เลือกตั้งและการเมือง

ทบ. แจงพื้นที่ "บ้านหนองจาน" อยู่ในเขตไทย เผยฝ่ายไทยประท้วงต่อเนื่อง แต่กัมพูชานิ่งเฉย

18 ส.ค. 2568

244 views

พลตรีวินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวถึงกรณีที่มีชาวกัมพูชา ได้ออกมาร้องเรียนเรื่องการวางรั้วลวดหนามของทหารไทย บริเวณบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว โดยกล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินแดนของตนนั้น

พลตรี วินธัย เปิดเผยว่า แท้จริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวเป็นอาณาเขตของประเทศไทย ซึ่งอยู่บริเวณ บ.หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รอยต่อแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่างหลักเขตแดนที่ 46 และ 47 โดยบริเวณดังกล่าวมีประเด็นปัญหา แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่

1. เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ ที่ฝ่ายไทยและกัมพูชา ไม่สามารถตกลงที่ตั้งหลักเขตแดนได้ เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าตำแหน่งหลักเขตที่ปรากฏในปัจจุบัน มีการเคลื่อนย้ายเข้าไปในฝั่งประเทศของตน จึงต้องรออาศัยกลไกทวิภาคี อาทิ JBC มาแก้ไขปัญหาในระยะยาว

2. พื้นที่ดังกล่าว ในอดีตเมื่อครั้งเกิดสงครามการสู้รบภายในกัมพูชาในปี พ.ศ.2520 รัฐบาลไทยในขณะนั้นได้ให้ราษฎรกัมพูชาอพยพลี้ภัยเข้ามาอยู่ในเขตประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อแสดงถึงความมีน้ำใจและเห็นแก่หลักมนุษยชน แต่เมื่อสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ พบว่ามีราษฎรกัมพูชาบางส่วนไม่ยอมเดินทางกลับประเทศ ยังคงพักอาศัยในพื้นที่ของประเทศไทย

3. การติดตั้งแนวรั้วลวดหนามในบริเวณพื้นที่ต่างๆ ยังไม่ใช่การวางเพื่อระบุแนวเส้นเขตแดน เป็นเพียงการวางแนวเครื่องกีดขวางในการรักษาความปลอดภัยให้กำลังพล โดยเฉพาะป้องกันการลักลอบเข้ามาใช้อาวุธทุ่นระเบิดเพื่อทำร้ายฝ่ายไทย และเป็นลักษณะเสริมความมั่นคง ต่อที่วางกำลังของหน่วยทหารเท่านั้น

นอกจากนี้ยังพบว่า ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยการสนับสนุนให้ราษฎรมาสร้างถิ่นฐานอย่างถาวร ทั้งในบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ และนอกบริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์ในฝั่งประเทศไทย ซึ่งกองทัพบก โดยกองกำลังบูรพา ได้ดำเนินการประท้วงร้องเรียนฝ่ายกัมพูชาในเวทีต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระดับหน่วยทหารในพื้นที่ และผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน แต่ฝ่ายกัมพูชากลับนิ่งเฉย ไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด หรือแก้ไขใดๆ จึงยืนยันได้ว่าฝ่ายไทยได้ใช้การแก้ปัญหาโดยสันติวิธีมาตลอด

โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า สำหรับปัญหา ณ ปัจจุบัน ฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ พยายามจะใช้ประชาชนให้เป็นผู้ออกหน้าในการรุกล้ำพื้นที่อธิปไตยประเทศไทยในบริเวณดังกล่าว ทั้งนี้ อาจเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับฝ่ายทหารโดยตรง ทำให้เข้าใจได้ว่า การกระทำดังกล่าวเหมือนมีการวางแผนมาอย่างเป็นระบบ และคอยเฝ้าดูว่า หากฝ่ายไทยดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดไป ก็จะนำเรื่องดังกล่าวไปบิดเบือนทำลายความน่าเชื่อถือประเทศไทย เพื่อขอความเห็นใจสังคมโลกอย่างที่เป็นภาพให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน จึงอยากให้ช่วยกันสื่อสารต่อประชาคมโลก ให้เข้าใจในข้อเท็จจริงว่า การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมของไทย รวมถึงการแสดงออกถึงความมีน้ำใจที่ดีต่อเพื่อนบ้านในอดีต ไม่ควรถูกฝ่ายกัมพูชานำไปบิดเบือน เพื่อให้เป็นผลกลับมาใช้ทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายไทยอย่างไม่เป็นธรรม

คุณอาจสนใจ

Related News