“ทักษิณ” นอนคุกคืน 3 ความดันขึ้น ด้าน “อุ๊งอิ๊ง” บอก เข้าเยี่ยมได้เมื่อไหร่ก็จะไปเยี่ยม

พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกรณีการคุมขัง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษ 1 ปี ว่า เมื่อคืนนี้ เป็นคืนที่ 3 นายทักษิณมีอาการความดันขึ้น แต่เป็นอาการที่ดูแลรักษาได้ตามปกติ และยังไม่มีการร้องขอที่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และยังนอนหลับ ทานอาหารได้ปกติ และนายทักษิณมียารักโรคประจำตัวมาทานด้วย และหลังครบกำหนดช่วงกักโรค ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.นี้ ญาติ ครอบครัว สามารถเข้าเยี่ยมได้แล้ว ทั้งนี่ที่ผ่านมายังไม่ได้มีใครเข้าเยี่ยมนายทักษิณเลยสักคน


ส่วนกรณีที่นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงให้ชัดเจน กรณีการปรับพื้นที่เขตเรือนจำกลางคลองเปรมเพิ่มใหม่เข้าไปในพื้นที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในวันที่ 5 ก.ย. 2568 นั้น พันตำรวจโท เชน ชี้แจงว่า เดิมพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เรือนจำกลางคลองเปรม แต่ช่วงโควิด ได้มีการปรับให้ไปเป็นพื้นที่ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพราะคนไข้ล้น พอหมดสถานการณ์โควิด ก็ปรับกลับมาให้เป็นพื้นที่ของเรือนจำกลางคลองเปรมเดิมที่เป็นเจ้าของพื้นที่


ยืนยันว่า ไม่ได้ปรับพื้นที่เพื่อเอื้ออำนวยให้กับนายทักษิณ “เหมือนเราเป็นเจ้าของบ้าน มีที่บ้านของเรา และมีความจำเป็นก็ปรับกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวา พอหมดความจำเป็นก็ปรับกลับมา ไม่ได้มีอะไรเลย ซึ่งโดยพื้นที่ของเรือนจำกลางคลองเปรม ที่ปรับไปให้พื้นที่กับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีทั้งหมด 6 ไร่ เพื่อให้สอดรับกับการดูแลในสถานการณ์โควิด แต่ไม่ว่าพื้นที่ตรงไหนที่ปรับก็เป็นของเรือนจำ และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็คือเรือนจำทั้งหมด”


ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่ม คปท. ที่ต้องการให้ปรับสถานะนักโทษของนายทักษิณให้ไปอยู่สถานะนักโทษชั้นเลว พันตำรวจโท เชน บอกว่า ทางเราเพิ่งได้รับหนังสือเรียกร้อง และจะต้องเสนอถึงท่านอธิบดีว่าจะให้ฝ่ายกฎหมายดูรายละเอียดก่อนว่ายังไง พร้อมกับได้ยกตัวอย่าง


กรณีของแป้ง นาโหนด ที่หลบหนีออกจากโรงพยาบาล และเมื่อจับกุมได้ ทางเรือนจำก็ปรับให้เป็นนักโทษชั้นที่ต่ำกว่าชั้นกลาง แต่กรณีของนายทักษิณ เขาไม่ได้หนีไปแบบนั้น และการที่เขาไปอยู่ รพ.ตำรวจ ก็เป็นการจำคุก และตอนพักการลงโทษ เขาก็ใส่กำไล EM ซึ่งไม่ได้เป็นการหนี ส่วนจะตีความถึงชั้นนักโทษยังไงต้องรอการพิจารณาก่อน


ส่วนที่ทางกลุ่ม คปท. ตีความว่าคำสั่งของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่มีคำสั่งให้นายทักษิณกลับมารับโทษโดยไม่นับการอยู่ รพ.ตำรวจเป็นการลดวันคุมขังนั้น ประเด็นนี้เราขอไปพิจารณา เพราะเป็นความเห็นของกลุ่ม คปท.ที่เพิ่งจะส่งมาวันนี้


ส่วนประเด็นที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ให้พิจารณาถึงระเบียบการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำ ให้มีรูปแบบที่ชัดเจน พันตำรวจโท เชน บอกว่า ประเด็นนี้ทางเราจะรับพิจารณาอย่างแน่นอน เพราะตามข่าวแล้วทาง ป.ป.ช.จะมีการเสนอไปยัง ครม. แต่รายละเอียดมันยังไม่ปรากฏออกมา แต่ตามจริงแล้วมันยังไม่สามารถทำได้ เพราะทางเรายังไม่มีกำไล EM ที่เป็นของกรมราชทัณฑ์ (ไม่เกี่ยวกับกำไล EM ของกรมคุมประพฤติ) ซึ่งหากจะมีการคุมขังนักโทษนอกเรือนจำจะต้องใส่กำไลEM เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ติดตาม แต่ตอนนี้ทางเรายังอยู่ระหว่างการของบประมาณซึ่งยังไม่ใช่ในปี 2569


และเมื่อถามถึงกฎกระทรวงว่าตามหลักแล้วทำได้หรือไม่ บอกว่า ตามกฎกระทรวง ปี 2563 มีมาก่อนแล้วเรื่องคุมขังนอกเรือนจำ และยังมีการออกระเบียบเมื่อปี 2566 และออกประกาศ ปี 2568 แต่ความเป็นจริงแล้วยังไม่เคยมีใครได้ออกไปคุมขังนอกเรือนจำ เพราะติดปัญหา อย่างที่ ป.ป.ช.บอกถึงรูปแบบความชัดเจนในการกำหนดต่างๆ รวมถึงเรื่องกำไล EM ด้วย


และเมื่อถามน้ำไปว่าส่วน นายทักษิณจะเข้าข่ายคุมขังนอกเรือนจำหรือไม่ พันตำรวจโท เชน ยืนยันว่า ยังไม่ใช้กับนายทักษิณแน่นอนถึงระเบียบดังกล่าว


ส่วนเรื่องการพักการลงโทษ ก็มีในกฎกระทรวงรองรับ และมีหลักการคือต้องโทษ 2ใน3 แต่ถ้าอายุเกิน 70 มีอาการเจ็บป่วย อยู่ 1ใน3 ก็พักการลงโทษได้ ซึ่งเราก็ใช่มากับนักโทษหลายคนมานานแล้ว


ส่วนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ พันตำรวจโท เชนบอกว่า นักโทษทุกคนที่เข้าเกรณฑ์ สามารถใช่ได้หมด เพราะเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล


ขณะที่ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ เปิดเผยย้ำว่า ตนเองจะเดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณ ในช่วงเช้าวันจันทร์ ที่ 15 กันยายน และตนเองยังไม่ได้รับแจ้งว่าครอบครัวของนายทักษิณจะไปด้วยหรือไม่


ขณะที่เมื่อเวลา 14.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางออกจากที่ทำการพรรคเพื่อไทย โดยสื่อมวลชนพยายามสอบว่า วันจันทร์นี้จะไปเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรือนจำคลองเปรมเลยหรือไม่ หลังกักโรคครบ 5 วัน ว่า เยี่ยมได้เมื่อไหร่ก็จะไปเยี่ยม


ส่วนที่มีรายงานว่าเมื่อคืนนี้นายทักษิณความดันสูง นางสาวแพทองธาร พยักหน้ารับ ก่อนจะระบุว่า ไม่ทราบเลย


เมื่อถามย้ำว่าตอนนี้เป็นห่วงอะไรนายทักษิณหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ยิ้ม แต่ไม่ตอบคำถามก่อนจะเดินทางออกจากพรรคทันที