เลือกตั้งและการเมือง

"ภูมิธรรม" บอก​ แม่ทัพภาค 2 ชงปิดปราสาทตาเมือนธม เสนอ สมช.​ ได้ หากสถานการณ์​ไม่สู้ดี

24 มิ.ย. 2568

81 views

นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา ขึ้นมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม​ จังหวัดสุรินทร์ มากผิดปกติจนเป็นนัยสำคัญ​ ว่า​ อำนาจการพิจารณาปิดจุดท่องเที่ยวตาเมือนธม อยู่ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ​ หรือ​ สมช.​ ในขณะที่รัฐบาลก็กำกับดูแล เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นรัฐบาลรับรู้ทั้งหมด ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีในฐานะประธาน สมช. มอบอำนาจให้กองทัพ ในการพิจารณา มาตรการเปิด - ปิดด่าน ใน 4 ขั้นตอน เพราะมองว่าทหารอยู่ด่านหน้า สามารถพิจารณาสถานการณ์ได้ว่ามีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน

เมื่อถามว่าอำนาจในการตัดสินใจ ที่จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปบนปราสาทตาเมือนธม เป็นของทหารในพื้นที่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า เป็นไปตามปกติ เรายังไม่ได้มีการห้ามหรือไม่ห้าม และประสาทตาเมือนธมที่ผ่านมา ขึ้นมาได้ทั้งสองฝ่าย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และขณะนี้ยังไม่ได้มีเงื่อนไขอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยกเว้นแต่มีคำสั่ง ทางแม่ทัพภาคที่ 2 จะต้องเป็นผู้ตัดสินใจ และเชื่อว่าทางทหารจะสามารถดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ได้ แม้ปัจจุบันจะมีชาวกัมพูชา และไทย ขึ้นไปเที่ยวบนปราสาทตาเมือนธม​ เพราะเมื่อครบกำหนดเวลาเขาก็กลับไปตามปกติ แต่ทั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ความเป็นจริง ว่าควรจะปิดการท่องเที่ยวปิดการท่องเที่ยวไปก่อนหรือไม่ พร้อมทั้งทำเรื่องผ่านกองทัพบก มาอย่างรัฐบาลเพื่อที่จะนำเข้าที่ประชุม สมช.

เมื่อถามว่าสุดท้ายจะต้องให้สมช. และรัฐบาลเป็นผู้อนุมัติใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามขั้นตอน อำนาจอยู่ตรงนี้ก็ให้ไปดู หากจะทำเลยก็สามารถทำได้​

เมื่อถามว่าได้มีการประเมินสถานการณ์หรือไม่ ไปหลังมีการยกระดับมาตรการผ่านด่านเข้มข้นขึ้น และสถานการณ์ในพื้นที่มีความตึงเครียดมากน้อยเพียงใด นายภูมิธรรม ระบุว่า ประชาชนตามแนวชายแดน ไม่ถึงขนาดตึงเครียดจนหน้ากังวลใจ ซึ่งทางกระทรวงมหาดไทยได้ไปสำรวจหลุมหลบภัย ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว​ แต่สามารถกันอาวุธได้บางส่วน ไม่แน่ใจว่าหากเป็นอาวุธหนัก จะสามารถป้องกันได้หรือไม่ จึงได้เร่งให้ทางมหาดไทยไปจัดการ เพื่อเสริมความแข็งแรงของหลุมหลบภัยให้มากยิ่งขึ้น

ส่วนกรณีที่ทหารกัมพูชา มีการเพิ่มเติมกำลังและอาวุธหนักเข้าประชิดพื้นที่ชายแดนมีนัยอะไรหรือไม่​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า สำหรับในส่วนของกองทัพ เราเตรียมความพร้อมไว้ทุกเรื่องแล้ว และเชื่อว่ากำลังที่มีอยู่เพียงพอที่จะรับสถานการณ์

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสมชัย​ ศรีสุทธิยากร​ ออกมาระบุว่า นายภูมิธรรม​ เซ็นรับรองให้ทหารกัมพูชา​ เข้ามาอยู่ในปราสาทตาเหมือนธม ในการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป​ หรือ GBC ครั้งล่าสุด​ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ไปเซ็นอะไร ทุกอย่างทำตาม MOU 43​ ซึ่งขณะนี้ยังมีขั้นตอน การประชุมคณะกรรมการส่วนภูมิภาค ไทย​-กัมพูชา หรือ RBC​ ซึ่งทางกัมพูชา รอสมเด็จฮุนเซน​ ประธานวุฒิสภากัมพูชาอนุมัติ​ พร้อมกับขอนายสมชัย อย่าพูดอะไรบนพื้นฐานที่ไม่ได้อยู่บนข้อเท็จจริง

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ไทยเปิดด่านชายแดนก่อน แล้วกัมพูชาจะเปิดตามใน 5 ชั่วโมง แล้วจะกำลังค่อยหารือเรื่องการปรับกำลัง นายภูมิ​ธรรม​ ระบุว่า​ เรามีเงื่อนไขและข้อเสนอที่วางไว้ คือลดการเผชิญหน้า ตลอดแนวชายแดน ให้มีการปรับกำลังทั้งสองฝ่าย รวมถึงการเปิดด่านชายแดนทั้งหมด เพื่อให้เข้าสู่สภาวะปกติ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะต้องทำไปพร้อมกันทั้ง 2 ประเทศ โดยการกำหนดวัน​-เวลา ซึ่งทางฝั่งกัมพูชาบอกว่าอำนาจทุกอย่างอยู่ที่สมเด็จฮุนเซน เพียงคนเดียว ซึ่งก็ยอมรับว่าได้มีการเสนอเงื่อนไขตามนั้นจริง​ ซึ่งในส่วนของเรา บอกว่าเป็นไปไม่ได้จุดยืนของเรา ต้องดำเนินการคือให้มีการปรับกำลังก่อนเปิดด่านพร้อมกัน​

"จะมาบอกว่าคุณเปิดก่อน เราเปิดก่อนคงไม่ได้​ เพราะตอนนี้มันมั่วไปหมดแล้ว ก็ควรจะทำให้พร้อมกัน"

นายภูมิธรรม​ ย้ำว่า​ การที่ไทยจะทำอะไรนั้น ต้องคำนึงถึงสายตานานาประเทศด้วย เพราะเราเป็นประเทศที่ใหญ่กว่า เพื่อป้องกันข้อครหาว่าเรารุกรานเขา​ ในขณะเดียวกันเราก็ยังยืนอยู่ ในการประชุม RBC​ ที่จะเกิดขึ้น​

เมื่อถามว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะต้องไปพูดคุยกับสมเด็จฮุนเซน เพื่อให้ได้ข้อยุติ ในเรื่องการเปิดด่านพร้อมกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว การจะเปิดด่าน เป็นเรื่องของที่ประชุม RBC​ ส่วนที่กัมพูชาปิดประตูตายจะไม่ประชุมนั้น มองว่ามันสามารถพูดคุยและเจรจาได้ คำพูดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เมื่อมีปัญหา หรือมีประโยชน์ ก็ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ต้องคุย และเชื่อว่าจะสามารถพูดคุยกันได้

คุณอาจสนใจ

Related News