เลือกตั้งและการเมือง
“เท้ง” อัด “อนุทิน” แก้ปัญหาสแกมเมอร์ช้า-เบาไป แนะ “อนุทิน” แสดงบทบาทผู้นำจับมือนานาชาติสางปัญหา
25 ต.ค. 2568
163 views
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอการผลักดันกรณีการปราบปรามสแกมเมอร์ในเวทีการประชุมอาเซียนซัมมิท ว่า เสียดายที่ทราบข่าวว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี อาจจะติดภารกิจจากข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้ไม่ได้เดินทางไปร่วมประชุมเวทีดังกล่าว
จริง ๆ ก็ไม่จำเป็นที่ต้องใช้เวทีอาเซียนซัมมิทอย่างเดียว เพราะประเทศไทยโดยนายกฯ สามารถที่จะแสดงบทบาทออกไปในเวทีโลกได้ ในการให้ประเทศไทยเป็นตัวกลางการแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ โดยอาจจะตั้งศูนย์ขึ้นมาเพื่อประสานกับหลาย ๆ ภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบต่าง ๆ อย่างน้อยใช้กลไกนี้เป็นกลไกกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ทั้งในเรื่องของอาชญากรข้ามชาติหรือสแกมเมอร์ต่าง ๆ สิ่งหนึ่งที่จะทำให้เราสามารถจับตัวการได้จริง ๆ คือต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันระหว่างรัฐต่อรัฐ รวมถึงการประสานกับตำรวจสากล หรือ อินเตอร์โพล รวมทั้งการช่วยเหลือเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ตนคิดว่านี่เป็นภารกิจสำคัญที่ประเทศไทย สามารถนำในส่วนนี้ได้
เมื่อถามว่าการทำงานของรัฐบาลถือว่ามีความจริงใจในเรื่องการแก้ปัญหาสแกมเมอร์มากน้อยแค่ไหน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเบาและช้าไป ไม่ได้จริงจังมากเพียงพอ และขอส่งข้อเรียกร้องว่าประเทศไทยสามารถที่จะแสดงบทบาทต่างๆ เหล่านี้ได้ คือในเรื่องเจตจำนงที่ชัดเจนของนายกฯ การลงมือทำอย่างแข็งขันและจริงจัง
เมื่อถามว่าขณะนี้รัฐบาลทำงานมาพอสมควรแล้ว อยากฝากอะไรในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเร้าหลายเรื่อง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ตนเชื่อว่าประชาชนต้องการตอนนี้คือรัฐบาลที่บริหารประเทศทุกอย่างตรงไปตรงมา ฉะนั้นในเรื่องของข้อกล่าวหา เช่น เรื่องของรองนายกฯ ที่อาจจะมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายเส้นเงินต่างๆ เกี่ยวข้องกับแก๊งสแกมเมอร์ อยากให้นายกฯ ได้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่จำเป็นต้องรอ ให้เขาลาออกเอง แต่จริง ๆ อำนาจของนายกฯ สามารถทำได้มากกว่านั้น รวมถึงเรื่องอื่น ๆ เช่น กระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
สิ่งหนึ่งที่ฉุดรั้งประเทศไทยอยู่ในปัจจุบัน หากเราไม่เริ่มแก้ไขระบบการเมืองที่ดีเพียงพอ นโยบายหลายอย่างอาจไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงอยากฝากให้ทางรัฐบาลที่นอกจากจะดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมาแล้ว คือการรักษาสัญญาตาม MOA เดินหน้ากระบวนการในการจัดทำรัฐธรรมนูญและเดินหน้าสู่การยุบสภา เพื่อทำให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ในกรอบระยะเวลาที่กำหนด
เมื่อถามถึงปัญหาสแกมเมอร์ที่โยงไปถึงคนในรัฐบาล จะนำไปสู่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เราสามารถทำได้ คือการใช้ทุกกลไกในสภา เช่น การตั้งกระทู้ถามสด การใช้เวทีกรรมาธิการ รวมถึงกรณีที่นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ใช้เวทีที่ประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา (IPU) เดินหน้ากดดันรัฐบาลเรื่องนี้ ซึ่งทำให้ประเทศไทยเรามีจุดยืนบนเวทีโลกที่แสดงออก ทำให้เวทีโลกเห็นว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่วนการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างที่ตนเคยบอกไปแล้วหลายครั้งว่าสิ่งหนึ่งที่เราต้องพยายามประคับประคองคือกระบวนการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
“สิ่งหนึ่งที่ผมอาจพูดเป็นเงื่อนไขได้ชัดในวันนี้ คือเมื่อไรที่กระบวนการเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ถูกล้มลง ตอนนั้นไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เราจะยั้งในเรื่องของการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ 151 รัฐบาลอีกต่อไป ขณะที่ปัญหาอื่นๆ เราก็ไม่ได้เห็นว่าไม่ได้มีความสำคัญน้อยกว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทุกปัญหามีความสำคัญเท่ากัน เพียงแต่ข้อตกลงตาม MOA ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อย่างที่ผมต้องย้ำอีกครั้งว่าไม่ว่าเราจะเลือกตั้งไปอีกสักกี่ครั้ง หากเราไม่เปลี่ยนกติกาสูงสุดของประเทศ ให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้นประเทศไทย ก็จะเดินหน้าไปไกลกว่านี้ไม่ได้ จึงเป็นสาเหตุที่พรรคประชาชนเราทำข้อตกลง MOA นี้กับพรรคภูมิใจไทยเพื่อเดินหน้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้าเป็นการหมุนเข็มให้ประเทศไทยเดินหน้า”
แท็กที่เกี่ยวข้อง