สส.ไอซ์ หดหู่ใจ รัฐมนตรีอ้างเป็นห่วงตัวเอง ขวางไลฟ์สดประชุมงบ 69 ชี้พยายามปิดหูปิดตาประชาชน

สส.ไอซ์ ลั่นโกรธจนหน้าสั่น ถูกขวางไลฟ์สดประชุม กมธ.งบ 69 ชี้ 3.78 ล้านล้าน เป็นเงินของพวกท่าน แต่มีคนพยายามจะปิดหูปิดตาประชาชน

วันที่ 17 มิ.ย.2568 น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความสุดเดือด ภายหลังการประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณประจำปีงบประมาณ 2569 ล่มกลางคัน ระบุข้อความว่า “#งบประมาณวันละตอน

สิ่งที่ห้องงบประมาณ ถกเถียงกันอย่างหนักในช่วงนี้ คือเรื่องการถ่ายทอดสด หนึ่งในเหตุผลที่ไม่อยากให้มีการถ่ายทอดสดคือ “เป็นห่วงข้าราชการจะเดือดร้อน กลัวว่าข้าราชการจะอึดอัดใจจนไม่กล้าตอบ ห่วงว่าข้าราชการโดนต่อว่าออกสื่อ” ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ฟังดูดีใช่ไหมคะ ข้าราชทั่วประเทศฟังแล้วก็อาจจะเคลิ้มเลยดีใจว่ารัฐบาลเป็นห่วงท่าน

แต่ดิฉันลองชวนให้คิด ถ้าฝั่งรัฐบาลเป็นห่วงข้าราชการตามปากพูดจริง สิ่งที่ควรทำคืออะไร? มันไม่ใช่การปกปิดข้อมูลหรือขัดขวางการถ่ายทอดสด สิ่งที่ควรทำคือให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมาชี้แจงงบประมาณด้วยตัวเอง

เพราะรัฐมนตรีคือผู้บริหารกระทรวง ดูภาพรวมและบริหารจัดการ คน/กฏระเบียบ/งบประมาณ รัฐมนตรีคือผู้ออกนโยบายว่าอยากทำโครงการอะไรตามที่ได้หาเสียงไว้ ด้วยงบประมาณเท่าไหร่ ทำที่ไหนบ้าง ข้าราชการมีหน้าที่ชี้แนะเรื่องระเบียบ นำเอานโยบายนั้นๆ ไปทำเป็นคำของบประมาณตามระเบียบราชการและปฏิบัติตามนโยบายรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ดังนั้นหากจะถามถึงความสำคัญ ความจำเป็นของแต่ละโครงการ เช่น ถามว่า “ทำไมปีนี้สาธารณสุขถึงต้องทำโครงการนับคาร์โบไฮเดรต 1,200 ล้าน ทำแล้วชีวิตประชาชนจะดีขึ้นอย่างไร อบรมนับคาร์บ 1,200 ล้าน ท่านตั้งใจว่าจะมีการแบ่งงบไปอร่อยกันตามพื้นที่หรือไม่?” ข้าราชการคงตอบได้แค่ว่า ไม่ทราบจริงๆ ก็รัฐมนตรีสั่งมาก็ต้องทำ เพราะเรื่องเชิงนโยบายมันต้องถามรัฐมนตรี แต่ถ้าจะถามเรื่องระเบียบต่างๆ การจัดทำร่างTOR จัดซื้อจัดจ้าง รายละเอียดปลีกย่อยที่เกี่ยวกับกฏระเบียบ ก็ให้ข้าราชการช่วยอำนวยความสะดวกข้อมูลให้ได้

ดังนั้น ถ้าหากว่าเป็นห่วงข้าราชการจริงๆ จากใจ ไม่ได้พูดแต่ปากแบบเอาหล่อเอาเท่ อยากเอาใจราชการแต่ไร้ความจริงใจ ก็ทำตามข้อเสนอของ สส.พริษฐ์ เสนอไว้ตั้งแต่วันแรกว่าให้เชิญรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงมาตอบคำถามด้วยตัวเอง! แบบนี้ถึงจะปกป้องข้าราชได้ดีที่สุด ไม่ใช่แค่พูดแต่ปาก ต้องทำด้วย

ระเบียบข้อบังคับการประชุมไม่ได้ห้าม มีคนเสนอไปแล้วว่าให้ร่อนหนังสือไปถึงรัฐมนตรีทุกกระทรวงให้มาจี้แจงงบประมาณด้วยตัวเอง แต่ประธานในที่ประชุม (คุณจุลพันธ์) ก็ขวางบอกว่าให้เชิญมาแค่ในวาระสำคัญ แหม่ท่าน มันมีวาระไหนไม่สำคัญบ้าง เพราะทุกๆวันเราต้องตัดสินใจเงิน เฉลี่ยวันละ 42,000 ล้านบาท ตลอด 3 เดือน ดังนั้นมีวันไหนไม่ใช่วาระสำคัญด้วยหรอ?

อ้างว่า สส.ได้เจอรัฐมนตรีบ่อยอยู่แล้ว เอาอะไรมาบ่อย ทำสติกันเลยดีกว่าไหม ว่ารัฐมนตรีแต่ละคนมาสภากี่ครั้ง ตอบกี่กระทู้หนีกี่กระทู้ แล้วตอนนี้ปิดสมัยประชุมอยู่ รัฐมนตรีจะโผล่มาให้เจอที่ไหนคะ?

อ้างว่ารัฐมนตรีมีภาระกิจสำคัญ ไม่สะดวกมาสแตนด์บายรอ แน่นอนว่าเวลาของรัฐมนตรีสำคัญแต่การบริหารจัดการเวลาคือหนึ่งในสกิลที่รัฐมนตรีควรจะมี และการจะขอเงินไปใช้บางกระทรวงเป็นแสนล้านนะคะ จะไม่เยี่ยมหน้ามาตอบคำถามสักข้อเลยหรอ ?

อ้างว่าธรรมเนียมเดิมก็ไม่ได้มีการเชิญรัฐมนตรีมาตอบ ก็นั่นมันในรัฐบาลรัฐประหาร ถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตย รัฐมนตรีควรต้องมีความรับผิดรับชองต่อสภาให้มากขึ้น และประเทศที่เป็นประชาธิปไตยและอยู่ในกลุ่ม OECD (พัฒนาแล้ว) หลายประเทศเค้าก็ให้รัฐมนตรีมาชี้แจงงบประมาณด้วยตัวเอง เพราะมันคือความรับผิดรับชอบโดยสำนึกและโดยกฏหมายด้วย

ที่ดิฉันรู้ว่าหดหู่ใจมากที่สุดคือ พูดไปพูดมาสุดท้ายรัฐมนตรีที่นั่งเป็นประธานกลับสารภาพว่า “ผมเป็นห่วงตัวเองด้วยครับ” อ้างข้าราชการมาสามวัน มาวันนี้บอกว่าห่วงตัวเอง คนเรานะคะ ถ้าขี้ขลาด ถ้าไม่อยากรับคำวิจารณ์ ไม่อยากเปิดเผย ไม่อยากรับผิดรับชอบอะไรเลย ลาออกแล้วนอนอยู่บ้านดีสุดค่ะ ไม่ต้องเป็น สส. ไม่ต้องเป็นรัฐมนตรี ถ้าหากว่าไม่มีวิสัยทัศน์ที่อยากจะทำพาประเทศนี้ไปข้างหน้า ไปสู่ความโปร่งใส ลาออกเถอะค่ะ การมีพวกท่านอยู่ในสภาเนี่ยแหละ อาจเป็นสิ่งที่ถ่วงรั้งความเจริญของประเทศนี้มาตลอด

มีกรรมาธิการท่านหนึ่งบอกว่าตนโดนแขวนเพราะพูดไม่สนับสนุนให้ถ่ายทอดสด ดังนั้นจึงยิ่งไม่ควรถ่ายทอดสดเพราะจะมีคนโดนแขวนถ้าพูดไม่ถูกใจประชาชน ดิฉันสงสัยเป็นอย่างยิ่ง สมมติว่าดิฉันพูดอะไรโง่ๆ ออกมาด้วยปากของดิฉันเอง หรือ ดิฉันแสดงกิริยามารยาทที่ไม่ได้แล้วถูกถ่ายทอดออกไปใครควรต้องเป็นรับผิดชอบ ? ดิฉันที่เป็นเจ้าของปากที่พูด เป็นเจ้าของสมองที่คิด ควรต้องเป็นคนรับผิดชอบการกระทำของตัวเองใช่ไหมคะ ไม่ใช่บอกว่าคนที่มาถ่ายทอดสดนั่นแหละผิดเพราะมาถ่าย ณ ขณะที่ดิฉันพูดอะไรโง่ๆ ออกไป ดังนั้น อยากเป็นกรรมาธิการ อยากมีอำนาจ กล้าๆ กันหน่อนค่ะ

ทำไมดิฉันต้องออกมาพูดเรื่องการถ่ายทอดสดการประชุม กมธ.งบ 69 เพราะประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ว่ามันสำคัญอย่างไรแล้วทำไมถึงต้องโกรธ ทุกท่านทราบไหมคะว่าการพิจารณางบประมาณนี้ คือการคุยกันถึงเงิน 3.78 ล้านล้าน มันมากมายขนาดไหน นึกถึงตึก สตง.ที่ถล่มอันนั้น 2,300 ล้าน ทุจริตเอื้อประโยชน์กันฉ่ำ แล้วคิดดูว่าเงินก้อนนี้ถ้าเอาสร้างตึก สตง. จะสร้างได้ 1,600 ตึก แล้วถ้าไส้ในมันเป็นแบบตึก สตง.ทั้งล่ะ?

เงินก้อนนี้จะถูกใช้ทำถนนที่ไหนบ้าง โรงเรียนทั้งประเทศของลูกหลานเราได้งบที่ไหนเท่าไหร่ โรงพยาบาลทั้งประเทศแต่ละที่จะได้เงินที่เพียงพอไหม เป็นค่าส่วนต่างเท่าไหร่ โครงการไหนส่อทุจริตบ้าง? พวกเราต้องตัดสินใจเงินเฉลี่ยวันละ 42,000 ล้านบาท ทุกวันนาน 3 เดือน ดังนั้นการทำให้ประชาชนได้รับรู้ว่าเงินของท่าน ถูกรัฐบาลชุดนี้ใช้ไปอย่างไร ได้ทำตามนโยบายที่สัญญาไว้หรือไม่ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

3.78 ล้านล้านนี้ เป็นเงินของพวกท่านค่ะ ดิฉันโกรธที่มีคนพยายามจะปิดหูปิดตาประชาชน แล้วแอบทำอะไรกันเงียบๆ และโกรธจนหน้าสั่นไปหมดที่มีคนพยายามจะอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ ฟังไม่ขึ้นเพียงเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง”