เลือกตั้งและการเมือง

‘กุสุมาลวตี’ ยื่นดีเอสไอ ดำเนินคดี ‘อนุทิน’ กับพวก ปมเอื้อประโยชน์ที่ดินเขากระโดง

3 ก.ค. 2568

102 views

กุสุมาลวตี อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา นำเอกสารภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศ-ข้อมูลการถือครองที่ดินตระกูลนักการเมืองใน จ.บุรีรัมย์ ให้ดีเอสไอพิจารณาแนวทางดำเนินคดี กรณีที่ดินรุกล้ำเขากระโดง 

วานนี้ (02 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษท(DSI) นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ร้องขอให้มีการตรวจสอบเรื่องที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ โดยมีพันตำรวจตรีวรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้แทนรับเรื่อง


นางกุสุมาลวตี เปิดเผยว่า ตนเองได้นําเอกสารหลักฐานมายื่นให้ดีเอสไอดําเนินคดีกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมพวก ประกอบด้วยปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน ตลอดจนคณะกรรมการสอบสวนที่เกี่ยวข้อง กรณีที่ดินเขากระโดง


ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นเรื่องที่กระทรวงมหาดไทย ซึ่งนายอนุทิน ในฐานะผู้กํากับดูแลได้กระทําผิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นกฎหมายที่ดิน ซึ่งตามมาตรา 60 ถ้าเป็นกรณีที่ดินของรัฐไม่สามารถออกโฉนดที่ดินให้เอกชนได้ แต่ด้วยเหตุใดนายอนุทินจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ซึ่งมีโฉนดจํานวนมากได้มอบให้ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว


หลังเกิดเหตุการณ์การฮั้ว สว. ตนเองได้เห็นความผิดมากมายไม่ว่าจะเป็นเขากระโดง รันเวย์เถื่อนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนได้รับโทษเพราะมีความผิดอย่างชัดเจนและต้องมีคนถูกจําคุก ซึ่งตนเองต้องการให้มีการยกเลิกคําสั่ง เพิกถอนสิทธิที่ได้มาโดยมิชอบ พร้อมให้ตรวจสอบการใช้อํานาจโดยมิชอบของผู้เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้แจ้งดําเนินคดีในความผิดฐาน "ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และมีอํานาจโดยการทุจริตเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นในการออกโฉนดที่ไม่ถูกต้อง"


โดยที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินพระราชทานให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย จํานวน 5,000 กับ 8 ไร่ ซึ่งควรเป็นที่ดินของคนไทยทุกคนโดยชอบธรรม แต่เหตุใดพรรคภูมิใจไทยซึ่งสมัยนั้นเป็นพรรคที่กํากับดูแลการรถไฟฯ แต่ สส. พรรคภูมิใจกลับไม่ออกมาปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนด้วยการไม่เห็นด้วยกับหัวหน้าพรรค และครูใหญ่ ทั้งที่เป็นผู้แทนราษฎรควรเห็นประโยชน์ของประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของพรรคและประโยชน์ส่วนตัว วันนี้จึงมาเรียกร้องให้ประชาชนเห็นถึงขบวนการร้ายแรงพอ ๆ กันกับคดีฮั้ว สว.


นางกุสุมาลวตี ยืนยันว่า ตนจะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะมันเลวร้ายเกินไป และมีคนเคยกล่าวว่า ”ปราชญ์เอาชนะได้ทั้งฟ้าดิน ยกเว้นคนหน้าด้าน“ เพราะข้อมูลที่หลั่งไหลออกมา ก็ยังมีการแสดงการไม่รับรู้ และยังใช้อำนาจที่มองไม่เห็น ทำร้ายแม้กระทั่งนายณฐพร โตประยูร และทุกคนที่เกี่ยวข้อง ตนจึงไม่กลัว เพราะเป็นคนมีความจริงใจและไม่มีแผลที่จะให้คุณทำร้ายได้ หากเด็ดหัวนายณฐพร แล้วจะเด็ดหัวตน มันอาจใช้ไม่ได้ และตนขอทวงคืนที่ดินเขากระโดงให้กับแผ่นดิน


หลังจากนี้จะเดินทางไปร้องเรียนที่กระทรวงคมนาคมซึ่งเป็นผู้กํากับดูแลการรถไฟฯ เนื่องจากก่อนหน้านี้กระทรวงคมนาคมเคยอยู่ใต้การกํากับดูแลของพรรคภูมิใจไทย


เมื่อถามว่ามองว่าในยุคสมัยนั้นน่าจะมีการเอื้อข้าราชการและข้าราชการฝ่ายการเมืองหรือไม่ นางกุสุมาลวตี ยอมรับว่า ใช่ เพราะในสมัยนั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้กำกับดูแล และได้มีการตั้งอธิบดีกรมที่ดินเป็นคณะกรรมการ มันก็เป็นสิ่งที่เขาจะทำได้ ด้วยความเป็นข้าราชการก็ต้องเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา แต่ตนเล็งเห็นว่าไม่น่ากระทำ เพราะศาลฎีกามีคำสั่งถึงที่สุดแล้วก็ต้องฟังศาล มิใช่มาตะแบง และหาช่องว่างช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อออกโฉนดเอกสารสิทธิ์เพื่อ “นายเนวิน ชิดชอบ” และพวกพ้องตนเอง


เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลใจหรือไม่ในการออกมาร้องทุกข์กล่าวโทษ และมีการพาดพิงไปยังบุคคลอื่น นางกุสุมาลวตี ระบุว่า ทุกเรื่องที่ร้องเรียนมาตนเองมีข้อมูล หลักฐานและเอกสารต่าง ๆ หากเป็นวิญญูชนก็จะรู้ว่ายังไงตนเองก็ชนะไม่ว่าจะไปร้องเรียนที่ไหนก็ตาม แต่ด้วยอํานาจและสิ่งที่มองไม่เห็นอาจจะทําให้คําร้องถูกยก และมีการฟ้องร้องกลับ ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนเองรู้ว่าจะต้องเกิดขึ้น


ยอมรับว่าเป็นห่วงตัวเองแต่คิดว่าการที่สู้เรื่องฮั้ว สว. และทราบถึงข้อมูลเรื่องที่ดินเขากระโดง และรันเวย์เถื่อน หากจะตายทีเดียวและประชาชนได้ประโยชน์ตนก็พร้อมสู้ เพราะถือว่าคุ้มค่าตายทีเดียวได้ถึง 3 เรื่อง




รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vpewc58ocQY

คุณอาจสนใจ

Related News