เลือกตั้งและการเมือง
"พิพัฒน์" เผยยังไม่มีแรงงานกัมพูชาร้องกลับบ้าน ไม่หวั่นขาดแคลน มีเมียนมารอเสียบ
โดย nutda_t
16 มิ.ย. 2568
84 views
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้หารือกับปลัดกระทรวงแรงงาน อธิบดีกรมการหางาน และสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย เกี่ยวกับสถานการณ์แรงงานกัมพูชาในไทย พบว่าขณะนี้ยังไม่มีแรงงานกัมพูชา แจ้งความประสงค์แก่นายจ้างว่าจะขอกลับประเทศ โดยปัจจุบันมีแรงงานกัมพูชาทำงานในไทย เกือบ 500,000 คน แบ่งเป็นแรงงานที่ถูกต้องตามกฎหมายราว 400,000 คน แรงงานนอกระบบ 10,000-20,000 คน และแรงงานที่จะเข้ามาทำงานในไทยเฉพาะช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลการเกษตร อีกราว 20,000 คน ซึ่งในส่วนนี้เป็นกลุ่มแรงงานที่รัฐบาลกัมพูชาประกาศขอคืนกลับประเทศ
สำหรับแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาเฉพาะช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น การเก็บทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย ในพื้นที่จันทบุรี ระยอง และตราด ซึ่งตอนนี้ก็หมดฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว รวมไปถึงแรงงานที่เข้ามาตัดอ้อย ซึ่งตอนนี้ก็ปิดหีบไปแล้วเช่นกัน จะเปิดหีบอีกครั้งก็ในช่วงปลายปีนี้ อย่างไรก็ตามเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดภาวะขาดแคลนแรงงาน เพราะไทยได้ทำ MOU นำเข้าแรงงานกัมพูชาเข้ามาทำงานในไทย ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 67 และจะสิ้นสุด MOU ในเดือนกุมภาพันธ์ 69 อีกทั้งไทยยังมีแรงงานชาติอื่นที่พร้อมเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะเมียนมา ซึ่งรอทำ MOU 1.8 ล้านคน และแรงงานที่รอทำเอกสารรับรองบุคคล หรือ CI หรือกลุ่มแรงงานเมียนมาที่ลักลอบเข้ามาอยู่ในไทยแล้ว และรอขึ้นทะเบียนอีก 1 ล้านคน ในขณะที่แรงงานด้านประมงนั้น บังกลาเทศก็แจ้งความประสงค์ที่ต้องการเข้ามาทำงานในไทยเช่นกัน
ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน ขณะนี้ยังไม่กระทบต่อแรงงานไทย รวมถึงคนไทยที่พำนักอยู่ในทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งในการหารือ ผ่านระบบ ZOOM ร่วมกับ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล และอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยืนยันว่าสามารถติดต่อกับแรงงานไทยและคนไทยทุกคนในทั้ง 2 ประเทศได้ และทุกคนปลอดภัยดี พร้อมทั้งสื่อสารไปยังรัฐบาลอิสราเอล ผ่านสำนักงานประชากรและคนเข้าเมืองอิสราเอล หรือ PIBA (พีบ้า) ให้ประสานงานไปยังนายจ้างให้ดูแลคนงานไทยให้อยู่ในที่ปลอดภัย
ปัจจุบันมีแรงงานไทยที่เข้าไปทำงานอย่างถูกต้องในอิสราเอลราว 33,000 คน แรงงานนอกระบบ 6500 คน ส่วนในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน มีแรงงานไทยที่ทำงานร้านสปา ร้านนวด 39 คน คนไทยที่พนักอาศัย 300 คน มีแรงงานในกลุ่มอุตสาหกรรม 1,200 คน และแรงงานในกลุ่มก่อสร้าง ซึ่งเป็นส่วนที่กังวลมากสุดเพราะมีไซท์งานอยู่เมือง 2,500 คน ส่วนแรงงานในกลุ่มเกษตรส่วนใหญ่อยู่นอกเมือง ไม่กังวลมากนัก เพราะมีหลุมหลบภัยจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม ได้ประสานงานให้สถานเอกอัครราชทูตไทยในพื้นที่ เตรียมข้าวสารอาหารแห้ง สำรองไว้ยามฉุกเฉิน และให้ทำงาน Work from home ได้ แต่ต้องสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ตลอดเวลา ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้รายงานข้อมูลเหล่านี้ไปยังนายกรัฐมนตรีด้วย
พร้อมกันนี้ได้ เตรียมพร้อมเรื่องแผนอพยพทางบก โดยข้ามแดนไปยังประเทศจอร์แดนทางรถยนต์ ซึ่งใช้เวลาไม่นานมาก หากเกิดเหตุไม่ปลอดภัยก็จะอพยพแรงงานไทยไปพำนักที่จอร์แดนก่อน จากนั้นหากแรงงานไทยต้องการกลับประเทศไทยก็จะประสานให้บินกลับมาต่อไป เนื่องจากขณะนี้อิสราเอลประกาศปิดน่านฟ้าจนถึงวันที่ 23 มิถุนายน ส่วนอิหร่านประกาศปิดจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน
นอกจากนี้ยังได้ประสานเตรียมความพร้อมในการอพยพทางทะเลเช่นเดียวกัน แต่ใช้เวลานานนับ 10 วัน อย่างไรก็ตามยังไม่พบว่ามีแรงงานแจ้งความประสงค์ว่าต้องการอพยพแต่อย่างใด นอกจากนี้กระทรวงแรงงาน ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ 24 ชั่วโมง โดยให้รองปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานควบคุมศูนย์ พร้อมทั้งตั้งงบประมาณฉุกเฉินเพื่อใช้สำหรับการช่วยเหลือแรงงานหากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น พร้อมระบุว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสงครามอิสราเอล–ฮะมาส ยอมรับว่ากังวลมากกว่า เนื่องจากมีความไม่แน่นอนและไม่สามารถประเมินทิศทางสถานการณ์ได้ พร้อมกันนี้ได้สั่งระงับการส่งแรงงานไปทำงานอิสราเอลสำหรับเดือนนี้ 2,000 คนแล้ว อย่างไม่มีกำหนด
แท็กที่เกี่ยวข้อง แรงงานกัมพูชา ,พิพัฒน์รัชกิจประการ ,ชายแดนไทยกัมพูชา