เลือกตั้งและการเมือง

ทบ.แจงทหารไม่จับกุมเขมรรื้อลวดหนาม ห่วงภาพลักษณ์ประเทศ หลังมีสื่อต่างชาติลงพื้นที่ด้วย

17 ก.ย. 2568

278 views

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ชาวบ้านกัมพูชาได้แสดงความไม่พอใจ และรื้อลวดหนามบางส่วน บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งต่อมา กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังบูรพา โดยแจ้งว่าทหารไทยกำลังล้อมลวดหนามเพิ่มเติมจากแนวเดิมที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าทหารกัมพูชาอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุด้วย


ภายหลังเกิดเหตุ กองกำลังบูรพาจึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมประสานไปยังหน่วยทหารกัมพูชาที่ควบคุมพื้นที่ ให้เข้าชี้แจงชาวกัมพูชาให้หยุดการกระทำดังกล่าว จนสถานการณ์คลี่คลายเข้าสู่สภาวะปกติ


ต่อกรณีดังกล่าว พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงว่า ข้อเท็จจริงคือบริเวณแนวลวดหนามป้องกันตนเองดังกล่าวนั้น อยู่ในพื้นที่อธิปไตยไทยอย่างชัดเจน แม้ว่าปัจจุบันเหตุการณ์คลี่คลายและกลับสู่ภาวะปกติแล้ว


แต่สิ่งที่เกิดขึ้น มองว่าเข้าข่ายการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิง ที่ฝ่ายกัมพูชามีการกระทำที่แสดงออกถึงการยั่วยุฝ่ายไทย โดยการใช้ประชาชนมาแสดงออก โดยที่ฝ่ายทหารกัมพูชาเพิกเฉย ไม่ได้พยายามที่จะดำเนินการห้ามปรามใด ๆ อีกทั้งมีความพยายามสร้างกระแสบิดเบือนข้อมูล ว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ทั้งที่จริงแล้วเป็นพื้นที่ในเขตอธิปไตยไทยชัดเจน ซึ่งฝ่ายไทยจะได้รวบรวมหลักฐานประท้วงผ่านกลไกสากลต่าง ๆ เพื่อให้ทราบถึงการกระทำที่ขัดต่อข้อตกลงที่มีระหว่างกันของฝ่ายกัมพูชาต่อไป


ขณะที่ เพจ Army Military Force รายงานสถานการณ์ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้วเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุกัมพูชายั่วยุ และรื้อลวดหนามหีบเพลงในพื้นที่อธิปไตยไทย ตำรวจสระแก้ว โดยมีชุดควบคุมฝูงชน ภ.จว.สระแก้ว และทหารจากกองกำลังบูรพา เข้าตรึงกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว


ขณะที่ทหารกัมพูชาได้นำนักข่าวต่างชาติลงพื้นที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว โดยมีรายงานว่าชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมกันแสดงละครและให้ข้อมูลอันเป็นเท็จแก่นักข่าว โดยอ้างว่าทหารไทยพยายามยึดครองดินแดนกัมพูชา ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วดินแดนดังกล่าวเป็นของประเทศไทย นอกจากนี้ทหารกัมพูชาได้อนุญาตให้ชาวบ้านขโมยรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย โดยพบว่าชาวบ้านนำลวดดหนามมาวางไว้ใกล้บริเวณบ้านของตน ซึ่งคาดว่าจะนำไปขายต่อ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่บ้านหนองจานก่อนหน้านี้


พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงหลังเกิดการตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงไม่จับกุมชาวกัมพูชาที่ก่อนเหตุ เนื่องจากกองกำลังบูรพาเคยประกาศกฎอัยการศึกเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ และประกาศว่าหากมีการลุกล้ำเข้ามาจะจับกุมเลยในฐานะลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย หากมีการรื้อถอนลวนหนามก็จะเข้าข่ายทำลายทรัพย์สินราชการ และหากเอากลับไปก็จะเข้าข่ายลักทรัพย์ ว่า วันเกิดเหตุฝ่ายกัมพูชาใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ และมีสื่อมวลชนต่างชาติหลายสำนักอยู่ในพื้นที่ด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศในเวทีโลก เนื่องจากขณะนั้นไม่มีเวลาไปสื่อสารข้อเท็จจริงกับสื่อต่างชาติ ที่กำลังบันทึกภาพอยู่จากฝั่งกัมพูชา ถ้าเราใช้กำลังในการจับกุมชาวบ้านกัมพูชา ภาพที่ปรากฏออกไปอาจจะถูกตีความว่าเป็นทหารไทยที่ไปทำร้ายชาวกัมพูชา ซึ่งจะสอดคล้องกับที่เขายั่วยุต้องการให้เกิดขึ้น


เจ้าหน้าที่จึงต้องปรับแผนตามหลักสากล เริ่มจากการใช้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แต่สถานการณ์ยังคุมไม่ได้ จึงยกระดับเป็นการใช้กฎหมายตามปกติ มีตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาควบคุมสถานการณ์


ซึ่งในภาพรวมการประชุม GBC กัมพูชารับปากพิจารณาใน 3 ประเด็น ซึ่งรวมถึงปัญหานี้ด้วยคือการรุกล้ำชายแดน ซึ่งทางกัมพูชารับปากเอง และขอเวลาสื่อสารภายในหน่วยงาน แต่ล่าสุดทางการไทยทำหนังสือชี้แจงถึงสื่อต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนแล้ว และระบุว่า หากเกิดเหตุซ้ำหลังจากนี้ ไทยจำเป็นต้องใช้มาตรการขั้นสูง โดยจะใช้กำลังทหารบังคับใช้ตามกฎอัยการศึก


พร้อมย้ำว่าการดำเนินการทุกขั้นตอนต้องรัดกุม ทั้งในภาพลักษณ์ระดับโลก และสิ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินการระหว่างประเทศ ถ้าทำอะไรที่ผิดพลาดไปจะส่งผลเสียในภาพรวม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ