เลือกตั้งและการเมือง
“ณฐพร-ลูกชาย” นอนคุก! ศาลไม่ให้ประกันตัว คดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น 249 ล้าน
โดย chutikan_o
5 มิ.ย. 2568
345 views
ศาลอาญารับฟ้อง “ณฐพร-ลูกชาย” คดีสมคบกันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นกว่า 249 ล้าน เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ล่าสุดศาลไม่ให้ประกันตัว
วันนี้ (5 มิ.ย. 2568) พนักงานอัยการสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 4 นำตัว นายณฐพร โตประยูร อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน อายุ 72 ปี และนายรัฐสิทธิ์ โตประยูร ลูกชาย อายุ 50 ปี ส่งฟ้องศาลอาญา รัชดาภิเษก ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน
พนักงานอัยการฯ ในฐานะฝ่ายโจทก์ยื่นฟ้องว่า เมื่อช่วงระหว่างเดือน ม.ค. 2551 ถึง ธ.ค.2555 นายศุภชัย ศรีศุภอักษร จำเลยที่ 5 สำนวนของศาลอาญานี้ ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ฯ ได้ร่วมกับพวกอีกหลายคน กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ แบ่งหน้าที่กันกระทำการโดยทุจริต โดยการหลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ ร่วมกันจัดทำสัญญากู้ยืมเงิน ระหว่างสหกรณ์กับสมาชิกสมทบหรือผู้กู้ จำนวน 28 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 11,858,440,000 บาท โดยไม่ได้มีการกู้ยืมเงินกันจริง
และร่วมทำบันทึกรายการทางการเงินอันเป็นเท็จ โดยไม่มีการรับชำระหนี้เงินกู้ยืมและดอกเบี้ยจากลูกหนี้ที่กู้ยืมเงิน และมีการปรับโครงสร้างหนี้เพื่อตกแต่งบัญชีของสหกรณ์ฯ ให้มีผลกำไร ทั้งที่ความจริงแล้วผลประกอบการของสหกรณ์ฯ ขาดทุนมาตลอด
การกระทำของนายศุภชัยกับพวก เป็นการกระทำไปโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย มีสมาชิกได้รับความเสียหายจำนวน 2,254 ราย โดยพนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 ได้ยื่นฟ้องนายศุภชัยกับพวก เป็นคดีหมายเลขดำ อ.3339/2559 ต่อศาลนี้แล้ว
ปรากฏว่า ระหว่างวันที่ 15 มิ.ย. 2553 ถึงวันที่ 17 ก.ย. 2553 นายศุภชัยกับพวก ซึ่งยังไม่ได้นำตัวมาฟ้อง ได้ร่วมกันกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดยนายศุภชัยได้สั่งจ่ายเช็คธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนออกจากสหกรณ์ฯ เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นบัญชีของผู้ที่สมคบกันฟอกเงิน เปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น
นายศุภชัยและนายโชคอนันต์ โอนเงินจำนวน 249,784,489 บาท ที่ได้รับแคชเชียร์เช็คมาจากผู้ซื้อที่ดิน ผ่านระบบธนาคารเข้าบัญชีนายศุภชัย ก่อนโอนเงินเพื่อนำเงินที่ได้จากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของจำเลยทั้งสองกับพวก หรือให้จำเลยทั้งสองกับพวกรับเงินสดหรือรับโอนเงินไป อันเป็นการสมคบการฟอกเงิน ก่อนที่จำเลยทั้งสองจะโอนเงินให้แก่พวกของจำเลยทั้งสอง ซึ่งยังหลบหนีไม่ได้นำตัวมาฟ้อง ในชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสอง ให้การปฏิเสธ
การกระทำของจำเลยตามข้อความที่กล่าวมาในคำฟ้อง เป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3,5,9 ,10, 60 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และขอให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 สองเท่าตามกฎหมายด้วย
ต่อมา นายณฐพรและนายรัฐสิทธิ์ ได้ยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลไม่ให้ประกันตัว คุมตัวไปเรือนจำพิเศษฯ
ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์ของจำเลยทั้งสองกับพวกแบ่งหน้าที่กันทำ กระทบต่อความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนในวงกว้าง กรณีเป็นเรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยทั้งสองจะหลบหนีจึงไม่อนุญาต
แท็กที่เกี่ยวข้อง ณฐพรโตประยูร ,ศาลไม่ให้ประกันตัว ,คดีฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น