กลุ่ม สว.สำรอง ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ขอคุ้มครองพยานคดีฮั้ว สว. หวั่นถูกคุกคาม ร้องเพลง “ลมหนาวในหน้าร้อน” หน้าสตช.

“กลุ่ม สว.สำรอง” ยื่นหนังสือถึง ผบ.ตร. ขอคุ้มครองพยานคดีฮั้ว สว. หลังพบความเคลื่อนไหวคุกคามพยาน รวมทั้งใช้มือปืนมากดดัน พร้อมร้องเพลง “ลมหนาวในหน้าร้อน” หน้าสตช.

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้นำคณะสมาชิกวุฒิสภาสำรอง ได้นำคณะสมาชิกวุฒิสภาสำรองและอดีตผู้สมัครเลือกสมาชิกวุฒิสภา ได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงและป้องกันการข่มขู่กดดันพยานจากผู้มีอิทธิพลในคดีฮั้วการเลือก สว.

โดย พล.ต.ท.คำรบ เปิดเผยว่า ในช่วงสืบสวนและไต่สวนคดีฮั้วสวที่ผ่านมานั้น กลุ่มผู้มีอิทธิพลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. ได้ใช้อิทธิพลเข้าไปกดดันและข่มขู่พยานบุคคลหลายราย ทั้งพยานที่เคยมาให้การแล้วและพยานที่เตรียมจะเข้ามาให้การ บางรายถูกเสนอเงินเพื่อไม่ให้มาให้การกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งก่อให้เกิดความไม่สบายใจและเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่มีการฮั้ว สว.

จึงได้ทำหนังสือขอให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งการให้ตำรวจท้องที่ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการฮั้ว สว. เป็นพิเศษ 10 กว่าจังหวัด โดยขอให้ตำรวจเพิ่มความเข้มข้นในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพยานบุคคล รวมทั้งขอให้หาข้อมูลเกี่ยวกับซุ้มมือปืนในพื้นที่ เฝ้าระวังและนำกำลังเข้าตรวจค้นสกัดจับ เพื่อปราบปรามอาชญากรรมที่อาจจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เหล่านั้นรู้สึกไม่ปลอดภัย เพราะเนื่องจากเราได้รับข้อมูลมาว่า มีบางพื้นที่ที่กลุ่มมือปืนเริ่มขยับเขยื้อน จึงขอให้ทางตำรวจสืบสวนเรื่องนี้ด้วย

ทั้งนี้พวกตนคาดหวังว่า จะเห็นทางตำรวจออกปฏิบัติการตามคำร้องอย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งไปกว่านั้น หากพื้นที่ใดได้เกิดเหตุร้ายเกี่ยวกับเรื่องการเลือก สว. ในช่วงที่ผ่านมา ก็ขอให้ประเมินผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นระดับท้องที่ จังหวัด หรือภาค ว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันเหตุร้ายหรือไม่ เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลต่อความปลอดภัยของประชาชนทั้งประเทศและเป็นภัยใกล้ตัวของสังคม จึงขอให้ทางตำรวจตอบสนองต่อคำร้องของพวกตนด้วย

ด้าน อี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า คนคาดหวังว่าจะเห็นการปฏิบัติการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการฮั้ว สว. เนื่องจากในฐานะอดีตผู้สมัคร ตนเห็นหลักฐานหลายอย่าง ยิ่งจังหวัดที่มีนักการเมืองของบางพรรคหนุนหลังอยู่ ตนทราบมาว่าอาจมีการเคลื่อนไหวใน 3 ลักษณะ ทั้งใช้อิทธิพลทางการเมืองผ่าน สส. และผู้มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงกลไกกระบวนการทางยุติธรรม

การใช้อิทธิพลของผู้มีอิทธิพลและนายทุนเข้ามากดดันและสนับสนุนคุกคามพยานและสุดท้ายคือการส่งบุคคลอันตรายในลักษณะของมือปืนไปคุกคามพยานและใช้ความรุนแรง เพื่อให้พยานหวาดกลัวและไม่กล้าเข้ามาให้ข้อมูล

ตนจึงหวังว่า ทางรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐมีความจริงใจและตั้งใจจริงในการกวาดล้างความเคลื่อนไหวทั้ง 3 ขบวนการ ไม่ว่าจะเป็นบรรดานักการเมืองและนักธุรกิจสีเทาที่เป็นนายทุนสนับสนุนการคุกคามพยาน รวมทั้งกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลและซุ้มมือปืนขนาดใหญ่เพื่อความปลอดภัยของพยานและพี่น้องประชาชน ซึ่งตนมองว่า ทั้ง 3 ขบวนการถือเป็นภัยต่อความมั่นคงและระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย

นอกจากนี้ ตนยังได้ยื่นหนังสือถึงประธานรัฐสภาเพื่อส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญสั่งการให้บรรดาสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกไปแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการฮั้ว สว. หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตนหวังว่าจะเป็นมาตรฐานเดียวกันกับที่ ป.ป.ช. ใช้ชี้มูลความผิดสมาชิกวุฒิสภา และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา เนื่องจากตนยังไม่เห็นว่า บรรดาสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น จะแสดงความรับผิดชอบและมีจิตสำนึกในเรื่องจริยธรรมทางการเมือง มีแต่ออกมาให้สัมภาษณ์อ้างว่า ตนเองมาจากกฎหมายที่มีศักดิ์สูงกว่าและกดเหยียดคนอื่นว่ามีศักดิ์ต่ำกว่า บางรายไม่สื่อสารอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน ถึงขนาดเดินหนีหรือพูดภาษาต่างประเทศในจังหวะที่ไม่ถูกกาลเทศะ ซึ่งตนเชื่อว่าสิ่งนี้สังคมไทยรับไม่ได้

พวกตนยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการที่จะกำจัดสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้กลุ่มสำรองขึ้นไปเป็นแทน เพียงแต่รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งอี้ แทนคุณยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนการประชุมเลือกสมาชิกวุฒิสภา ได้มีการรวมกลุ่มกันใกล้เคียงสนามกีฬาแห่งชาติ เพื่อประชุมฮั้วการเลือก สว. ดังนั้น การกล่าวอ้างว่าไม่มีการนัดหมายกันนั้น ตนคนหนึ่งที่ไม่เชื่อ ยิ่งคะแนนบางคนที่โดดไปมากกว่าคนอื่นนั้น จึงมองว่าถ้าไม่มีการพูดคุยตกลงกัน ก็ไม่มีทางจะได้คะแนนมากแบบนี้ เช่นเดียวกับการใส่เสื้อหรือใส่สัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกว่าเป็นสีไหนหรือพวกใคร ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มีแค่สีน้ำเงินแค่พวกเดียว

ภายหลังจากยื่นหนังสือเสร็จ เจี๊ยบ พิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร สมาชิกวุฒิสภาสำรอง ได้ร้องเพลงให้สื่อมวลชนฟัง โดยบอกว่าเป็นเพลงที่เพิ่งแต่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีชื่อเพลงว่า "ลมหนาวในหน้าร้อน" ซึ่งเปรียบเปรยว่า หมายเลขที่กลุ่ม สว.สีน้ำเงินได้รับ เสมือนเป็นลมหนาวที่พัดมาในช่วงหน้าร้อนอันทำให้เย็นยะเยือกใจ ซึ่งเจี๊ยบ พิสุทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า ถ้าคุณถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัวการตรวจสอบ ให้พร้อมรับการตรวจสอบ แล้วประชาชนจะแซ่ซ้องสรรเสริญ ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า "สตช. ช่วยด้วยครับ"


สำหรับจังหวัดที่คณะสมาชิกวุฒิสภาสำรองระบุว่า เป็นพื้นที่ที่พบการฮั้ว สว. เป็นจำนวนมาก 15 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ สุรินทร์ บุรีรัมย์ หนองบัวลำภู นราธิวาส อ่างทอง สิงห์บุรี อุทัยธานี พระนครศรีอยุธยา สตูล สมุทรสาคร สุราษฎร์ธานี พิจิตร บึงกาฬ และนครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังรวมไปถึงจังหวัดที่มีเขตติดต่อโดยรอบด้วย