เลือกตั้งและการเมือง
"ภูมิธรรม" ย้ำจุดยืนต้องเห็นความจริงใจ "กัมพูชา" หยุดยิง ขอคุย 2 ประเทศก่อน ไม่ต้องการประเทศที่ 3 แทรก
27 ก.ค. 2568
81 views
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่จังหวัดตราด ถึงการหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ยื่นข้อเสนอให้ไทยและกัมพูชา หยุดยิงโดยอ้างมาตรการทางภาษี ว่า หลังจากได้รับการประสานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะคุยด้วย ตนได้มีการเชิญให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ , รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ,รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าฟัง และได้มีการสอบถามทางกองทัพบกไปด้วย การหารือครั้งนี้จึงเป็นการหารือบนพื้นฐานของการทำงานร่วมกันของทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยสิ่งที่ได้คุยกันทั้งหมด ไม่ได้มีเพียงสหรัฐอเมริกา เพราะก่อนหน้านี้มีจีน และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนได้โทรหาตน โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ ได้มีการพูดคุยในลักษณะเดียวกัน คืออยากเห็นสันติภาพเกิดขึ้น เพราะเป็นห่วงพลเรือน และห่วงการสูญเสีย
สำหรับการพูดคุย เราได้เริ่มตนเล่าให้ฟังว่าที่ผ่านมาเรายืนยันในหลักสันติภาพและการเจรจาเพื่อขอให้แยกออกจากกันมาตลอด การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อยากเห็นการหยุดยิง และสันติภาพ ตนก็ยืนยันว่าเราทำมาตลอด แต่สิ่งที่สำคัญก็ได้เล่าต่อว่ามีการยิงเข้ามาพื้นที่พลเรือน โดยไร้เป้าหมายทางทหาร ส่วนเรามีการตอบโต้ไปในฐานเป้าหมายทางทหารและปืนยุทธวิถีจรวดที่เป็นฐานที่ยิงเข้ามาทำลายประชาชน รวมทั้งมีการรายงานว่าพลเรือนไทยมีการเสียชีวิตประมาณ 15 คน และบาดเจ็บกว่า 50 คน และมีการอพยพกว่า 130,000 คน ซึ่งในฐานะผู้พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ได้มีการสั่งผู้ว่าราชการจังหวัดอพยพในทุกจุด
ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ เห็นว่าสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น เป็นความรุนแรงที่เขาไม่ประสงค์อยากจะเห็น ซึ่งเราก็เห็นตรงกัน แต่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ให้ความเห็นว่าหากยังไม่หยุดยิงก็ไม่สามารถเจรจาทำการค้ากับทั้งสองประเทศได้ ซึ่งตนได้ยืนยันว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นไปตามหลักการอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่า เงื่อนไขของเราคือต้องการให้เขมรสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนไทย ไม่ใช่การว่ายอมหรือไม่ยอม แต่เรายึดถือประชาชนเป็นหลัก ซึ่งการพูดคุยเป็นไปด้วยดีและหลังจากนี้ก็จะรับเงื่อนไขไปเจรจากับกัมพูชาต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ระบุว่าเงื่อนไขของเราขณะนี้ ไม่ได้ต้องการให้ประเทศที่ 3 เข้ามาแทรกแซง แต่ขอบคุณที่ห่วงใย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ต้องไปพูดคุยเงื่อนไข ให้จบว่าจะมีมาตรการอย่างไรในการที่จะหยุดยิงและถอยกำลังทหารออกรวมไปถึงยุทโธปกรณ์วิถีไกล
ส่วนจะมีการพูดคุยกับกัมพูชาเมื่อไหร่นั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า หากวันนี้นัดได้ ก็จะมีการพูดคุยในช่วงประมาณเที่ยง แต่ช่วงเช้าวันนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะลงพื้นที่ร่วมกับตนไปที่จังหวัดตราด ซึ่งเป็นจุดที่เปิดยุทธการใหม่ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเรา จะคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ให้จบก่อน
นายภูมิธรรม ขอให้ประชาชนคลายกังวล โดยทราบดีว่าเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบาก และประชาชนได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นจากการกระทำของกัมพูชา ที่เราได้ประณามไปแล้วว่าเป็นอาชญากรรมระหว่างประเทศ ที่มีการทำร้ายพลเรือนซึ่งผิดข้อกฎหมายระหว่างประเทศทั้งหมด พร้อมย้ำว่า ชีวิตของคนชายแดนคือสิ่งที่รัฐบาลคำนึงถึงมาโดยตลอด
นายภูมิธรรม ยังเน้นย้ำโซเชียลให้ระมัดระวังอย่างยิ่ง เรื่องการเผยแพร่ภาพ โดยเฉพาะปัญหายุทธการด้านกองทัพและไม่เป็นประโยชน์ต่อเรา จึงต้องขอความระมัดระวังอย่างยิ่ง เพื่อประโยชน์ของประเทศ และความปลอดภัยของทหารแนวหน้า เพราะหากเขายิ่งรู้การมุ่งเป้าทำลาย ฐานทหาร ซึ่งเสี่ยงกับชีวิตทหาร
วันนี้ต้องยอมรับว่า เป็นเรื่องโกลาหล ในขณะที่เรา ก็ได้เตรียมการบ้างแล้ว ซึ่งเราก็พยายามแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดได้มีการปรึกษาหารือทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและได้ให้อำนาจกับทหาร เป็นแนวหน้าให้สามารถดำเนินการได้ อย่างกรณีที่จังหวัดจันทบุรีและตราด ที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งทางผู้บัญชาการทหารบกได้หารือมาและเราก็เห็นชอบและอนุมัติ จึงอยากให้ทุกฝ่ายมั่นใจและเชื่อมั่นว่าทั้งหมดมีการทำงานประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและคำนึงถึงสิทธิประโยชน์คำนึงถึงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทุกคนและทหารแนวหน้าทั้งหมด
เมื่อถามต่อว่าหากการเจรจายังไม่ลงตัว จะยังไม่มีสัญญาณหยุดยิงใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทหารของเราจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่จนกว่ารัฐบาลจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนว่าเป็นภัยต่อพี่น้องประชาชนและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ เพื่อนำไปสู่สันติภาพ โดยขณะนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำงานประสานกับทุกส่วน โดยทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าอยากให้ปัญหายุติ
ส่วนความไว้ใจต่อกัมพูชานั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนได้ยืนยันต่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไปแล้ว ต้องทำให้เรามั่นใจ ว่าสิ่งที่ทำจะไม่มีการบิด เพราะฉะนั้นการเจรจา หยุดยิงพร้อมกับการเคลื่อนย้ายกำลังทหารและอาวุธร้ายแรงออกจากพื้นที่เดิม ขณะนี้จะเป็นหลักประกันที่แสดงถึงความจริงใจว่าอยากหยุดยิง เพราะเราเคยประกาศมานานแล้วเรื่องการหยุดยิง แต่กัมพูชาเพิ่งประกาศว่าอยากหยุดยิง แต่พูดเสมอว่าเราเป็นฝ่ายรุกราน แต่อย่างไรก็ตามการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้คุยกับนานาประเทศ รวมถึงสื่อต่างประเทศ ก็ค่อนข้างเสนออย่างชัดเจนแล้วว่า ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายรุกรานก่อน เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินประชาชน ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
ส่วนเรื่องภาษี ที่สหรัฐฯ จะประกาศใช้วันที่ 1 สิงหาคมนี้ หลังจากที่ได้พูดคุยกันแล้วเมื่อวาน ได้ข้อสรุปอย่างไรต่อ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่มีปัญหา เมื่อเริ่มหยุดยิงเมื่อไหร่ ก็จะแจ้งให้ทราบ เรื่องภาษีนั้นใช้กับทั้ง 2 ประเทศ เมื่อวานเขา(สหรัฐ) ก็ได้พูดว่าตรงนี้ไม่ต้องห่วง และเชื่อว่าการหยุดยิงเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกและเห็นว่าจะช่วยปกป้องพลเรือนได้ เราก็บอกฝากเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน และตนก็บอกไปอีกว่า เป็นฝ่ายที่ยืนยันตรงนี้มาตลอด พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนต่อนานาชาติว่าเราเป็นฝ่ายรักสันติ สิ่งที่เราทำคือการปกป้องอธิปไตยของเรา ที่ต้องการปกป้องชีวิตและพลเรือนของไทย สิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่เราก็พร้อมเจรจา และเราก็ขอให้เขาดูสิ่งที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศ
เมื่อถามว่าถ้าคุยกันรู้เรื่องน่าจะทันวันที่ 1 สิงหาคมนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่สามารถพูดได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะอยู่ที่ฝ่ายกัมพูชา รัฐบาลกัมพูชาได้แสดงให้เรามั่นใจว่า ต้องการหยุดยิงจริงๆ สำหรับเรานั้นพร้อมเจรจาอยู่ตลอดภายใต้เงื่อนไข เมื่อหากเราพูดคุยกันเสร็จ เราก็ต้องปรึกษาหารือกับกองทัพอีก เพราะขณะนี้ สิ่งที่กัมพูชาเปิดแนวรบตลอด 800 กม. ตั้งแต่ที่ช่องบก ลงมาจนถึง จ.ตราด ก็คือตลอดแนวชายแดนทั้งหมดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ถึงแม้จะหยุดยิง หรือประกาศอย่างไร ก็จะต้องมีเงื่อนไขที่คุยกันในรายละเอียดว่า จะเคลื่อนออกอย่างไร
ส่วนแนวโน้มเรื่องภาษีสหรัฐนั้น นายภูมิธรรม มองว่า น่าจะไปในทิศทางบวก เพราะจากการที่ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯ พูดกับตนว่า แนวโน้มนี้สำหรับเรา 2 ประเทศ ตนก็บอกกับเขา บนพื้นฐานที่เราเป็นมิตรกับทุกประเทศ ซึ่งเราขอบคุณมาเลเซีย จีน และสหรัฐอเมริกาด้วย ที่ยื่นมือเข้ามาด้วยความห่วงใยชีวิตประชาชนพลเรือน ทั้งหมดก็ขอขอบคุณทุกส่วน และเขาได้เจรจากับเราอย่างไร ก็สามารถที่จะได้ทราบข้อเท็จจริงได้มากขึ้น และมีความห่วงใย เข้าใจเรา ขณะที่ในต่างประเทศจะเห็นได้ว่า การประชุมคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องนี้ ทุกคนก็ไม่ได้มีอะไรเพียงแต่ขอให้พูดคุยกัน ก็เข้าใจเรา โดยก็ต้องขอบคุณสหรัฐอเมริกาด้วยที่อยากให้เรื่องนี้ยุติลง และเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
แท็กที่เกี่ยวข้อง ภูมิธรรมเวชยชัย ,ชายแดนไทยกัมพูชา ,โดนัลด์ ทรัมป์