เลือกตั้งและการเมือง
“ประเสริฐ-ชูศักดิ์” เห็นใจ “ยิ่งลักษณ์” คดีจำนำข้าว หนุนทนายชงศาลหักหนี้จากเงินขายข้าว
โดย JitrarutP
23 พ.ค. 2568
42 views
“ประเสริฐ” เห็นใจ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกฯ โอดไม่ได้รับความเป็นธรรม ชี้ โครงการจำนำข้าวมีประโยชน์กับเกษตรกรชาวนา ปัดตอบอาจเป็นปัจจัยไม่ได้กลับไทยเร็วๆ นี้ “ชูศักดิ์” หนุนทนายชงศาลหักหนี้จากเงินขายข้าว
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีภาคกลางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำตัดสินให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ต้องชดใช้ค่าเสียหายส่วนระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เป็นเงิน 10,028 ล้านบาท ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้สิ่งที่อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ได้ทำนโยบายนี้ในอดีตเป็นความหวังดี และพวกเรารู้สึกว่า ท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะโครงการนี้เกษตรกรชาวนาได้ประโยชน์ และก่อนหน้านี้ศาลได้มีการวินิจฉัยว่าท่านไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ปรากฏว่าศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยว่าท่านต้องชดใช้หมื่นกว่าล้านบาท ซึ่งตนเห็นว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ มีเจตนาดีต่อประเทศชาติ แต่ต้องมาได้รับผลการตัดสินแบบนี้ก็รู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยได้มีการประเมินหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะมีผลกระทบไม่ทางตรงก็ทางอ้อมกับพรรคอย่างไรบ้าง นายประเสริฐ กล่าวว่า ในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันเลย เพราะคำวินิจฉัยเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน (22 พ.ค.) ก็คงต้องมีการหารือกันต่อไป
ส่วนผลออกมาเป็นอย่างนี้มองได้หรือไม่ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ คงไม่ได้กลับประเทศไทยได้ในช่วงนี้แน่ๆ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่ขอวิจารณ์ตรงนี้ ว่าการกลับหรือไม่กลับ การตัดสินนี้จะเป็นปัจจัยหรือไม่ ไม่ขอวิจารณ์ดีกว่า
ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ ศาลปกครองตัดสินให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้เงินกว่าหมื่นล้านบาท ว่า ก่อนอื่นตนในฐานะที่ร่วมทำโครงการนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเห็นใจนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่ตนมองว่ามีเรื่องที่พอจะอ้างความชอบธรรมได้บ้าง อย่างแรกคือศาลปกครองกลาง เคยยกคำร้องการอายัดทรัพย์ มันก็เป็นสิ่งยืนยันว่ายังมีศาลที่เห็นว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ควรที่จะรับผิดชอบ
ขณะเดียวกันความเห็นของศาลปกครองสูงสุด เมื่อเข้าที่ประชุมใหญ่ก็ยังมีความเห็นแย้ง แต่ในเมื่อศาลพิจารณาออกมาเป็นแบบนี้แล้ว ในระบบของไทยก็ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น เพียงแต่ว่าเรื่องที่ทนายเตรียมดำเนินการก็เป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะข้าวที่เป็นกรณีพิพาท หลังจากยึดอำนาจก็มีการอายัดข้าวตรงนี้ไว้ เมื่อมา สมัยนี้ ก็ทราบว่าข้าวเป็นของรัฐ และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในขณะนั้น ก็ได้นำไปจำหน่ายได้เงินก้อนหนึ่ง แต่เท่าไหร่ไม่ทราบ จึงถือเป็นทรัพย์สินที่รัฐได้มาจากโครงการนี้ ดังนั้นการใช้เหตุผลว่าควรจะมาหักลบกลบหนี้กัน ก็เป็นเหตุเป็นผล
ส่วนการยื่นพิจารณาคดีใหม่ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการยุติธรรม และการยื่นก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล แต่สิ่งที่ตนไม่มั่นใจ คือ เมื่ออ่านในคำสั่งข้อ 3 เหมือนกับว่า ศาลปกครองสูงสุดให้พิจารณาต่อไปเลย แต่ตอนแรกตนเข้าใจว่า ศาลให้ยกคำร้องของกระทรวงการคลัง เพราะคำสั่ง ของกระทรวงการคลังไม่ชอบ เลยงงว่าต้องออกคำบังคับใหม่หรือไม่ เพราะถ้าต้องออกคำบังคับใหม่ ต้องไปว่ากันในชั้นบังคับคดี แต่เมื่ออ่านข้อ 3 แล้วดูคล้ายๆกับว่าศาลให้ทำต่อไปเลย เพียงแต่ว่าต้องหักลดทอน จึงเป็นเรื่องที่ทีมทนายต้องไปพิจารณาดู ว่าเป็นอย่างไรกันแน่
ส่วนทางพรรคเพื่อไทย จะช่วยนางสาวยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ท่านอดีตนายกฯก็มีทีมทนายความดูแลรับผิดชอบอยู่ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยที่เป็นเจ้าของนโยบายนี้ หากมีอะไรที่ช่วยได้ในทางคดี ก็ไม่น่าจะขัดข้องอะไร
กรณีที่นางสาวยิ่งลักษณ์โพสต์ข้อความว่า "หมื่นล้าน ใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด"นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ธรรมดามันไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่เมื่อฟังดูแล้วนางสาวยิ่งลักษณ์คงคิดว่า สามารถที่จะแสวงหาความยุติธรรมต่อไปได้
ส่วนที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า เมื่อศาลตัดสินออกมาในลักษณะนี้ การทำนโยบายของรัฐบาลหลังจากนี้เป็นเรื่องที่น่ากังวลนั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนติดตามเรื่องนี้มา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องนโยบาย ซึ่งถือเป็นเรื่องความรับผิดชอบทางการเมือง จึงมีข้อสงสัยว่าจะสามารถนำคำวินิจฉัยของศาลฎีกา มาใช้ในคดีแพ่งได้หรือไม่ แต่หลายคนมองว่า มันเป็นคนละประเด็นไม่ควรเอามาใช้กันได้ ซึ่งเป็นเรื่องทางกฎหมายที่เข้าใจยาก พร้อมยอมรับว่า ผลคำพิพากษาของศาลปกครอง อาจจะส่งผลให้การทำนโยบายต้องคิดหนัก เพราะที่ผ่านมามีนโยบายเยอะมาก แต่ไม่มีการฟ้องร้องดำเนินการ จึงมีนักวิชาการออกมาบอกว่าต่อไปนี้คงทำอะไรไม่ได้แล้ว ทุกอย่างต้องหยุดหมด
“ข้อทักท้วงเหมือนกับว่า ศาลปกครองหยิบคำวินิจฉัยของคดีอาญามาใช้ ซึ่งเขาก็โต้แย้งว่าจริงๆแล้วเป็นคนละประเด็น ประเด็นนี้เป็นประเด็นละเมิด ส่วนอาญาก็ว่ากันไป จึงมีคนโต้แย้ง จริงๆไม่ใช่นายกฯยิ่งลักษณ์ปล่อยปะละเลยอย่างเดียว แต่ท่านก็ใช้ความระมัดระวังติดตามตรวจสอบ อันนี้เป็นรายละเอียดที่ว่ากันไป ท้ายที่สุดต้องให้ทนายความเขาว่ากันไป ดูสิว่าศาลจะว่ายังไง” นายชูศักดิ์ กล่าว
แท็กที่เกี่ยวข้อง คดีจำนำข้าว ,ยิ่งลักษณ์ชินวัตร ,ข่าวการเมือง