นายกฯ รับ พท.-ภท. เห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง แต่ไม่งัดกันจนแตกหัก ยินดี “ทักษิณ” อาสาลุยปราบยา

นายกฯ รับ พท.-ภท. เห็นไม่ตรงกันหลายเรื่อง แต่ไม่งัดกันจนแตกหัก โต้ฝ่ายค้าน มั่นใจงบ 69 ตรงเป้า แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ภาษีสหรัฐฯได้ ยันวางงบแก้ยาเสพติดไว้แล้ว ยินดี “ทักษิณ” อาสาลุยปราบยา

เวลา 14.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569

นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่าการจัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันว่า งบนี้ก็เป็นงบที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ ซึ่งงบต่างๆก็ผ่านการทบทวนจากหลายหน่วยงานมาแล้ว ใครที่มีข้อท้วงติง เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็รับฟังอยู่แล้ว และเป็นงบที่จัดสรรทั้งหมด คิดว่านี่ก็เป็นส่วนที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต เพราะฉะนั้นก็คิดว่าตรงเป้า

เมื่อถามย้ำว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการจัดงบประมาณปี 69 ที่ขณะนี้เผชิญปัญหาภาษีสหรัฐฯด้วย จะตรงเป้าในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ นายกรัฐมนตรียืนยันว่าตรงเป้า เพราะก่อนหน้านี้มีการลองจัดสรรงบประมาณไปรอบนึงแล้ว ก่อนที่ตะมีเรื่องภาษีสหรัฐเข้ามา เมื่อมีเรื่องภาษีเข้ามาก็มีการปรับเปลี่ยน โดยรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งหมด ยืนยันว่าจะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และช่วยในการเติบโตทางเศรษฐกิจของภาครัฐและเอกชน มั่นใจว่าตรงเป้าอยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามองอย่างไรกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้มีการโยกงบโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.57 แสนล้าน ไปใช้ในการแก้ปัญหายาเสพติด นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในการจัดสรรงบประมาณ มีเรื่องการปราบปรามยาเสพติดอยู่แล้ว เพราะถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่ก็พร้อมรับฟังความเห็น

เมื่อถามต่อฝ่ายค้านมองว่าไม่ควรโยกงบส่วนนี้ไปใช้แก้ปัญหายาเสพติด แต่ควรใช้งบกลางมากกว่า นายกรัฐมนตรีย้ำว่ามีการแบ่งงบประมาณไว้อยู่แล้ว และอะไรที่จำเป็นและเร่งด่วนก็จะใช้งบกลาง เพราะฉะนั้นจะดูเรื่องการทำงานอีกครั้งว่าหากมีอะไรแทรกเข้ามา ที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก็สามารถใช้งบกลางได้ แต่อะไรที่อยู่ในงบประจำปีได้ ก็จัดสรรอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ซึ่งค่อนข้างครอบคลุมทุกหัวข้ออยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามีความเห็นอย่างไรที่นายทักษิณ อาสาเข้ามาลงพื้นที่แก้ปัญหายาเสพติดด้วยตัวเอง นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ทุกความช่วยเหลือเป็นเรื่องที่ดี ไม่ว่าจะเป็นเอกชนหรือใครก็ตาม หากช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ก็ยินดีที่จะร่วมมือ หรือจะมาคุยกับรัฐบาลโดยตรงก็ยินดี บังเอิญนายทักษิณเป็นพ่อ ก็แสดงความเห็นได้ใกล้ชิด และหากนายทักษิณจะลงพื้นที่เองก็เป็นเรื่องส่วนตัวของท่าน ตามสะดวก จริงๆแล้วใครก็ตามที่คิดจะช่วยประเทศ ก็ยินดีเสมอ ตนก็เคยเป็นภาคเอกชน วันนี้มาเป็นรัฐบาลก็พร้อมรับฟัง หรือบางทีมีโอกาสได้ไปฟังนักธุรกิจ ภาคเอกชน อะไรที่เป็นประโยชน์ก็หยิบมาใช้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่นายทักษิณเสนอให้โยกงบ 1.57 แสนล้านมาใช้ปราบยาเสพติด นายกกล่าวว่ายังไม่ได้โยกงบส่วนนี้ แต่ขอให้รัฐบาลได้ดูเรื่องการบริหารก่อน แต่ทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ก็พร้อมรับฟัง และเราต้องอยู่บนพื้นฐานเดียวกันว่าอยากช่วยประเทศ อย่าเพิ่งบี้กันเอง ใจเย็นๆ ต้องช่วยกันอะไรที่เป็นโยชน์สูงสุดเราก็ทำด้วยกัน

ต่อมา นางสาวแพทองธาร ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาต่างๆ แต่ยังมีกระแสความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ว่า ข้อเท็จจริงคือทุกพรรคการเมืองมีความเห็นไม่ตรงกันจริงในหลายเรื่องเป็นปกติ แต่ไม่มีการแตกหรืองัดกัน ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องที่จะทำให้แข็งแกร่งขึ้น (Healthy) เพราะในทุกความสัมพันธ์ ถ้าเรามีการขัดและปรับความเข้าใจกันได้มากขึ้น ไม่ได้ซีเรียสอะไรเรื่องนี้เลย

ส่วนกรณีที่นายทักษิณระบุว่าช่วงเวลาที่เหลือของรัฐบาลจะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี มีสัญญาณมาจากอะไรนั้น นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า “สัญญาณมาจากสื่อมวลหรือเปล่าล่ะ ว่าจะให้เปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี” ก่อนจะยิ้มและบอกว่า “อย่าเพิ่งเบื่อกันสิ ถ้ามีก็บอกได้”