เขมรฉวยโอกาสใช้เวที AIPA ฟ้องประเทศผู้สังเกตการณ์ปมชายแดน ผู้แทนไทยซัดไม่สร้างสรรค์

เขมรฉวยโอกาสไม่หยุด! ใช้เวที AIPA ฟ้องประเทศผู้สังเกตการณ์ ปมปัญหาชายแดน ด้านผู้แทนไทยลุกแจง ชี้ใช้เวทีไม่สร้างสรรค์ “สส.ภัสริน” ซัดเขมรทำบรรยากาศเหมือนสนามรองรับอารมณ์ตัวเอง

วันที่ 19 ก.ย.2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในการเปิดให้คณะผู้แทนประเทศ สมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA หารือกับประเทศผู้สังเกตการณ์ 14 ประเทศทั่วโลก พบว่า กัมพูชายังคงยกประเด็นสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาขึ้นมาหารือในที่ประชุม โดยอ้างว่าไทยเป็นผู้รุกล้ำอธิปไตย และโจมตีกัมพูชา เช่นการหารือกับสภายุโรป

นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร ผู้แทนรัฐสภาไทยในการเข้าหารือ กล่าวว่า บรรยากาศในการหารือกับสภายุโรปช่วงต้นเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเปิดให้กลุ่มประเทศใน AIPA เปิดประเด็นหารือโดยเรียงตามลำดับตัวอักษร เมื่อคิวของประเทศกัมพูชา กลับพบว่าพยายามหยิบยกเรื่องความขัดแย้งชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา มาเรียกร้องความสนใจ ความสงสาร ต่อประชาคมโลกเช่นสหภาพยุโรป

“เขาพยายามเล่าความเท็จต่างๆ ว่าประเทศไทยไปรุกราน ซึ่งเป็นการกล่าวความเท็จโดยสิ้นเชิง เมื่อถึงคิวของประเทศไทย ผมก็อยู่เฉยไม่ได้จึงรีบชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ ให้ชาวโลกในสหภาพยุโรป รับทราบข้อเท็จจริงต่างๆ” นายชัยวัฒน์ กล่าว

นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวว่า ตามที่ไทยได้เคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง เช่นกันเล็งเป้าหมายที่พลเรือน เป็นการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ และ อนุสัญญาออตตาวา และย้ำว่าประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยสันติภาพ และพยายามย้ำให้เห็นว่าเรามี กลไก การพูดคุยทวิภาคี จึงไม่จำเป็นต้องนำเรื่องต่างๆ ขึ้นมาพูดคุยบนเวทีพหุภาคี

นายชัยวัฒน์ ยังกล่าวว่า ภายหลังที่กัมพูชาได้หยิบยกประเด็นขึ้นมา ในที่ประชุมสภายุโรป ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เท่าไหร่ มีเพียงพูดคุยเรื่อง ระเบียบโลก ในปัจจุบันที่มีความปั่นป่วนเท่านั้น

ด้านนางสาวภัสริน รามวงศ์ ผู้แทนรัฐสภาไทยในการหารือ ร่วมกับประเทศแคนาดา กล่าวว่า ในส่วนนี้ทางกัมพูชาได้หยิบยกขึ้นมาหารือในที่ประชุมแคนาดาด้วยเช่นกัน ในส่วนนี้มองว่ากัมพูชาใช้เวที AIPA อย่างไม่สร้างสรรค์ เพราะการหารือดังกล่าวถือเป็นการหารือในเรื่องเศรษฐกิจ และสังคม ระหว่างประเทศ AIPA และกลุ่มประเทศสังเกตการณ์ แต่ กัมพูชากลับใช้เวทีนี้ในการ เรียกร้องให้ประเทศตัวเองด้วยความเท็จ

นอกจากนี้นางสาวภัสริน ยังเปิดเผยว่าการประชุม ผู้นำทางการเมืองสตรี (WIPA) ครั้งที่ 2 ทางกัมพูชาก็มีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดเช่นเดียวกัน ว่า ไทยโจมตี จนทำให้เพื่อนสมาชิกหันมามองที่ไทยอย่างเกิดความสงสัย และพยายามจะแสดงให้เห็นถึงท่าทีว่าไม่ควรใช้เวทีนี้ในการมาพูดเรื่องนี้ จนไทยต้องยกมือตอบโต้ แต่ทันทีที่กัมพูชาได้พูดเสร็จก็เดินออกจากห้องโดยไม่รอรับฟัง ซึ่งตนมองว่าเวทีนี้ควรจะเป็นการหารือถึงสิทธิของสตรีและเด็ก กลุ่มเปราะบางที่ควรจะได้รับ แต่กัมพูชากลับใช้เวทีนี้มาเรียกร้อง ถือว่าเป็นการใช้เวทีไม่สร้างสรรค์

แต่อย่างไรก็ตามเพื่อนสมาชิกรัฐสภาอาเซียนในห้องประชุมต่างให้กำลังใจอย่างมากต่อไทย และตนยังมองว่าการกระทำของกัมพูชาเป็นการเตรียมการมา เพราะการพูดเป็นลักษณะการอ่านสปีช ใช้น้ำเสียงสูง แข็งกร้าว จนทำให้บรรยากาศเป็นเหมือนสนามอารมณ์ของตัวเอง