“เพื่อไทย” เปิดตัว 22 ผู้สมัคร สส.เพิ่ม “สุริยะ” แฉมีขบวนการใช้เงินซื้อตัว สส. ลั่นย้ายไปก็สอบตก

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้ง, นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย, นายประเสริฐ จันทรรวงทอง, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย, นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส. พรรคเพื่อไทย นำเปิดตัวผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย


โดยนายสุริยะ เปิดเผยว่า ตนเคยเปิดเผยว่าพรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าหมายในการได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งหน้า จํานวน 200 กว่าที่นั่ง ซึ่งครั้งที่แล้วมีการเปิดตัวไปแล้ว 183 คน วันนี้จึงได้เปิดตัวเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ตามเป้าหมาย จึงได้เปิดตัวผู้สมัครอีก 22 คน ซึ่งผ่านการคัดเลือกมาอย่างดี หน้าตาผ่องใสมีราศีจับ เพื่อให้ผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทยให้ประสบความสําเร็จเหมือนในอดีต


นายสุริยะ กล่าวอีกว่า เชื่อมั่นว่า การเปิดตัวในครั้งนี้จะได้รับการตอบสนองจากพี่น้องประชาชน ซึ่งทุกท่านจะต้องลงพื้นที่ทํางานหนักเพื่อนํานโยบายของพรรคเราไปให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่ 12 จังหวัด รับทราบว่าเราจะตอบสนองได้อย่างไร


นายสุริยะ ยังเปิดเผยด้วยว่า ผมก็อยู่กับการเมืองมานาน มีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง บอกเป็นเรื่องปกติในการย้ายพรรคในช่วงเลือกตั้ง ที่ผมเห็นว่าไม่ปกติ เพราะที่ผ่านมาการย้ายพรรคเกิดจากกระแสพรรคไม่ดี แต่ในครั้งนี้มีการเสนอตัวเลขมาให้กับ สส. พรรคของเราอย่างชัดเจน มีบางท่านที่หวั่นไหวและย้ายพรรคไป ส่วนที่ยังอยู่เพราะเชื่อมั่นกระแสพรรคเรา ลงพื้นที่แล้วได้เสียงสะท้อนประชาชนว่า ถ้าย้ายพรรคจะไม่เลือกแน่


ดังนั้น การเมืองที่ใช้เงินใช้ทองในการซื้อเสียง ซื้อตัว สส. เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ก็หวังว่า สส. ที่อยู่กับเราจะชนะ และที่เคยย้ายไปในอดีตพิสูจน์แล้วว่า สอบตกไปหลายท่าน


จากนั้นแกนนำพรรคเพื่อไทยไปสวมเสื้อแจ็กเกตสีแดงให้กับผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร พร้อมกับให้ผู้เสนอตัวได้แนะนำตัวต่อสื่อมวลชน


ขณะเดียวกัน นายมานพ จรัสดํารงนิตย์ ผู้สมัครเลือกตั้ง สส. จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวแนะนำตัว ว่าในนามตัวแทนพี่น้องชาวศรีสะเกษ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย ขออาสาเป็นเสียงเล็กๆ ในการปราบงูเห่า เพราะที่ผ่านมา จังหวัดศรีสะเกษเป็นตํานานงูเห่าที่ผ่านมาคนจังหวัดนี้มีน้ำใจ และรักพรรคเพื่อไทยมาก สามารถชนะยกจังหวัดในหลายครั้ง แต่ที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องงูเห่าและในครั้งนี้ก็มีฟาร์มงูเห่า


นายมานพ ย้ำว่า ตนจะลงพื้นที่ไปเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชนและจะทําทุกอย่าง เป็นเลือดหยดสุดท้ายของพรรคเพื่อไทยในการสู้ศึกครั้งนี้


ขณะที่ในจังหวัดนครราชสีมาก็ได้มีการเปิดตัว นางสาวพัชราวรรณ ภิญโญ ผู้สมัครคนใหม่ ที่เป็นสมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา (สจ.) 2 สมัยแทน นายโกศล ปัทมะ ที่ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย


นอกจากนี้ พรรคยังเปิดตัว นายชัยณรงค์ ภู่พิสิฐ พี่ชายของนายวีระเดช ภู่พิสิฐ นายกฯ อบจ.ลำพูน พรรคประชาชน เป็นผู้เสนอตัวลงสมัครเลือกตั้ง สส. ลำพูน ของพรรคด้วย


ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคไม่ได้มาร่วมเปิดตัวผู้สมัคร สส.วันนี้ด้วยเนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว


ทั้งนี้ ผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทยในวันนี้ 22 คน ประกอบด้วย

นายธนรัช จงสุทธานามณี เชียงราย

นายชัยณรงค์ ภู่พิศิษฐ์ ลำพูน

นายวราทิต ไชยนันทน์ ตาก

นางสาวปิยธิดา บุตรกาล มุกดาหาร

นายวีระศักดิ์ โคตรสมบัติ ยโสธร

นายวรฉัตร พงศ์ธีระดุลย์ ชัยภูมิ

นางสาววิเมลือง แก้วศิริ ชัยภูมิ

นางพัชราวรรณ ภิญโญ นครราชสีมา

นางนารดา อึ้งสวัสดิ์ นครราชสีมา

นายมานพ จรัสดำรงนิตย์ ศรีสะเกษ

นายสมเกียรติ คำดำ ปราจีนบุรี

นายคงกฤช หงษ์วิไล ปราจีนบุรี

นายสุทิน นพขำ ปทุมธานี

นายธนากร ปราณีนิตย์ นครพนม

นายชาญชัย คำจำปา นครพนม

นายนพวิชญ์ ไทยแท้ กทม.

นายแมน เจริญวัลย์ กทม.

นายขจรศักดิ์ ประดิษฐาน กทม.

นายธกร เลาหพงศ์ชนะ กทม.

นายกวีวงศ์ อยู่วิจิตร กทม.

นางสาวเสาวนีย์ คงวุฒิปัญญา กทม.

นายสายัณห์ จันทร์เหมือนเผือก กทม.

ต่อมา นายสุริยะ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีการระบุถึงตัวเลขซื้อสส.เพื่อไทย จะสามารถเปิดเผยตัวเลขได้หรือไม่ ว่า เป็นสส.ของพรรคเพื่อไทยที่ให้ข่าวตนมาว่าพยายามมีการติดต่อเพื่อขอให้ย้ายพรรค โดยเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างมหาศาล แต่อย่าให้ตนลงตัวเลขที่ชัดเจนเพราะเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ หากเขาจ่ายขนาดนี้แล้วมีการเลือกตั้งเข้ามา เขาจะถอนทุนคืนขนาดไหน ย้ำว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ


เมื่อถามว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการพูดถึงตัวเลขค่อนข้างเยอะ พรรคเพื่อไทยจะใช้กระแสไปต่อสู้อย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าหากพรรคเพื่อไทยสามารถเสนอนโยบายที่จะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริง พรรคเพื่อไทยจะสามารถได้ตัวเลขตามที่ตนเคยตั้งเป้าเอาไว้ได้ ทั้งนี้ เราได้มีการติดตามโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด และเห็นว่าความนิยมของพรรคประชาชนซึ่งเป็นพระคู่แข่งของเราและต่อสู้กันมาโดยตลอดความลดลง ฉะนั้นโอกาสที่จะมาเพิ่มให้เราก็มีพอสมควร แล้วตัวเลข ที่ตนตั้งเป้าไว้ว่าจะได้ 200 คน อาจจะบวกลบเล็กน้อย 10-20 เปอร์เซ็นต์


เมื่อถามว่าด้วยหลายปัจจัยทั้งเรื่องเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน นโยบายหลายอย่างทำไม่สำเร็จ ขณะที่ผลสำรวจคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยก็ลดลงเรื่อยๆ จนมีการวิเคราะห์กันว่าพรรคเพื่อไทยจะกลายมาเป็นพรรคขนาดกลาง ในช่วงเวลาที่เหลือจะทำอย่างไรให้กระแสนิยมกลับมาได้ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากระแสที่เรามีปัญหาพอสมควรคือเรื่องของการสู้รบกับประเทศกัมพูชา และยังไม่เห็นว่ามีอะไรที่ทำให้กระแสตกต่ำได้เช่นนี้ ฉะนั้น จึงเชื่อมั่นว่าช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ประชาชนจะเริ่มเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น


เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าหากมีการทำประชามติยกเลิก MOU พร้อมกับการเลือกตั้ง จะทำให้กระแสชาตินิยมเรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อคะแนนเสียงพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่สาธารณชนใช้วิจารณญาณได้ว่าสิ่งที่ทำไปแล้วเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหรือไม่ หากเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ตนเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร


เมื่อถามถึงกรณีคนที่ออกจากพรรคเพื่อไทยไปแล้ว วิจารณ์ว่าแม้พรรคเพื่อไทยจะยกเครื่อง แต่ก็เป็นเครื่องที่พังแล้ว ยังมั่นใจยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ตนยังเชื่อมั่นอยู่ เพราะจากการที่ได้คุยกับแกนนำในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา ที่นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา ที่ไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งจากการที่ตนได้คุยกับน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล แกนนำพรรคเพื่อไทย ท่านก็มั่นใจคนใหม่ของเรามาจะชนะ 100 %


เมื่อถามถึง การเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ช่วงใดจะเหมาะสมที่จะเปิดตัว นายสุริยะ กล่าวว่า ทางพรรคกำลังพูดคุยกันอยู่ถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม เมื่อถามถึงกระแสที่มีการไปพูดคุยกับนายวราวุธ ศิลปอาชา สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้มาเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสุริยะ กล่าวว่า ตนไม่ได้ยินตรงนั้น


เมื่อถามว่า บางกระแสบอกว่ามีชื่อของนายสุริยะด้วย นายสุริยะ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่มีคุยกันถึงตรงนั้น ถามย้ำว่า หากพรรคเสนอขึ้นมามีความพร้อมหรือไม่ นายสุริยะ กล่าวว่า ให้รอถึงตรงนั้น อย่าเพิ่งไปสมมติเลย


นายสุริยะ ยังกล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งซ่อม จ.กาญจนบุรี ว่า ขณะนี้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ดูแลพื้นที่


เมื่อถามว่า มั่นใจแค่ไหนในการรักษาพื้นที่นี้ นายสุริยะ กล่าวว่า จะพยายามอย่างเต็มที่