เลือกตั้งและการเมือง

“กัณวีร์” ลั่นขอใช้ 1 เสียง เลือกโหวต “อนุทิน” ชี้เพื่อไทยหมดความชอบธรรมแล้ว

29 ส.ค. 2568

439 views

วันที่ 29 ส.ค.2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อพรรคกล้าธรรม โพสต์เฟซบุ๊กถึงการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กรณีคลิปเสียงคุยฮุน เซน โดยระบุว่า “1 เสียงของผม ที่ดูไม่มีอิทธิพลใดๆ กับการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย จะขอเลือกผู้ที่สามารถให้คำมั่นได้ใน 2 เรื่อง

คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามการประเมินและคาดการณ์ ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตรผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากรณีที่เป็นปฐมบทการเผชิญหน้าและการปะทะด้วยกำลังทหารระหว่างไทย-กัมพูชา จนทำให้มีการสูญเสียทั้งชีวิต บาดเจ็บ ทรัพย์สินพังทลาย การผลัดถิ่น และบาดแผลทางจิตใจของพี่น้องทั้งสองประเทศ

จบไปหนึ่งเรื่อง แต่สิ่งสำคัญเร่งด่วนเฉพาะหน้าของไทย คือ การเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ที่จะมาจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ เป็นไปตามความเป็นจริงทางการเมืองไทย คือ ความพยายามรวมเสียงให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ให้เกินกึ่งหนึ่งไปหลายๆ เสียงเพื่อให้เกิดเสถียรภาพในการบริหารจัดการต่อไป

ที่เห็นๆ ว่ามีความเป็นไปได้มากที่สุดคือ พรรคเพื่อไทย และภูมิใจไทย แคนดิเดต มีทั้ง 2 พรรค ศักยภาพในการรวมเสียงมีทั้ง 2 พรรค ซึ่งก็คงเป็นการต่อสู้ช่วงชิงจำนวน สส.ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้โดยเร็ว

สำหรับผม คนเดียว เสียงเดียว พรรคเดียว คงไม่มีพลังจะไปมีอิทธิพลอะไรกับใคร แต่ขอใช้พื้นที่ตรงนี้เน้นย้ำจุดยืนทางการเมืองที่ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่วันแรกที่ได้เป็น สส. ว่าการเมืองต้องตรงไปตรงมา ไม่บิดไม่เบี้ยว เพราะหากเป็นนักการเมืองแล้วบิดไปเบี้ยวมา อย่ามาเป็นเลยครับผู้รับใช้ประชาชน !!

สำหรับผม พรรคเพื่อไทยหมดความชอบธรรมในการเป็นผู้นำในการบริหารจัดการประเทศเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะนโยบายที่ล้มเหลว อาทิ ดิจิทัลวอลเลท ความพยายามผลักดัน entertainment complex การแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ สแกมเมอร์ ค้ามนุษย์ที่ผิดพลาด การจัดการปัญหาชายแดนที่ไร้ประสิทธิภาพทำให้ไทยต้องสุ่มเสี่ยงจากผลกระทบต่อผลประโยชน์แห่งชาติ โดยเฉพาะเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชา และนโยบายแบะงานการต่างประเทศ (การทูต) ที่แย่ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา

ดังนั้น 1 เสียงอันน้อยนิดของผม จะมอบให้กับผู้ที่จะถูกเสนอรายชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ที่สามารถยึดมั่นในการจัดการเรื่องสำคัญเร่งด่วน 2 เรื่อง

เรื่องแรก จุดยืนเดียวกับพรรคประชาชน คือเรื่องที่ต้องยืนยันในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็ว โดยการออกเสียงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2560 และมีสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง และต้องยุบสภาในเวลาอันชอบโดยเร่งด่วน และมอบอำนาจกลับไปให้พี่น้องประชาชนเพื่อเลือกคนที่จะมารับใช้ประเทศนี้โดยเร็ว

เรื่องที่สอง คือ คนที่สามารถมีวิสัยทัศน์ เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีแผนระยะเฉพาะหน้า กลางและยาว และคนที่สามารถสถาปนาจุดยืนทางการทูตเชิงรุกของไทยที่จะนำมาซึ่งการแก้ไขปัญหาแบบยั่งยืน และเรียกศรัทธาของพี่น้องประชาชนคนไทยกลับคืนมาได้อย่างชอบธรรม และให้สามารถทำให้ประชาคมโลกเชื่อมั่นกับจุดยืนทางการทูตของไทยที่จะมุ่งหวังไปสู่สันติภาพและการพัฒนาแบบยั่งยืนของทั้งสองประเทศและของภูมิภาคที่ไทยพร้อมแสดงบทบาทการเป็นผู้นำ คนที่จะไม่ทำให้บาดแผลที่มีอยู่ขยายกว้างขึ้นไปอีกระหว่างไทยและกัมพูชา ด้วยการกระทำหรือการไม่กระทำใดๆ เหมือนรัฐบาลของแพทองธาร ชินวัตร ที่ผ่านมา

เสียง 1 เดียวที่ไม่ค่อยมีผลอะไรมากนักกับการจะเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย แต่เป็นเสียงที่มั่นคงทางการเมือง จะยกให้กับผู้ที่สามารถเสนอทางออกให้กับเรื่อง 2 เรื่องนี้ครับ

เพิ่มเติมนิดนะครับ ตอนให้สัมภาษณ์รายการ คนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 8 และน้องๆ นักข่าวถามกันมาว่าถ้าจะให้เลือกระหว่าง คุณชัยเกษม กับ คุณอนุทิน พี่นลจะโหวตให้ใครเป็นนายกฯ ผมตอบไปว่า คงเป็นคุณอนุทินครับ เพราะพรรคเพื่อไทย สำหรับผมหมดความชอบธรรม ไปแล้ว !!

สู้ครับประเทศไทย !!”

คุณอาจสนใจ

Related News