เลือกตั้งและการเมือง

"สุชาติ" ไต่สวนคดียื่นฟ้องหมิ่น "รักชนก-สหัสวัต" ยันไม่เกี่ยวข้อง สปส.ซื้อตึก SKYY9

โดย nutda_t

16 มิ.ย. 2568

207 views

วันที่ 16 มิ.ย.2568 เวลา 13.30 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง คดีที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา จากกรณีที่มีการพาดพิงถึงสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เข้าซื้ออาคาร SKYY9 ในสมัยที่นายสุชาตินั้น ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในราคา 7,000 ล้านบาท


โดย นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการไต่สวนมูลฟ้องฝ่ายจำเลย อย่าง น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัติ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทนายความของนายสหัสวัติ ขอเลื่อนการไต่สวนเนื่องจากติดว่าความคดีที่ศาลอื่น และวันนี้ นายสุชาติ เดินทางเข้ามาไต่สวนมูลฟ้องด้วย และให้ทนายฝั่งจำเลยซักค้านพยานของโจทก์

นายสุชาติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการให้ฝ่ายจำเลยซักค้าน และตนจะตอบในสิ่งที่จำเลยซักค้าน วันนี้ตนจึงเดินทางมาขึ้นศาลด้วยตัวเอง เนื่องจากเป็นคนที่รู้รายละเอียดทั้งหมด และสาเหตุที่ตนฟ้องทั้งคู่มาจากที่ตนเองถูกใส่ความจนเสื่อมเสียชื่อเสียง ซึ่งตนมองว่าการตั้งข้อสังเกตเป็นเรื่องปกติ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ถือเป็นการใส่ร้าย จึงต้องยื่นฟ้องหมิ่นประมาททั้งคู่ การไต่สวนในครั้งที่แล้วมีตนเป็นโจทก์ที่ขึ้นไต่สวนเพียงคนเดียว และยังได้เตรียมพยานปากอื่นไว้ด้วย แต่ยังไม่อยากเปิดเผยตอนนี้ เนื่องจากอยู่ในกระบวนการของศาลอยู่ การฟ้องครั้งนี้เป็นการปกป้องสิทธิของตน ซึ่งจะมากล่าวหาใส่ร้ายลอย ๆ ไม่ได้ และทั้งคู่ยังดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ยิ่งไม่สมควรและควรที่จะมีวุฒิภาวะมากกว่านี้

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ตนอยากฝากไปถึงทั้งคู่ว่า การจะกล่าวโทษใครให้เสื่อมเสียชื่อเสียง โดยที่บุคคลดังกล่าวมั่นใจว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ซึ่งตนเองมีสิทธิที่จะรักษาสิทธิของตนเองและใช้กฎหมายเข้ามาทำให้บุคคลเหล่านี้สำนึกกับสิ่งที่ตนเองทำลงไป ซึ่งสัปดาห์ก่อน ตนได้ฟ้องประชาชนที่เข้าไปคอมเมนต์กล่าวร้ายให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงมาถึงครอบครัวนั้น ศาลได้ให้ความเมตตาให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกับตน ซึ่งตนให้อภัยทุกคนที่สำนึกผิด เพราะคือประชาชนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่อาจจะคึกคะนองหรือเชื่อสิ่งที่ คู่กรณีของตนเผยแพร่ออกไป แต่ในส่วนของ น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัติ ต้องรับผิดชอบกับเรื่องนี้ และตนจะไม่ไปต่อล้อต่อเถียงกับทั้งคู่แน่นอน เพราะตนมองว่ามันไม่ได้มีคุณค่าอะไรขึ้นมา ใครผิดก็ว่าตามผิด ใครถูกก็ว่าตามถูก ตนเป็นบุคคลสาธารณะก็จริง สามารถตรวจสอบได้ แต่การมากล่าวหาใส่ร้ายจนเสื่อมเสียถึงครอบครัวตน เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เมื่อถามว่ากรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เพื่อลงทุนซื้ออาคาร SKYY9 มูลค่า 3 พันล้านบาท ไม่ถึงราคา 7 พันล้านบาท  นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องกล่าวแบบนี้ว่า ในก่อนที่จะลงทุนประกันสังคม ไม่ใช่แค่ 7 พันล้านบาท แต่เขาลงทุน 2 ล้านล้าน ซึ่งเมื่อถึงสิ้นปีจะต้องส่งงบให้ สำนักการตรวจเงินแผ่นดิน รับรองงบ แต่ตอนลงทุนมีบอร์ด 3 ฝ่าย นายจ้าง ลูกจ้าง และศูนย์ราชการ รัฐมนตรีไม่ได้เป็นผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนั้นตนก็ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานอยู่ด้วย ซึ่งการไต่สวนวันนี้ตนก็มั่นใจว่าฝ่ายจำเลยจะต้องซักค้านตนในประเด็นนี้อย่างแน่นอน แต่ตนขอยืนยันว่าตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึง น.ส.รักชนก และ นายสหัสวัต หรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตนไม่อยากพูดถึง 2 คนนั้น เพราะว่าไม่มีอะไรให้ต้องพูดถึงแล้ว ตนมองว่ากระบวนการยุติธรรมจะเป็นเครื่องมือพิสูจน์เรื่องนี้เอง ทำอะไรไว้รู้อยู่แก่ใจ ลองมองกลับกัน ถ้าเกิดเป็นตนเข้าไปกล่าวหาทั้ง 2 คนนั้นแบบเสีย ๆ หาย ๆ ทั้งคู่ก็ต้องฟ้องกลับตนเหมือนกัน

ขณะเดียวกัน นายสุชาติ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เตรียมส่งทนายความไปยื่นฟ้องนายสหัสวัต และน.ส.รักชนก ในข้อหาใส่ร้ายให้การเท็จ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ภายในสัปดาห์นี้

คุณอาจสนใจ

Related News