“อิสราเอล-ฮามาส” บรรลุข้อตกลงระยะแรกตามแผนสันติภาพของ “ทรัมป์” แล้ว เตรียมปล่อยตัวประกันเร็ว ๆ นี้

“อิสราเอล-ฮามาส”ได้บรรลุข้อตกลงระยะแรกเพื่อหยุดยิงและปล่อยตัวประกันตามแผนสันติภาพของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่การยุติสงครามที่นองเลือดมานานถึง 2 ปี สร้างความยินดีอย่างยิ่งให้กับประชาชนทั้งสองฝ่าย


ครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซาพากันส่งเสียงโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจทันทีหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้โทรศัพท์มาแจ้งข่าวกับพวกเขาถึงการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับฮามาส และบอกว่าสมาชิกในครอบครัวผู้เป็นที่รักของพวกเขาจะได้รับการปล่อยตัวในวันจันทร์หน้า


เช่นเดียวกับนางไอนาฟ ซานกาอูเกอร์ แม่ของมาตัน ซานกาอูเกอร์ ตัวประกันชาวอิสราเอล ก็ได้จุดพลุฉลองที่จัตุรัสตัวประกันในกรุงเทลอาวีฟ เพื่อเฉลิมฉลองหลังจากทราบข่าวว่าลูกของเธอจะได้รับการปล่อยตัวเร็ว ๆ นี้


ไอนาฟ กล่าวขณะยืนอยู่ข้างลูกสาวของเธอ เพื่อขอบคุณประชาชนชาวอิสราเอล ทหารของอิสราเอล ประธานาธิบดีทรัมป์ และทุกๆ คนที่ช่วยนำลูกชายของเธอและตัวประกันคนอื่น ๆ กลับมา


ขณะเดียวกัน ในอีกฟากหนึ่ง ชาวปาเลสไตน์ในเมืองข่านยูนิสของฉนวนกาซาก็พากันออกมาบนท้องถนนเพื่อเฉลิมฉลองหลังทราบข่าวการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยฝูงชนได้รวมตัวกันใกล้กับโรงพยาบาลนาสเซอร์ พวกเขาปรบมือและส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจ และบอกว่านี่คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังจากความขัดแย้งยืดเยื้อมานานถึง 2 ปี


ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มทรูธโซเชียลว่า ตนรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่จะประกาศว่าอิสราเอลและฮามาสได้ลงนามในแผนสันติภาพระยะแรกของเขาแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าตัวประกันทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัวในเร็ว ๆ นี้ และอิสราเอลจะถอนทหารไปยังพื้นที่ที่ตกลงกันไว้ ซึ่งเป็นก้าวแรกไปสู่สันติภาพที่แข็งแกร่ง ยั่งยืน และถาวร


ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษร โดยอ้างถึงตัวประกันที่ยังถูกฮามาสควบคุมตัวว่า “ด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้า พวกเราจะนำทุกคนกลับบ้าน” ซึ่งนายกฯ เนทันยาฮูจะเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ (9 ต.ค.) เพื่ออนุมัติข้อตกลงดังกล่าว


ทางกลุ่มฮามาสเองก็ออกมาประกาศการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ โดยระบุว่า ภายใต้ข้อตกลงนี้ อิสราเอลจะถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากฉนวนกาซา และแลกนักโทษชาวปาเลสไตน์กับตัวประกันชาวอิสราเอล อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสได้เรียกร้องให้ทรัมป์และรัฐผู้ค้ำประกันดูแลอิสราเอลให้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างสมบูรณ์


การบรรลุข้อตกลงระหว่างอิสราเอลกับฮามาสตามแผนสันติภาพในระยะแรกของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากอิสราเอลและฮามาส รวมถึงผู้ไกล่เกลี่ยจากสหรัฐฯ อียิปต์ กาตาร์ และตุรกี ได้พบปะหารือกันที่เมืองชาร์มเอล-ชีค ประเทศอียิปต์ เพียงหนึ่งวันหลังการครบรอบ 2 ปี การโจมตีข้ามพรมแดนของกลุ่มฮามาสเข้ามาในอิสราเอล ซึ่งเป็นชนวนเหตุให้เกิดสงครามอันดุเดือด


อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายมองว่าข้อตกลงนี้ยังมีหลายคำถามที่ยังไม่คลี่คลาย เช่น ประเด็นเรื่องการบริหารฉนวนกาซาหลังสงคราม และชะตากรรมของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์อย่างฮามาส ซึ่งอาจนำไปสู่ความล้มเหลวเหมือนกับความพยายามครั้งก่อน ๆ แต่ถ้าหากประสบความสำเร็จจริงก็จะถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญด้านนโยบายต่างประเทศสำหรับประธานาธิบดีทรัมป์ที่เคยหาเสียงว่าจะนำสันติภาพมาสู่ความขัดแย้งสำคัญทั่วโลก


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะเดินทางไปเยือนตะวันออกกลางด้วยตัวเองในช่วงสุดสัปดาห์นี้


ทั้งนี้ นับตั้งแต่สงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสเปิดฉากขึ้น ทางการฉนวนกาซาระบุว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 67,000 คน และพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกถล่มจนพังราบเป็นหน้ากลอง รวมถึงประชาชนหลายล้านคนต้องพลัดถิ่น


ขณะที่ฝั่งอิสราเอลก็มีผู้เสียชีวิต 1,200 คน และมีคนถูกจับไปเป็นตัวประกัน 251 คน โดยเชื่อว่ายังมีตัวประกันที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่ 48 คน แต่มีชีวิตอยู่ 20 คน