เลือกตั้งและการเมือง

กกต. ยันพร้อมจัดออกเสียงประชามติ หลังพรรคการเมืองส่งสัญญาณจะทำครั้งแรกปลาย ม.ค. 69

12 ก.ย. 2568

26 views

วันนี้ (12 ก.ย. 2568) นายวรพงศ์ อนันต์เจริญกิจ ผอ.สำนักสนับสนุนการเลือกตั้ง สำนักงาน กกต. กล่าวถึงการทำประชามติทั้ง 3 ครั้ง ว่า เป็นจุดหลักที่ทำให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปเสนอแก้กฎหมาย คือ พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติในกระบวนการเพิ่มเติม หากวันออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปหรือเลือกตั้งท้องถิ่น สามารถกำหนดเป็นวันเดียวกันได้ พร้อมบอกว่าการทำประชามติทั้ง 3 ครั้งต้องใช้งบประมาณสูง แต่พอกำหนดให้ใช้ร่วมกันงบประมาณก็ต้องเพิ่มขึ้นจากเดิม


ซึ่งในกระบวนการออกเสียงประชามติ เป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นกระบวนการที่อยู่ในมาตรา 9 พ.ร.บ.ประชามติ ที่จะเริ่มตั้งแต่ที่สภาให้ความเห็นชอบในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ และประธานสภาจะส่งเรื่องให้นายกรัฐมนตรีทราบ โดยต้องพิจารณากำหนดให้ออกเสียงประชามติ การกำหนดนั้นตามที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. บอกไว้ว่าต้องมี กรอบเวลาจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งต้องให้เร็วกว่า 90 วัน และไม่ช้ากว่า 120 วัน ในการทำประชามติ แต่หากเป็นการออกเสียงการเลือกตั้งทั่วไปก็จะยืดเวลาอาจจะไม่เร็วกว่า 60 วัน และไม่ช้ากว่า 150 วัน ซึ่งเป็นเฉพาะกรณีที่ทำประชามติพร้อมการเลือกตั้งทั่วไป


ซึ่งกระบวนการออกเสียงประชามติจะเริ่มก่อน แปลว่าหากกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ก็ต้องมีการเตรียมวันยุบสภาไว้ล่วงหน้า ว่าต้องภายในกี่เดือน เพื่อให้กระบวนการต่อท้ายนั้นชนกันได้ แต่กระบวนการประชามตินั้นถ้าเอากระบวนการเต็ม 120 วันช่วงแรก จะเป็นในเรื่องของการเผยแพร่สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ กกต.ต้องทำและจัดให้มีการออกเสียงประชามติ


โดยในการแก้ไขเพิ่มเติมก็มีหน้าที่ในการเผยแพร่ทั้งร่างรัฐธรรมนูญและสาระสำคัญ คือต้องประกาศเป็นราชกิจจานุเบกษาภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งจากประธานรัฐสภาและต้องทำเอกสารเผยแพร่ส่งไปยังชาวบ้านก่อนวันออกเสียง อีกเรื่องหนึ่งคือการที่กำหนดให้ กกต. มีหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงประชามติด้วย ซึ่งกกต.ต้องทำหน้าที่เผยแพร่ขั้นตอนการออกเสียงทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนได้เข้าใจว่าการออกเสียงประชามติมีขั้นตอนกระบวนการอย่างไร ซึ่งการออกเสียงประชามติตามรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 แตกต่างจากที่ผ่านมา เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้การออกเสียงเป็นหน้าที่ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงก็ต้องหน้าที่ไปออกเสียงทุกคน


ส่วนประเด็นต่อมาในการออกเสียงประชามติที่ผ่านมาทั้ง 2 ครั้งจัดภายในประเทศโดยไม่มีการลงคะแนนเสียงนอกราชอาณาจักร แต่ตาม พรบ.ฉบับใหม่ที่ระบุว่าเป็นหน้าที่ ซึ่งต้องจัดให้มีการออกเสียงนอกราชอาณาจักรด้วยนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จะเกิดขึ้นโดยเป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นและต้องขอให้สื่อมวลชนได้สื่อสารให้ประชาชน ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงได้เข้าใจว่าไม่เหมือนในอดีต


ส่วนอีกเรื่องคือการจัดให้มีแสดงความคิดเห็นที่หากมีฝ่ายที่เห็นชอบและไม่เห็นชอบนั้นเป็นโจทก์ที่เป็นหน้าที่ของ กกต. เพื่อรองรับกฎหมายที่มีการแก้ไขใหม่ ซึ่งหากดูแล้วก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการจัดเวทีดีเบต และต้องกระจายให้ทั่วพื้นที่ รวมทั้งกฎหมายใหม่ที่ระบุเรื่องเกณฑ์ออกเสียงว่าใช้เกณฑ์จังหวัดเป็นเกณฑ์ออกเสียง แต่ในกฎหมายใหม่นั้นให้ใช้เกณฑ์ประเทศเขตจังหวัด เขตอำเภอเป็นเขตออกเสียงได้ หากในอนาคตมีประเด็นที่ต้องทำประชามติในท้องถิ่นในถิ่นหนึ่งก็สามารถดำเนินการได้เช่นเดียวกัน โดยอันนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นตามร่างของฉบับใหม่


เมื่อถามว่าการแก้ไขประชามติเปิดให้ทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นอยู่ในมาตราไหน การแก้ไขก็ต้องเข้ากระบวนการตามปกติก่อนใช่หรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างตามกฎหมาย ซึ่งผ่านสภาไปแล้วทางฝ่ายการเมืองก็ให้ข่าวว่าผ่านสภาไปแล้ว เราต้องมาคุยกัน แต่ทาง กกต. ก็ต้องร่าง Hrabec กันจัดการออกเสียงนั้นปกติจะเป็นอย่างไร จัดพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งวิธีการจะแตกต่างกันและยกตัวอย่างว่ากฎหมายกำหนดให้แต่ละเขต แต่ละในกรณีจัดการเลือกตั้งพร้อมกับการเลือกตั้งทั่วไปก็จะพิจารณาในเกณฑ์ส.ส. ว่าเกี่ยวกับเขตหรือไม่ เพื่อให้เร็วในการบริหารจัดการและใช้บุคลากรกลุ่มเดียวกันใช้ที่ออกเสียงที่เดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการออกแบบกระบวนการอยู่


และคาดว่าจะมีความชัดเจนจะได้ทำความเข้าใจและชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบ รวมไปถึงกระบวนการออกเสียงซึ่งอาจจะมีสองประเด็นในบัตรใบเดียวนั้นซึ่งเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนก็เป็นโจทย์ของ กกต. ที่จะต้องวางกระบวนการโดยเฉพาะขั้นตอนลงคะแนนในพื้นที่เลือกตั้งในที่เดียวกันจะทำอย่างไรไม่ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเกิดความสับสนซึ่งจะเป็นปัญหาเรื่องบัตรเสียหรืออะไรก็ตาม


อีกประเด็นคือเรื่องการออกเสียงนอกเขตในการเลือกตั้ง สส. เรากำหนดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์เพื่อจัดส่งบัตรไปยังนอกเขตได้แต่ผลการออกเสียงนอกเขตนั้นกำหนดให้ลงคะแนนในวันออกเสียงวันเดียวกัน โดยสิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่เป็นโจทย์และเป็นประเด็นในการสื่อสารทำความเข้าใจให้กับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ถึงแม้ว่าเราจะกำหนดให้ที่ออกเสียงหรือที่เลือกตั้งที่เดียวกันแล้วแต่การเลือกตั้งนอกเขตการเลือกตั้งล่วงหน้าก่อนการออกเสียงนอกเขตต้องมาดำเนินการภายในวันเดียวกับวันออกเสียง อันนี้ก็เป็นอีกโจทย์ที่ต้องหาแนวทางว่าจะสื่อสารอย่างไรตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน ขั้นตอนการลงคะแนนเพื่อให้ประชาชนเข้าใจ


ถามว่ากรณีการจัดทำคำถามพร้อมกันสองคำถามและผูกพันถึงผลของคำถามที่สองและมีการยกร่างแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่โดยหากเสียงข้างมากไม่คำถามที่สองก็จะไม่มีความหมายทันที ซึ่งหากลงคะแนนพร้อมกัน กกต. จะต้องประกาศผลของการออกเสียงคำถามข้อที่สองหรือไม่ นายวรพงศ์ กล่าวว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นซึ่งต้องนำไปศึกษาก่อนว่าจะกำหนดแนวทางเรื่องนี้อย่างไรเพราะในขั้นตอนกระบวนการก็ต้องมีการหารือร่วมกับคณะรัฐมนตรีและทางสภาจะเป็นผู้กำหนดทิศทางก็เป็นข้อสังเกตที่ต้องมาดูกัน


ส่วนจะใช้งบกลางหรืองบอะไรนั้น เนื่องจากการเลือก สส.เป็นเหตุที่ไม่สามารถคำนวณได้ล่วงหน้า เราไม่สามารถตั้งงบประมาณเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ ซึ่งทุกครั้งจะใช้วิธีการของบกลางไปถึงคณะรัฐมนตรีรวมทั้งการทำประชามติในชั้นนี้ทาง กกต.อยู่ในระหว่างการของบประมาณซึ่งเรามีกฎหมายและระเบียบกับการออกเสียงประชามติเพิ่มเติมที่จะจัดควบคู่กันว่าจะนำมาประกอบร่างอย่างไรอันไหนที่ใช้งบประมาณร่วมกันได้หรืออันไหนที่ต้องเพิ่ม


แต่นอกจาก กกต.แล้วก็ยังมีหน่วยงานต่าง ๆ ที่จะต้องเข้ามาร่วมในการช่วยทั้ง 2 ภารกิจ คือสำนักการปกครอง ที่ช่วยในเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ใช้สิทธิ์ออกเสียงต่างๆ มีหน้าที่ที่เกี่ยวกับการประกาศหน่วยการเลือกตั้ง การจัดทำรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ซึ่ง กกต. ต้องรอความชัดเจนของตัวกฎหมายและรอความเข้าใจ


อย่างกระทรวงการต่างประเทศต้องรับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร ซึ่งมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน การเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรจะมีการส่งกลับนับคะแนนในประเทศ หรือการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่กฎหมายกำหนดให้นับคะแนนที่สถานทูตเลย ต้องมีการซักซ้อมทั้งความเข้าใจและให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งขอความร่วมมือไป รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีการดูแลการเลือกตั้ง หรือไปรษณีย์ไทยที่มีการส่งวัสดุอุปกรณ์การเลือกตั้งบัตรเลือกตั้ง ซึ่งต้องมีการชี้แจงความเข้าใจอย่างเข้าใจในภาพรวมกระบวนการเพื่อสามารถครอบคลุมได้ทุกภารกิจ


ในเรื่องถัดมาคือปัญหาอุปสรรคจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ซึ่งมีเสียงสะท้อนจากผู้ปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ที่ต้องออกเดินทางมาตั้งแต่เช้า หน่วยเลือกตั้งตั้งแต่ตีสี่ตีห้า ดำเนินการนับคะแนนเสร็จจนถึงเวลาส่งที่หน่วยก็ใช้เวลานาน


ขณะที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 3 พรรคการเมืองหลักมีการประชุม และมีมติว่าจะต้องเร่งส่งร่าง แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำประชามติครั้งแรกทันภายในปลายเดือนมกราคม ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ไปร่วมด้วย ว่าในเบื้องต้นได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ที่ไปร่วมประชุมกับพรรคการเมืองแล้ว ก็ได้ชี้แจงไปว่าสำนักงานมีความพร้อม ไม่ได้ติดขัดอะไร


เมื่อถามว่า กกต. พร้อมจะจัดการเลือกตั้ง สส. หากมีการยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงหรือไม่ นายแสว กล่าวว่า ต้องไปดูแผนประชามติการเมืองของทางฝ่ายการเมืองว่าตกลงกันอย่างไรก่อน เรายังไม่เห็นแผนของเขา จึงยังพูดไม่ได้ ว่ามันคืออะไร แต่โดยหลักกฎหมายรัฐบาลจะต้องมาปรึกษาหารือ กับ กกต.ก่อน แล้วนายกรัฐมนตรีจึงจะเป็นผู้ประกาศวัน แต่ตอนนี้ยังไม่เห็นอะไรเลย แล้วจะให้พูดไปก่อนคงไม่ได้ แต่ถ้าในเรื่องของความพร้อม เราก็บอกว่าเราพร้อม


ถามว่าต้องกำหนดวันยุบสภาไว้ก่อนหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ตอบแทนคนอื่นไม่ได้ แต่ถ้าเป็นส่วนของเรา ๆ พร้อม

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ