เลือกตั้งและการเมือง
“เท้ง” มองบวก ปรากฏการณ์ “ภูมิใจดูด” ป้อง “อนุทิน” ไปงานวันเกิด “เนวิน” วันน้ำท่วมหนัก
8 ต.ค. 2568
89 views
“เท้ง ณัฐพงษ์” หัวหน้าพรรคประชาชน บอกปกติปรากฏการณ์ “ภูมิใจดูด” มองบวกใกล้ฤดูเลือกตั้งมีการย้ายขั้วสลับค่ายกันบ้าง โยนเป็นเพราะ “รัฐธรรมนูญ” ทำระบบการเมืองเป็นแบบนี้ ชี้ “ภูมิใจไทย” บริหารยังไม่มีอะไรน่าห่วง ดักทาง “เพื่อไทย” อย่าลงดาบซักฟอกเพราะอยาก “ล้างแค้น” กวักมือมาแก้รัฐธรรมนูญดีกว่า ทวงความเป็นธรรมให้ “อนุทิน” หลังถูกถามน้ำท่วมหนัก แต่ไปงานวันเกิด “เนวิน” บอกคงลงครบทุกพื้นที่ไม่ได้ รัฐบาลเพิ่งตั้งไม่นาน แนะ โฟกัสงานเฉพาะหน้า จี้ เร่งบริหารจัดการน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ “ไม่ช้า ไม่จม ไม่ซ้ำรอย”
8 ต.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักการเมืองเริ่มเข้าพรรคภูมิใจไทยจนเป็นพรรคภูมิใจดูด ว่า อาจจะเป็นเรื่องปกติที่เมื่อเข้าใกล้ฤดูกาลเลือกตั้งจะมีการสลับขั้วย้ายค่ายกันบ้าง แต่รากฐานจริงของเรื่องนี้อยู่ที่ระบบการเมือง รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันเป็นกลไกที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าจะทำให้เกิดการย้ายพรรคได้ง่าย แบบ สส.งูเห่าที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ฉะนั้น ถ้าเราอยากได้การเมืองที่ตรงไปตรงมา ก็ต้องกลับมาแก้ไขที่ระบบการเมือง เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้พรรคประชาชนให้ความสำคัญกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
เมื่อถามว่าการไหลเข้าพรรคภูมิใจไทยแบบนี้ จะทำให้พรรคภูมิใจไทยกลายเป็นเสียงข้างมากและสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อ MOA หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ณ ตอนนี้ตนยังไม่เห็นว่าจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากแต่อย่างใด และคงไม่ปล่อยให้สถานการณ์ไหลไปถึงจุดนั้น ถ้าถึงจุดที่เราเล็งเห็นแล้วว่ามีความเสี่ยงหรือความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นรัฐบาลเสียข้างมาก เราก็คงจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อล้มรัฐบาลทันที
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นประตูด่านแรก ที่จะเป็นจุดชี้วัดที่สำคัญ อีกหนึ่งด่านก็จะเป็นเรื่องการแก้ไขหมวด 15/1 ซึ่งจะถูกเสนอกลับเข้าสู่สภาในวาระที่สาม ซึ่งนอกจากดูเสียง สส. แล้วต้องดูการสนับสนุนจาก สว.ด้วยว่าตกลงแล้วทุกพรรคการเมือง รวมถึงนายกรัฐมนตรี ได้ทำงานหนักขนาดไหนในการทำความเข้าใจกับ สว.
เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นการแก้เชิงสัญลักษณ์หรือไม่ เพราะต้องใช้ร่างของพรรคภูมิใจไทยเป็นหลัก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทยรวมถึงทุกพรรคการเมืองด้วย จะต้องหาจุดตรงกลางร่วมกันให้ได้ จุดยืนของพรรคประชาชนยืนยันว่าที่มาของผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องมีความยึดโยงกับประชาชนมากที่สุด หากหาทางออกร่วมกันไม่ได้ ก็เป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถรักษาสัญญาตาม MOA ได้
ส่วนคุณสมบัติของรัฐมนตรี มีการติดตามอยู่ต่อเนื่องหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จริง ๆ แล้วสิ่งที่ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น และอยากฝากนายกรัฐมนตรีโดยตรง คือการกำกับดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา เช่น รองนายกฯหรือรัฐมนตรีต่าง ๆ การอภิปรายในสภา เป็นการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ ไม่ควรมีผลกระทบ พาดพิงบุคคลสาธารณะ หรือใช้เครื่องมือทางกฎหมายมาเล่นงานกัน ถ้านายกรัฐมนตรีมีหลักการเช่นเดียวกันกับพวกเรา ท่านน่าจะตักเตือนคนใต้บังคับบัญชาของท่านได้
เมื่อถามว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้แต่งตั้งบุคคลเป็นคณะทำงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีเขากระโดงและ ฮั้ว สว. ที่อาจจะมีเครือข่ายกับรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า พรรคประชาชนจะมีการติดตามต่ออย่างใกล้ชิด ทั้งเวทีกระทู้ถามและกรรมาธิการไปเรื่อยๆ แต่ถึงจุดหนึ่ง เราได้พิจารณาจากหลายองค์ประกอบ ทั้งกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้งเรื่องที่เราพยายามป้องกันให้เกิดอำนาจโดยมิชอบ เพื่อไม่ให้เกิดการทำลายอำนาจกระบวนการยุติธรรม ตนอยากให้การดำเนินคดีทุกอย่างตรงไปตรงมา ต้องพิจารณาทุกอย่างประกอบพร้อมกัน ถ้าถึงจุดที่รัฐบาลกำลังจะใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือทำลายกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ทำให้เราไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้อีก เราก็พร้อมจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่าการวางแผนอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นช่วงไหน จะมีการชิงยุบสภาหนีก่อนหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หากยื่นสภาได้ ก็ไม่สามารถยุบสภาได้ อยู่ที่ว่าใครยื่นได้เร็วกว่ากัน
กรณีพรรคเพื่อไทยสามารถยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากพรรคไทยยื่นเอง เขาก็สามารถทำได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือการทำให้ระบบการเมืองไทยสู่กลับมาสู่ระบอบประชาธิปไตยเต็มใบ มีกลไกถ่วงดุลตรวจสอบที่ดี เป็นไปตามหลักสากล จึงไม่อยากให้ใช้เกมการเมืองในการตัดสินใจยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพื่อล้างแค้นอะไรกันหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคืออยากให้พรรคเพื่อไทยและทุกพรรคการเมืองเดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะสำคัญกว่าเรื่องอื่น ต้องดูองค์ประกอบด้วย เช่น เรื่องการยุ่มย่ามเกี่ยวกับคดีการใช้อำนาจโดยมิชอบ แล้วจะทำให้ประเทศเกิดความเสียหาย
เมื่อถามว่ารัฐบาลที่เป็นอยู่ขณะนี้ เป็นไปตามที่พรรคประชาชนวางไว้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เขาเองมีอิสระในฐานะฝ่ายบริหาร ส่วนเราเป็นฝ่ายค้าน แต่ทิศทางใหญ่ๆ ยังอยู่ในกรอบที่พรรคประชาชนโหวตเลือกนายอนุทินเป็นนายกฯ ยังอยู่ในกรอบที่เราประเมินไว้อยู่ ยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อห่วงใยหรือข้อกังวล ที่เราจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ได้มีการพูดคุยกับนายอนุทิน หลังจากแถลงนโยบายหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุย 1 ครั้งในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในเรื่องการหารือผ่านกฎหมาย พ.ร.บ. อากาศสะอาด ได้ยกสายหานายอนุทินโดยตรง อยากให้ท่านกำกับพรรคร่วมรัฐบาลในการมาเป็นองค์ประชุมและโหวตผ่าน พ.ร.บ อากาศสะอาด เราพยายามดันอากาศสะอาดให้ผ่านสภาเร็วที่สุด
ส่วนกรณีที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประกาศว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะได้ สส. 200 ที่นั่ง และพรรคประชาชนจะได้ลดลง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นสิ่งที่ทุกพรรคประเมินว่าตัวเองได้เยอะอยู่แล้ว ตั้งเป้าหมายให้สูง แต่เราเชื่อมั่นว่าในการเลือกตั้งข้างหน้า เป้าหมายของเราได้ 20 ล้านเสียง อาจจะคำนวณเป็นที่นั่งไม่ได้ แต่หากสะท้อนอย่างตรงไปตรงมา ก็จะประมาณ 250 ที่นั่ง
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะเปิดตัวเมื่อไหร่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ยืนอยู่ข้างหน้า ณ ตอนนี้เรายังอยู่กับพรรคไม่ได้ไปไหน อยู่ในกระบวนการสัมภาษณ์อยู่ การเฟ้นหาผู้สมัครในการลงสมัครครั้งหน้าจะเป็นกระบวนการที่เข้มข้นมาก เปิดให้สมาชิกประชาชนมีส่วนร่วม ช่วยกันสะท้อนเสียงออกมาให้ได้มากที่สุด
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าหากดูตามนิด้าโพลก็ยอมรับและเข้าใจความรู้สึกของประชาชนว่ากระแสตก แต่เชื่อว่าการทำหน้าที่ของพวกเราทุกคนจนถึงวันเลือกตั้ง จะเป็นสิ่งที่ทำให้ประชาชนให้ความเชื่อมั่นของพวกเรากลับมา
ขณะเดียวกันได้กล่าวถึงลงพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางพร้อมกับ สส.ของพรรค เพื่อพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในขณะนี้ ว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งกำลังประสบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่อย่างรุนแรง ขอแสดงความเสียใจไปยังผู้สูญเสีย เนื่องจากได้รับรายงานมาว่า หนึ่งวันก่อนหน้าที่ตนจะลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีประชาชนถึงเสียชีวิต 4 คน เป็นเยาวชนที่ลงไปเล่นน้ำในกระแสน้ำที่มีความรุนแรง รวมถึงมีผู้ใหญ่บางคนที่เข้าไปเก็บของได้พลัดตกจากความแรงของกระแสน้ำด้วย เป็นสิ่งที่พวกเราไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น จึงอยากฝากสื่อมวลชน และผู้ใหญ่ทุกท่านว่า พยายามช่วยกันสอดส่องดูแล และให้เยาวชนระมัดระวังในพื้นที่ที่กระแสน้ำรุนแรง
จากการลงพื้นที่ตนได้พบปะกับหน่วยงานหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ รพ.สต. ซึ่งต้องยอมรับว่า เจ้าหน้าที่เองทำงานอย่างเต็มศักยภาพในแง่เชิงรับ มียาและเวชภัณฑ์เพียงพออยู่ แต่เสียงจากสาธารณสุขที่อยู่หน้างาน เรียกร้องมายังตน เพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลว่า ต้องการทำงานเชิงรุก ทั้งรถฉุกเฉิน และการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลศูนย์ และอำเภอ ซึ่งรัฐบาลอาจจะให้การสนับสนุนได้ในส่วนนี้ได้
ประกอบกับจังหวัดอยุธยานั้น มีบริเวณที่จัดเป็นศูนย์พักพิงให้กับประชาชน แต่เป็นการตั้งเต็นท์ข้างทางถนนที่เป็นแนวคันกั้นน้ำ ซึ่งพื้นที่หลายส่วนยังเป็นถนนสองเลน ทำให้รถที่สัญจรบริเวณนั้นในช่วงกลางคืน อาจจะมองไม่เห็น และทำให้ประชาชนที่พักอยู่ตรงนั้น ถูกเฉี่ยว ถูกชน เกิดความไม่ปลอดภัยขึ้นได้ จึงอยากส่งขอข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล ว่าควรจัดการพื้นที่ และสถานที่พักพิง เนื่องจากพื้นที่ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่รับน้ำ อย่างไรเสียเมื่อถึงฤดูกาล ไม่น้อยก็มากต้องประสบเหตุแบบนี้อยู่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่นอกพนังกั้นน้ำ
ในสถานการณ์ภาพรวม ตนและเพื่อน สส.ได้ติดตามจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ก็พบว่า ปริมาณน้ำฝนที่ตกมาบริเวณภาคกลางและภาคเหนือตอนล่างนั้น มีมากกว่าปกติ 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนโยบายจัดการน้ำ สทนช. ก็ใช้วิธีการระบายลงคูคลองต่างๆ ก่อน จึงทำให้ประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำหลายพื้นที่รู้สึกว่า มีน้ำท่วมเยอะกว่าปีก่อนๆ
ส่วนเรื่องเงินเยียวยา ก็ต้องบริหารจัดการให้ไม่ช้า ไม่จม ไม่ซ้ำรอย เนื่องจากในบางพื้นที่ล่าช้ากว่า 2 เดือน กว่าจะได้รับเงินเยียวยา 9,000 บาทหลังสถานการณ์ก็ผ่านไปแล้ว บางพื้นที่ก็ท่วมนานกว่าปกติ ตกลงแล้วมีเกณฑ์อย่างไร และควรเป็นหลักเกณฑ์ที่รัฐบาลนำไปพิจารณา
นายณัฐพงษ์ กล่าวอธิบายว่า ไม่จม นอกจากจะทำให้บ้านไม่จมแล้ว คือจะทำยังไงให้เงินไม่จม เพราะประชาชนหลายคนสะท้อนกลับมาว่า เงินเยียวยา 9,000 บาทไม่เพียงพอ ไม่ซ้ำรอย ทั้งเรื่องการแจ้งเตือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำยังไงให้ประชาชนสามารถเก็บของได้ทัน รวมถึงกรณีน้ำไหลเข้าทุ่ง ซึ่งคนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำสะท้อนมาว่า เก็บเกี่ยวไม่ได้ ไม่ทัน ก็ควรทำให้เกิดการบริหารจัดการดีขึ้น
"สิ่งที่ผมอยากฝากถึงรัฐบาลว่า ถ้าท่านเล็งเห็นปัญหาอย่างเดียวกัน ที่หนี้สาธารณะเต็มเพดาน มีพื้นที่ทางการคลังน้อย ทราบว่าสิ่งที่รัฐบาลต้องการทำในตอนนี้ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สิ่งที่เราอภิปรายในสภามาตลอด คือการใช้เม็ดเงินงบประมาณที่ประชาชนได้ประโยชน์ และขณะเดียวกัน คือการลงทุนทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์ระยะยาวมากกว่าระยะสั้น ถ้าท่านจะสามารถพิจารณางดจัดสรรงบประมาณบางส่วนได้ ลองนึกภาพว่า ถ้าเราแจกเงินให้เปล่าผ่านโครงการต่างๆ กับการที่ให้เงินกับประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม เชื่อว่า ประชาชนจะนำไปเยียวยาในชีวิต บ้าน ทรัพย์สิน ที่เขาได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ถ้าเราพิจารณางบประมาณอย่างคุ้มค่าแทนที่จะให้เงินเปล่าไป แล้ว มาใช้ในการช่วยกันดีดบ้าน ทำให้เกิดการจ้างงานเกิดขึ้น บริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพียงพอ และหากประกาศออกมาเป็นนโยบายกลาง ท่านเองก็ได้คะแนนเสียง เพราะเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาให้กับประชาชนได้เช่นเดียวกัน" นายณัฐพงษ์ กล่าว
แม้ภาพใหญ่ในช่วง 4 เดือนนี้ ตนก็เข้าใจว่าทุกพรรคการเมืองอยากได้คะแนนเสียง จึงอยากส่งข้อเรียกร้องให้รัฐบาล ได้มีการใช้จ่ายอย่างคุ้มค่า อย่างชาญฉลาด
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐบาลช่วงน้ำท่วมนี้ ถือว่าผ่านหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกไปว่า บางส่วนยังช้าอยู่ เช่น เงินเยียวยา หากลงพื้นที่จริงจะพบว่า หลายพื้นที่ท่วมมาหลายเดือนแล้ว ไม่จำเป็นต้องรอให้สิ้นฤดูกาลค่อยมาจ่ายทีหลัง ก็สามารถจ่ายได้เลย
ส่วนการแก้ไขปัญหาเชิงระบบระยะยาว ถ้าช่วยเหลือโดยตรงกับประชาชน เช่น การดีดบ้าน จากที่ประชาชนก็สะท้อนว่า ท่วมทุกปี มีนักการเมืองมาหาทุกปี แจกถุงยังชีพทุกปี จะให้เขาท่วมอยู่อย่างงี้ทุกปีใช่หรือไม่ ตกลงแล้วอะไรคือทางออก หากจะช่วยแล้ว ก็ให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนจริงๆ นี่คือสิ่งที่ตนได้นำเสนอไปว่า ประชาชนอาจจะถูกขูดรีดจากผู้รับเหมาหรือไม่ เราจึงควรมีการจัดการอย่างเป็นระบบ
เมื่อเปรียบเทียบรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กับรัฐบาลนางสาวแพทอง ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตนายกรัฐมนตรี ภาพรวมในตอนนี้ต้องบอกว่า รัฐบาลเพิ่งทำหน้าที่ได้ไม่นาน จึงเชื่อว่า เอาปัญหาเฉพาะหน้า ณ ตอนนี้ดีกว่า สิ่งที่ประชาชนส่งเสียงมาโดยตรงว่า การเยียวยายังช้าไปอยู่ จะทำอย่างไรให้เร็วขึ้น อย่างกรณีแนวชายแดน ซึ่งได้รับการเยียวยา ก็มีข่าวดี แต่อยากให้รัฐบาลเร่งจัดการหลักเกณฑ์ในพื้นที่น้ำท่วมให้สอดคล้องกับปัญหาที่ประชาชนได้เจอ
สำหรับข้อเสนอเพิ่มเติมที่เสนอไป จะมีกลไกอื่นเรียกร้องด้วยหรือไม่ อย่างการตั้งกระทู้ถาม นายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแล นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จะใช้ทุกกลไกทั้งสภา อย่างกรรมาธิการ และการผลักดันกองทุนดีดบ้าน
กรณีข้อวิจารณ์ว่า นายอนุทินลงพื้นที่ไม่มากพอ เช่น การเลือกไปวันเกิดนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด นั้น เรามีการตรวจสอบติดตามอย่างไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคงมีภารกิจอย่างหลากหลาย การที่จะไปงานวันเกิดใครก็แล้วแต่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของนายกรัฐมนตรีด้วย เพื่อความเป็นธรรม ตนทราบว่านายกรัฐมนตรีคงไม่สามารถลงพื้นที่น้ำท่วมได้ครบทุกพื้นที่ แต่สิ่งที่ประชาชนคาดหวัง คือผู้บริหารประเทศที่จะลงไปรับฟังปัญหาเขาอย่างครบถ้วนมากที่สุด ฟังปัญหาอย่างเดียวไม่พออยากให้เกิดการกระทำด้วย ดังนั้น สิ่งที่ประชาชนคาดหวังต่อจากนี้ คือมาตรการช่วยเหลือเยียวยาจริงๆ
ขณะที่ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พระนครศรีอยุธยา พรรคประชาชน ที่ถูกนายอนุทินเรียกขึ้นเวที ได้นำชาร์ตแผนที่ลุ่มน้ำมาอธิบายถึงแนวทางการจัดการน้ำในปัจจุบันนี้ ซึ่งกำกับดูแลโดย สทนช. และกรมชลประทาน ซึ่งกลายเป็นใช้ทุ่งรับน้ำเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะระบาย จึงทำให้พื้นที่ที่เป็นบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำนั้น มีน้ำท่วมสูงขึ้น และนานขึ้น นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไมประชาชนเดือดร้อนมากขึ้นทุกปี
ดังนั้น พรรคประชาชนจึงขอเสนอให้มีการจัดสรรน้ำในทิศทางอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะการระบายน้ำไปทางทิศตะวันออกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการบริหารจัดการต่างๆ ก็ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลโดยด่วน ตลอดจนการเร่งโครงการขนาดใหญ่ เช่น คลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ที่จะทำให้เกิดการผันน้ำไปทางทิศตะวันออกมากยิ่งขึ้น
สำหรับข้อเสนอของประชาชนมี 3 ประเด็นหลัก ที่อยากส่งต่อไปยังรัฐบาล คือ 1.การทบทวนแผนการระบายน้ำ โดยขอเสนอให้ลดความจำเป็น ที่จะต้องเพิ่มอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาลงมาสู่พื้นที่ลุ่มต่ำ โดยเฉพาะจังหวัดอยุธยา และจังหวัดอ่างทอง อยากให้มีการตัดยอดน้ำตั้งแต่เหนือเจ้าพระยาขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ต้องขอขอบคุณรัฐบาล ที่ได้ยินเสียงพวกเรา และเริ่มมีการทำสิ่งเหล่านี้ ขอบคุณ สทนช.และกลุ่มชลประทานด้วย ที่มีการปรับลดการระบายน้ำลงมาแล้ว แต่ก็ยังยังส่งผลกระทบเยอะอยู่สำหรับประชาชน
2.ปรับกรอบเวลาชดเชยเยียวยา จากแต่เดิมที่ต้องรอให้น้ำท่วมเสร็จก่อนจึงจะมีการชดเชยเยียวยา แต่เราขอเสนอให้มีการชดเชยเยียวยาให้กับประชาชนทุกเดือนที่มีน้ำท่วม หรือคือการชดเชยค่าครองชีพให้กับประชาชน เพราะในช่วงเวลานั้น ประชาชนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากมาย
และ 3.อยากขอให้รัฐบาลมีกลไกในการจัดตั้งกองทุนเพื่อการดีดบ้าน รวมถึงกองทุนในการอำนวยความสะดวก และสาธารณูปโภคให้กับประชาชนด้วย ซึ่งเราจำเป็นต้องมีศูนย์อำนวยความสะดวกที่มีคุณภาพ และสามารถใช้ได้ทั้งในช่วงน้ำท่วม และช่วงที่ไม่มีน้ำ ให้สามารถเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ให้ประชาชนสามารถขอสิ่งอำนวยความสะดวกได้ อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เราจะเสนอร่างพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ โดยการเพิ่มหมวดเข้าไปด้วย
แท็กที่เกี่ยวข้อง เท้งณัฐพงษ์ ,ข่าวการเมือง