“กุสุมาลวตี” ลุยฟ้องหมิ่นประมาท “อนุทิน” ปมโต้กลับเดือด กล่าวหา “กักขฬะ” จ่อยื่นสอบจริยธรรมด้วย ด้าน "ภท." รวบรวมพยานหลักฐานฟ้องกลับ

เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา พร้อมทนายความ เดินทางไปศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฟ้องยื่นหมิ่นประมาทนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังจากถูกนายอนุทินตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง จากกรณีที่นางกุสุมาลวตียื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากมีหลักฐานว่าพรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา


โดยนางกุสุมาลวตี เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนเองเดินทางมาเพื่อยื่นฟ้องนายอนุทินในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการที่นายอนุทินพูดจาดูถูกตนและใช้คำพูดรุนแรงว่า "กักขฬะ" ทั้ง ๆ ที่ตนใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญในการร้องเรียนให้หน่วยงานตรวจสอบพฤติกรรมของพรรคภูมิใจไทย ด้วยพยานหลักฐานที่ตนมีว่า มีมูลความผิดหรือไม่ รวมทั้งการสร้างเรื่องหาว่าตนเคยสังกัดพรรคชาติพัฒนามาก่อนนั้น ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด


ซึ่งสิ่งที่นายอนุทินพูดนั้น ถือเป็นการด้อยค่าและทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติยศของตนเองอย่างมากจากการที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายสมัย คำพูดของนายอนุทินนั้นไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งและถือว่าเป็นการดูถูกทั้งครอบครัวตัวเองที่เป็นนักการเมือง รวมทั้งชาวจังหวัดมหาสารคามซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนเองอีกด้วย ส่วนการเรียกค่าเสียหายนั้น ตนจะยื่นฟ้องศาลแพ่งภายหลังเสร็จสิ้นคดีอาญา ซึ่งจากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าน่าจะเรียกค่าเสียหายมูลค่า 30 ล้านบาท เพราะเนื่องจากคำพูดของนายอนุทินทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศที่ตนเองสะสมมาต้องเสียหาย


นางกุสุมาลวตี ยังบอกอีกว่า ตนเองมีอุดมการณ์ที่จะทำเพื่อประชาชนมาโดยตลอด เมื่อเห็นว่ากรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภานั้นมันไม่เป็นไปตามกฎหมายและมีการฮั้วทุจริตเกิดขึ้น โดยมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับพรรคการเมือง ตนก็มีหน้าที่ในฐานะพลเมืองคนหนึ่งที่ยื่น กกต. ให้ตรวจสอบ เพื่อเป็นการปกป้องประชาธิปไตยและไม่ให้วุฒิสภาถูกครอบงำจากพรรคการเมือง อีกทั้งที่ผ่านมาตนก็ทำงานเพื่อประชาชนมาโดยตลอด ไม่ใช่เหมือนใครบางคนที่เป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างแล้วเข้ามาสู่สนามการเมือง เพียงเพื่อหวังผลประโยชน์


ส่วนกรณีที่นางสุขสมรวย วันทนียกุล สส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ได้โพสต์พาดพิงตนเองนั้น ตนพิจารณาถ้อยคำแล้วยังไม่เข้าองค์ประกอบเป็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา แต่เป็นเพียงการดูหมิ่นซึ่งหน้า ซึ่งตนจะพิจารณาฟ้องดำเนินคดีในภายหลัง


จังหวะหนึ่ง นางกุสุมาลวตีได้พูดด้วยเสียงสั่นเครือว่า จากการที่ตนออกมาเปิดหน้าสู้ ตนก็รู้สึกกังวลในเรื่องของความปลอดภัย เพราะเนื่องจากมีนักการเมืองผู้ใหญ่ ได้ออกมาเตือนตนว่า ตนอาจจะได้รับอันตรายจากบุคคลบางกลุ่มที่จะมาเล่นงานตนจากการยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นการเล่นใหญ่เกินไป แต่ตนเองมองว่า ถ้าตนเองไม่ทำ ก็จะไม่มีใครลุกขึ้นมายืนและบ้านเมืองก็จะไม่มีคนกล้า ทำไมถึงต้องมารังแกตนและทำร้ายตน ในเมื่อตนเองมีแต่ความหวังดีต่อประเทศชาติ ตนไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แม้กระทั่งค่าทนายความตนก็ไม่มีจ่าย แล้วคุณ (นายอนุทิน) เป็นถึงระดับรองนายกรัฐมนตรี เป็นถึงผู้ใหญ่ ทำไมถึงมาพูดแบบนี้ว่าตนเองเป็นคนกักขฬะและกล่าวหาว่าตนชอบโกหก ตนเองมาเจอแบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ ทั้ง ๆ ที่ตนเองถือศีลและมองว่า คนที่โกหกได้ย่อมทำชั่วอะไรได้หมด ตนเองนั้นไม่กลัวตาย แต่ขออย่าตายอย่างโดดเดี่ยว ส่วนที่ได้ยื่นคำร้องขอคุ้มครองพยานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI นั้น อยู่ในระหว่างดำเนินการ


นางกุสุมาลวตี ยังยืนยันว่า ตนเองจะเดินหน้ายื่นยุบพรรคภูมิใจไทยต่อไป แม้ว่าจะถูกเตือนว่าอาจได้รับอันตราย และถูกพูดจาต่อว่าหยามเกียรติเช่นนี้ ตนจะไม่ถอยและไม่ถอนคำร้องกับ กกต. แน่นอน รวมทั้งหลังจากนี้จะไปยื่นร้องเรียนจริยธรรมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายอนุทินที่รัฐสภาด้วย เพราะมองว่าจริยธรรมทำของนายอนุทินอยู่ที่ไหนจากการกระทำเช่นนี้ ในฐานะบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นรองนายกรัฐมนตรีและสังคมคาดหมายว่าอาจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต


ขณะเดียวกัน นางกุสุมาลวตี ยังตอบโต้ในประเด็นที่มีนักการเมืองบางพรรคตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับที่มาของพยานหลักฐานของตนที่เสนอต่อ กกต. ซึ่งตนเองมองว่าไม่ใช่หน้าที่ที่จะต้องมาถามและไม่ใช่หน้าที่ที่ตนต้องตอบ เพราะมันเป็นเรื่องของตนและตนก็มั่นใจในพยานหลักฐาน มองว่าไปเตรียมแก้ข้อกล่าวหาตามกระบวนการไต่สวนจะดีกว่าการมาถามหาที่มาของพยานหลักฐาน


ส่วนกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภา 2 ราย ปฏิเสธว่าไม่เคยไปโรงแรม Pullman ตามที่นางกุสุมาลวตีกล่าวอ้าง นางกุสุมาลวตีมองว่า คนทำผิดจะพูดอะไรก็ได้ ต้องดูกันที่พยานหลักฐาน ถ้าหลักฐานไม่ชัดตนก็คงไม่ออกมาพูด ซึ่งตนจะเปิดพยานหลักฐานชุดนี้แน่นอน แต่ต้องรอให้ กกต. เรียกไปชี้แจงก่อน


นางกุสุมาลวตี กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเองเป็นแมว (ชื่อเล่นนางกุสุมาลวตีชื่อแมว) โดยนายชาติอาทิตย์ ทัณฑะรักษ์ ทนายความของนางกุสุมาลวตี ได้พูดเสริมขึ้นมาว่า แมวจับหนู นางกุสุมาลวตีจึงได้ขยายความต่อว่า หนูในที่นี้คือ RAT ซึ่งหนูนั้นเป็นสัตว์พาหะนำเชื้อโรค ถ้าจะให้ตนจับหนูตนคงไม่จับหรอก

นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึง กรณี ที่ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ยื่นฟ้อง นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ทำนองว่า แมวไม่กลัวหนู นั้น พรรคภูมิใจไทย ก็ได้ติดตามข่าวนี้ ซึ่งตอนนี้ต่างฝ่ายต่างใช้สิทธิ์ตัวเองในการฟ้องร้อง ส่วนในประเด็นเรื่องมูลต่างๆ ก็ต้องไปว่ากันอีกที


ส่วนความคืบหน้า การที่พรรคภูมิใจไทย ประกาศยื่นฟ้อง ขณะนี้ทีมกฎหมายของพรรค กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะเราไม่ได้ใช้แค่คลิปวันที่เจ้าตัวไปแถลงกกต. อย่างเดียว เรารวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด จากที่ออกสื่อในหลายๆทาง ที่ไปให้สัมภาษณ์ พาดพิงทางพรรค ซึ่งทีมกฎหมายของพรรคหารือกันมาตั้งแต่วันที่เริ่มมีข่าวแล้ว


ทั้งนี้คาดว่าจะยื่นฟ้องได้ ไม่สัปดาห์หน้า ก็สัปดาห์ถัดไป ไม่น่าเกินนี้ ขอรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อให้มีความแน่นหนา และชัวร์ที่สุด ซึ่งประเด็นหลักในการยื่นฟ้อง คือการพาดพิงทำให้พรรคเสียหาย