“ฮุน เซน” แฉ "ทักษิณ" ป่วยทิพย์ ลั่นนายกฯอิ๊งค์ หมิ่น มทภ. 2 เทียบเท่ากับดูหมิ่นสถาบัน

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (27 มิ.ย.) สมเด็จ ฮุน เซน ประธานรัฐสภากัมพูชา เริ่มไลฟ์สดระหว่างการประชุมสภาท้องถิ่น ที่จังหวัดพระวิหาร โดยย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดนโดยสันติวิธี ซึ่งรวมถึงการเจรจาทวิภาคีและกลไกทางกฎหมายระหว่างประเทศ


ฮุน เซน ได้ตั้งคำถามมายังไทยว่า ทำไมจึงไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ทั้ง ๆ ที่ไทยกล่าวหากัมพูชาในเรื่องนี้ ทำไมไทยจึงเลี่ยง การดำเนินคดีทางกฎหมาย ไทยไม่ควรกลัวในสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย-สมเด็จ ฮุน เซนยังเรียกร้องให้ประชาชนคนไทย ชาวกัมพูชา และประชาคมโลก ให้พิจารณาคำถามเหล่านี้อย่างรอบคอบ


นอกจากนี้ยังเน้นย้ำอีกว่า คำตัดสินของศาลจะให้ความชัดเจนและมีความเป็นกลางให้กับรัฐบาลทั้งสองชาติในการไปอธิบายคำตัดสินที่ออกมากับพลเมืองของตน


สมเด็จ ฮุน เซนยกตัวอย่างด้วยว่า หากกัมพูชาต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่พิพาท ประชาชนกัมพูชาก็อาจตำหนิรัฐบาลของตน ในทำนองเดียวกัน หากไทยต้องถอนกำลังออกจากพื้นที่ ประชาชนชาวไทยก็อาจวิพากษ์วิจารณ์ผู้นำไทย แต่ด้วยคำตัดสินของศาล ทั้งสองฝ่ายสามารถพูดได้ว่า นี่คือคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ


และยังบอกด้วยว่า จะให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาแก้ไขกฏหมายเพิกถอนสัญชาติกัมพูชากับผู้ที่พฤติกรรมร่วมมือกับชาวต่างชาติต่อต้านผลประโยชน์ของประเทศ


ในระหว่างที่ไลฟ์สดไปได้เกือบ 3 ชั่วโมง ฮุน เซน กล่าวถึงนางสาว แพทองธาร นายกรัฐมนตรีของไทยที่ต่อว่า แม่ทัพภาคที่สอง ในคลิปเสียงที่ถูกปล่อยมาในระหว่างที่คุยทางโทรศัพท์กับฮุน เซน ก็เท่ากับนายกฯแพทองธาร ดูหมิ่นสถาบัน


ซึ่งสื่อกัมพูชา Fresh News เผยว่า สมเด็จเตโชฮุนเซน กล่าวโจมตีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยว่า “ทรยศชาติ” จากการวิจารณ์แม่ทัพภาค 2 ซึ่งปรากฏในคลิปเสียงที่หลุดออกมา

โดยสมเด็จฯ ฮุน เซน กล่าวว่า นางสาวแพทองธารเป็นคนทรยศต่อชาติไทย เนื่องจากการโจมตีผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 อย่างรุนแรง การที่นายกรัฐมนตรีของประเทศหนึ่งพูดคุยกับชาวต่างชาติ และกลับมาโจมตีผู้บัญชาการทหารของตนเองเพื่อเอาใจชาวต่างชาติคนนั้น ถือเป็นการกระทำที่ทรยศต่อชาติ


“เพื่อเอาใจฮุน เซน ท่านนายกฯ ไทยถึงกับยอมด่าผู้บัญชาการทหารของตัวเอง เรื่องนี้ถือเป็นอาชญากรรมในประเทศไทยหรือไม่? แต่ในกัมพูชา นี่คืออาชญากรรมทรยศชาติ คือการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติเพื่อด่าผู้บัญชาการทหารของตัวเอง [...] ในประเทศไทย เรื่องนี้อาจถือเป็นเรื่องปกติ แต่กัมพูชาไม่อนุญาตให้ใครมาด่าทอและดูหมิ่นกองทัพของตนได้” สมเด็จฯ ฮุน เซนกล่าว



สมเด็จฯ ฮุน เซนยังกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาท่านไม่เคยพูดถึงผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ของไทยเลย เว้นแต่วันนี้ เหตุผลที่ท่านไม่เคยพูดถึงนายพลไทยท่านนี้ ก็เพราะท่านเข้าใจถึงพันธกิจของนายพลที่ต้องปกป้องประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นผู้บัญชาการกองทัพกัมพูชาหรือของประเทศใดก็ตามจะต้องมีจุดยืนที่ไม่อาจยอมก้มหัวให้ใครได้



สมเด็จฯ ฮุน เซนยังบอกอีกว่า ฝ่ายไทยได้แอบเปิดเผยข้อมูลมาว่า เมื่ออำนาจของนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร แข็งแกร่งขึ้น ผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 อาจถูกตัดสินจำคุก



ทั้งนี้ สมเด็จฯ ฮุน เซนย้ำว่า ท่านไม่เคยดูหมื่นหรือโจมตีผู้บัญชาการทหารไทยคนใดเลย และท่านรู้สึกประหลาดใจมากว่าเหตุใดนายกรัฐมนตรีไทยจึงกล้าดูหมิ่นผู้บัญชาการของตนเองเพื่อเอาใจท่าน ทั้งที่ท่านไม่ได้ต้องการรับรู้เรื่องกิจการภายในของไทยเลย


รวมทั้งยังพูดถึงกระบวนการแก็งคอลเซนเตอร์นั้นว่า กัมพูชาก็ตกเป็นเหยื่อ เพราะประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางขบวนการคอล เซนเตอร์ไปยังประเทศต่าง ๆ ทำให้นักต้นตุ๋นเข้ามาในกัมพูชา โดย Kampuchea Thmey Daily รายงานว่า สมเด็จเตโช ฮุนเซน ระบุ อาชญากรรมออนไลน์ในกัมพูชามีต้นตอมาจากประเทศไทย ซึ่งกัมพูชาเป็นเพียงประเทศที่ได้รับผลกระทบ จากขบวนการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากไทย


ผู้นำอาวุโสของกัมพูชายังชี้ว่า สนามบินนานาชาติของไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการบินที่ใหญ่ที่สุด มีเที่ยวบินเชื่อมต่อจากทั่วโลก ทำให้คนร้ายสามารถเดินทางเข้ามาดำเนินการอาชญากรรมได้อย่างสะดวก จึงขอเรียกร้องให้จีน , สหรัฐอเมริกา และประชาคมระหว่างประเทศ หันมาให้ความสนใจและร่วมกันแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง


นอกจากนี้ ยังพูดเรื่องความสามารถทางการทหารของกัมพูชาบอกว่า แม้กัมพูชาจะมีอาวุธที่ยิงมาถึงกรุงเทพได้ แต่กัมพูชาจะไม่ทำ กัมพูชาเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ต้องการป้องกันตนเอง และต่อต้านศัตรูที่รุกรานดินแดนของกัมพูชา

สุดท้าย สมเด็จฮุนเซน ยังบอกอีกว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยไม่ได้ป่วยจริง ตอนที่เดินทางมาเยี่ยมท่าน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 และสวมใส่อุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อถ่ายรูปเท่านั้น และยังระบุว่าความสัมพันธ์ที่ยาวนาน 30 ปีของท่านกับนายทักษิณต้องพังทลายลง เพราะถูกลูกสาวของทักษิณ คือ นางแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของไทย กล่าวดูหมิ่น