใช้สิทธิเสรีภาพกรณีที่เกิดขึ้นคิดว่าได้พยายามอธิบายเหตุผลข้อเท็จจริงซึ่งตรวจสอบกันได้ วิพากษ์วิจารณ์กันได้ ถ้าทุกอย่างอยู่ในขอบเขตก็ไม่น่าจะมีปัญหา

ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ออกมาระบุว่า ศาลไม่เคยมีคำพิพากษาในสิ่งที่นายอภิสิทธิ์กล่าวอ้างและเรียกร้องให้นำหลักฐานออกมาแสดง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอให้นายณัฐวุฒิไปฟังคำพูดตนคำต่อคำ ตรวจสอบกับข้อมูลสาธารณะที่มีอยู่ก็ชัดเจนอยู่แล้ว

ส่วนที่มองว่าเป็นกระบวนการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องมองอะไร ถือว่าเมื่อเขามาสอบถามเราก็ชี้แจง เพราะเป็นคนหนึ่งที่พูดมาตลอดว่า คนเป็นนักการเมืองต้องตรวจสอบได้ เราก็เคารพการใช้สิทธิ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไร เมื่อถามว่ามีนักวิชาการบางคน มีคำครหาว่า ไม่ควรกลับมาลงการเมือง อีกด้วยซ้ำ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นความเห็นของท่าน

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ยังไปต่อได้หรือไม่อยู่ที่ประชาชน ซึ่งเมื่อสักครู่ได้แถลงข่าวถึงความตั้งใจของตนเองและกรรมการชุดใหม่ เรายืนยันว่าเป็นการเมืองที่สุจริต การเมืองที่รับผิดชอบ ส่วนจากนี้จะมีวิธีการรับมืออย่างไร เพราะเมื่อมีการจุดประเด็นก็น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกือบทุกที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ถ้าเป็นการใช้สิทธิ์โดยสุจริต ทั้งหลายทั้งปวงอยากให้ทุกฝ่ายเคารพการทำงาน เคารพการทำหน้าที่ของแต่ละฝ่าย

อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาที่ภาพเหตุการณ์เก่าๆ จะกลับมาฉายซ้ำ ผมทำอะไรไว้ พูดอะไรไว้ ผมก็ต้องรับผิดชอบ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนจะต้องมีการเปิดเวทีเพื่อชี้แจงทำความเข้าใจกับคนรุ่นใหม่หรือไม่ เห็นว่าจากวันนี้ไปถึงวันเลือกตั้งก็คงมีเวทีสื่อสารจำนวนมาก และอยากเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เรามีส่วนเลือกอนาคต ขณะนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเมืองกับเศรษฐกิจอยู่ในสภาพติดหล่มแบบนี้ก็เพราะว่าเราไม่พยายามพูดถึงปัญหาที่มีความสำคัญ สำหรับประเทศสำหรับประชาชน มีการพูดถึงนโยบายน้อยมาก และมักจะเป็นเรื่องเฉพาะหน้า ขณะที่ความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ขณะนี้ขึ้นอยู่กับการก้าวเดินไปด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหลายอย่าง พร้อมกับการมีนโยบายใหม่ๆ เป็นความตั้งใจที่เรานำเสนออยู่แล้ว  

ส่วนจะทำให้เสียสมาธิหรือไม่ที่ต้องมาตอบเรื่องเดิมๆ ยืนยันว่า สมาธิดีอยู่ เดินหน้าทำงานตามแนวนโยบายที่วางแนวทางเอาไว้ว่าจะต้องทำอะไร แต่เราก็จะไม่หนีสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เพราะเราต้องรับผิดชอบ และเราก็รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น