เลือกตั้งและการเมือง
“พิเชษฐ์” รอเก้อ 2 สส.ประชาชนเบี้ยวนัดทัวร์รัฐสภา “ภัณฑิล” สส.ปชน.บอกคงไม่เหมาะ เพราะกำลังยื่นศาลฯสอบ
โดย paranee_s
31 พ.ค. 2568
124 views
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดหมายสื่อและ สส.พรรคประชาชน เพื่อเดินทัวร์รัฐสภาชี้แจงการของบประมาณในการปรับปรุง อาคารรัฐสภาแต่ละจุด ว่าหลังจากที่ตนได้มีการเชิญนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. พรรคประชาชน แต่นายพริษฐ์ บอกว่าไม่ว่าง ติดอภิปราย ส่วนนายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน ซึ่งรับปากไว้ว่าจะมา แต่ล่าสุดแจ้งว่าไม่มาแล้ว จึงต้องยกเลิกภารกิจเดินชมอาคารรัฐสภา
นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะตอบข้อซักถาม หากทั้งสองคนพร้อม จะยื่นตามช่องทางใดก็ยื่นไป อยากให้มาแต่อยากให้มาดูว่าสภาทำไมต้องใช้งบประมาณ ไม่ต้องเอาการเมืองมายุ่ง ตนยินดีให้ตรวจสอบทุกประเด็น” รออยู่นะครับ ให้ท่านทั้งสองมาเดินดู งบประมาณของรัฐสภา “
ส่วนการที่ 2 ส.ส พรรคประชาชนไม่มาตามนัดสะท้อนอะไรหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่าตนไม่ทราบ คนเราต้องขึ้นอยู่กับความจริง งบประมาณสภากว่าจะผ่านขึ้นมาอยู่ในงบประมาณปี 69 ถูกตัดหลายขั้นตอน สุทธิออกมาเท่านี้ เราต้องดูแลสภาให้ดูดีสมเกียรติ สมกับเป็นสถาบันนิติบัญญัติของประเทศ ตนยืนยันรับทุกเรื่องที่ร้องเรียนมา นี่คืองบเล็ก ๆ 8,000 ล้านบาทของสภาฯ
เมื่อถามว่า มีการกล่าวหาว่ามีรองประธานสภาฯ ตั้งงบเอง ตัดเอง และโยกงบเอง นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องไปคุยในรายละเอียด จะไปร้องเรียนที่ไหน ก็สอบสวนสืบสวนกันไป ไม่มีปัญหา แต่ตอนนี้ตนไม่ทราบว่าเขาร้องเรียนในจุดไหน แต่งบทุกอันมีเหตุผลทั้งหมด และการบริหารของเจ้าหน้าที่ทำด้วยความรอบคอบและตระหนักถึงความจำเป็น
เมื่อถามว่า ทำไม 8,000 ล้านบาท ถึงใช้ว่าเป็นงบเล็ก ๆ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า หน่วยงานของนิติบัญญัติเป็นเสาหลักของประเทศเสาหนึ่ง เราได้งบประมาณ 8,000 กว่าล้านบาท เทียบกับกระทรวง ทบวง กรมอื่น ๆ มันน้อยมาก สำหรับการเผยแพร่ประชาธิปไตย สำหรับสถาบันที่ประชาชนเลือกมา ตนคิดว่ามันควรจะพร้อมกว่านี้ เป็นปากเป็นเสียงแทนประชาชน งบต่าง ๆ เพื่อความมั่นคง เพื่ออนาคตของฝ่ายนิติบัญญัติ
ทั้งนี้ หากในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ เรียกไปชี้แจงกรณีดังกล่าวจะไปหรือไม่ นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ตนไม่ขอชี้แจง เพราะสภาไม่เหมือนกระทรวง ทบวง กรม ไม่มีรัฐมนตรี แล้วใครจะมาชี้แจงแทน เพราะเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำงาน ไม่สามารถที่จะมาตอบโต้ได้ ถ้าตนไม่ชี้แจงสภาก็เสียหาย วงสภาก็เสียหาย คุณกล่าวหาแค่ฝ่ายเดียว ซึ่งคุณก็ไม่เข้าใจ ออกสื่อไปทำให้ฝ่ายนิติบัญญัติเสียหาย ซึ่งตนในฐานะที่เป็นผู้บริหารตรงนี้ ก็พยายามที่จะทำความเข้าใจกับสมาชิกเท่าที่จะทำได้
“ถ้าไม่พูดสภาเสียหาย แล้วจะไปต่อที่ไหนจะลงไปอยู่ข้างล่างก็ในฐานะสมาชิก มันไม่มีที่จะพูดคุย ไม่เป็นไรจะไปยื่นที่ไหนก็ไป ผมพร้อมจะไปตอบทุกที่”
เมื่อถามว่าพรรคประชาชนจะยื่นตามมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีอาจมีส่วนในการใช้งบประมาณรายจ่ายไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ยินดี ยื่นก็ต้องไปชี้แจงไม่มีปัญหา และที่กล่าวหาว่า ตนโยกงบฯ ไปลงพื้นที่ตนเองนั้น ขอยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน และสามารถตรวจสอบได้ พร้อมยืนยันอีกว่า ไม่มีความหนักใจ
ส่วนจะมีความบานปลายไปถึงการตรวจสอบพฤติกรรมของตนเองนั้น ก็ยินดีให้ตรวจสอบ เพราะห้ามไม่ได้
เมื่อถามว่าการยื่นครั้งนี้จะเป็นเกมการเมืองเพื่อเอาคืนหรือไม่นั้น นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า หากทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนไม่ห่วง และไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เพราะทำเพื่อส่วนรวม ความก้าวหน้า และความมั่นคง ยืนยันว่า ไม่มีปัญหา และยินดีให้ตรวจสอบทุกจุด ซึ่งงบประมาณของสภาฯ ที่ได้รับการจัดสรรแค่ 8,000 ล้านบาท และหากคณะกรรมาธิการงบประมาณ เห็นว่าราคาสูงเกินไป หรือไม่เหมาะสม ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมาธิการที่จะปรับลด ซึ่งตนมีหน้าที่ดูแล และบริหารรัฐสภา ย้ำว่า ไม่ห่วง มีความบริสุทธิ์ใจ ทำเพื่อประชาชน หากจะยื่นตรวจสอบอะไรก็สามารถทำได้
ต่อมานายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม. พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เชิญตน และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เดินสำรวจอาคารรัฐสภาในวันนี้ (31 พ.ค.) หลังจากถูกอภิปรายงานประมาณปี 2569 ในส่วนงบสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่มีความฟุ่มเฟือย และพบพิรุธหลายโครงการ ว่า ได้รับคำเชิญจากนายพิเชษฐ์จริง หลังจากที่ตนอภิปรายเสร็จนายพิเชษฐ์ก็เข้ามาหาตนที่ห้องอาหารเพื่ออยากชี้แจง แต่หลายเรื่องตนอยากให้นายพิเชษฐ์ชี้แจงต่อสาธารณะ แม้ระหว่างการอภิปรายนายพิเชษฐ์จะชี้แจงไปบางส่วน แต่ตนกับนายพิเชษฐ์มีความเห็นแตกต่างกัน เพราะตนไม่เห็นความจำเป็นโครงการเหล่านี้
นายภัณฑิล เปิดเผยด้วยว่า พรรคประชาชนกำลังจะยื่นเรื่องการแปรงบเข้าเขตพื้นที่ของตนเองว่าผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างคำร้อง ตนจึงมองว่าไม่เหมาะที่วันนี้จะมาแถลงข่าวร่วมกับนายพิเชษฐ์ เพราะกำลังจะยื่นตรวจสอบนายพิเชษฐ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญ และคงไม่ต้องให้นายพิเชษฐ์พาทัวร์สภา ซึ่งตนสามารถพาทุกคนทัวร์สภาได้เองอยู่แล้ว อย่างศาลาแก้วที่เถียงกันไปมาก็ยังไม่เห็นรายละเอียดว่าจะทำอะไร ทั้งที่ใช้งบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ตนได้ข่าวมาว่าจะรื้อศาลาแก้วทั้งหมด นายพิเชษฐ์กล้าเถียงหรือไม่ว่าจะไม่รื้อ รวมถึงเสาปฏิมากรรมด้านหน้าอาคารรัฐสภาด้วย เพราะมีโครงการจะนำพระบรมราชนุสาวรีย์รัชกาลที่ 7 มาประดิษฐาน รวมถึงรับรองงานใหญ่ในต้นปีหน้าโดยที่ยังไม่มีการบอกรายละเอียดโครงการ
“นายพิเชษฐ์ชอบพูดคำว่าแค่พันล้าน พูดแบบนี้ดูถูกประชาชน เงินก็คือเงินแม้จะบาทเดียวก็เงิน จะไปเทียบกับกระทรวงทบวง กรม ไหนก็แต่ จะใช้คำว่าแค่ไม่ได้ ไม่อยากให้เบี่ยงประเด็นว่าเหมาะสมหรือไม่ ประชาชนได้ตัดสินไปแล้วว่าเป็นการใช้จ่ายงบประมาณที่สุรุ่ยสุร่าย ผมอยากให้สื่อมวลชนติดตามเรื่องการแปรงงบประมาณเข้าเขตพื้นที่ตนเอง ซึ่งผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 144 อย่างชัดเจน แม้แต่เจ้าหน้าที่สภายังแซวเลยว่าจะต้องไปอยู่เชียงรายหรือไม่ จึงจะสามารถทำโครงการได้หมด นายพิเชษฐ์พยายามเบี่ยงประเด็นเป็นเรื่องอาคารสถานที่ ซึ่งก็มีปัญหาอยู่แล้ว แต่ประเด็นคือนายพิเชษฐ์กำลังจะใช้งบอบรมสัมมนาอย่างมิชอบ โดยใช้คำว่าสตรี เยาวชน มาบังหน้าอีกด้วย”
ขณะที่ น.ส.ภัสริน รามวงศ์ สส.กทม. พรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดงบประมาณ 87% จึงไปกองที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งการเขียนโครงการใช้แบบฟอร์มเดียวกัน แม้แต่ปากกาก็น้ำหมึกเดียวกัน ลงวันที่เดียวกัน ถ้าไม่ไร้เดียงสาจนเกินไปคนเขียนโครงการก็น่าจะเป็นคนเดียวกันหรือไม่ และมีการใช้ว่าคำว่าโครงการสตรี ตนจึงได้ไปสอบถามข้อมูลที่อนุกรรมาธิการสตรี เพื่อขอคำชี้แจงว่าเหตุใดมีโครงการเกี่ยวกับสตรี และโยกย้ายงบไปที่จังหวัดเชียงรายจังหวัดเดียว
จากนั้น นายภัณฑิล กล่าวเสริมว่า โครงการต่าง ๆ เรียงตามเลขหมู่บ้านเลย เป็นการกระทำที่อุกอาจมาก ซึ่งรายละเอียดโครงการในงบปี 69 ก็ยังทำซ้ำแบบเดิมโดยที่งบประมาณไม่ได้ลดลง ทั้งนี้ ฝ่ายนิติบัญญัติห้ามใช้เงิน เพราะเป็นฝ่ายที่ออกกติกา ถ้ามีการใช้เงินฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติจะแยกกันไม่ออก ถือว่ามีเจตนาตั้งแต่แรก ท่านไม่เคยตอบรายละเอียดโดยอ้างแต่คำว่าศักดิ์ศรี เราจะมีศักดิ์ศรีได้ในฐานะสส. หากมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างเข้มข้นถึงจะภูมิใจในศักดิ์ศรีได้ ทุกวันนี้นายพิเชษฐ์ยังจินตนาการอยากจะใช้เงินต่อ จึงเป็นเหตุผลที่ตนไม่อยากเสียมารยาทมายืนร่วมแถลงข่าวกับนายพิเชษฐ์ เพราะจุดยืนเราต่างกัน
จากนั้น นายภัณฑิล และน.ส.ภัสรินได้พาสื่อมวลชนไปดูพื้นที่ที่ได้ของบประมาณเพื่อปรับปรุง เช่น ศาลาแก้ว โดยตั้งคำถามว่าหากเปลี่ยนเป็นห้องแอร์จะกระทบกับสิ่งแวดล้อม พร้อมตั้งข้อสงสัยถึงประมาณที่จะปรับปรุงสถาปัตยกรรมบริเวณหน้าอาคารรัฐสภาว่ามีความจำเป็นจริงๆ หรือ
แท็กที่เกี่ยวข้อง