“พิธา” ให้กำลังใจ กต. สู้ “กัมพูชา” แนะตั้งทีมทนายเก่งๆ ไม่ต้องพาไทยไปศาลโลก

“พิธา” ให้กำลังใจ กต. สู้ “กัมพูชา” แนะตั้งทีมทนายเก่งๆ ไม่ต้องพาไทยไปศาลโลก บอกต้องรู้ให้ได้ยื่นมาตราอะไรฟ้อง ย้ำต้องไม่ยอมรับเขตอำนาจศาล บอก “ไทย” ใช้คำ No man’s land แต่ “กัมพูชา” ใช้ My land หวั่นถูกเอาไปผูกมัดได้

23 มิ.ย. 2568 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวภายหลังร่วมรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ เพิ่มเติม ถึงทางออกสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ตนเองกำลังรอฟังกระทรวงการต่างประเทศแถลง ซึ่งสิ่งหนึ่งที่จะหาคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศไม่เจอคือ ทางฝั่งกัมพูชาบอกว่าเป็น My land แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระบุว่าเป็น No man’s land กลัวว่าจะถูกเอาไปใช้ในการขึ้นศาลได้

อย่างที่สองคือ วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ทางกัมพูชาได้ยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เราไม่รู้ว่าในซองคืออะไร ซึ่งควรตั้งทีมทนายเก่งๆ ได้แล้ว โดยทนายที่เก่งคือทนายที่ไม่ต้องพาไทยขึ้นศาลเลย เราจะได้รู้ว่ากัมพูชาใช้มาตราอะไรในการฟ้อง ถ้ารู้มาตราเราจะได้รู้ว่าสามารถฟ้องร้องได้หรือไม่ ตนเองก็เป็นกำลังใจให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ของไทย และอยากเห็นการทูตเชิงรุก รวมถึงแก้ไขสิ่งต่างๆ ที่สามารถใช้เป็นหลักฐานในการขึ้นศาลได้ ต้องเริ่มรู้เขารู้เราว่า รู้ว่าในซองนั้นมีอะไร และใช้มาตราอะไร คิดว่าจะทำให้ประเทศไทยเบาใจ ขอฝากกำลังใจให้พี่น้องข้าราชการทุกคน

“การจะตั้งคดีมันจะต้องดูใน ICJ ว่าใช้มาตราที่เท่าไหร่ ถ้าเป็นมาตราเดิมที่มาจากเขาพระวิหาร ถือว่าคดีมันพิจารณาจบไปแล้ว ก็จะได้จบไป ขึ้นศาลไม่ได้แล้ว ถ้าเป็นมาตราใหม่ เราจะได้บอกว่าขึ้นศาลไม่ได้แล้ว เราไม่รับเขตอำนาจของศาล ICJ ศาลไม่ควรรับเรื่องนี้ จะได้สื่อสารกับนานาชาติ ว่า คณะกรรมาธิการร่วมชายแดนไทย-กัมพูชา (JBC) เหมาะสมกว่า มีไมตรีจิตต่อกันมากกว่าเป็นคู่ความกัน หวังว่ากระทรวงการต่างประเทศจะทำเรื่องที่ทำให้ประชาชนดีใจและเบาใจลงครับ” นายพิธา กล่าว